แม้ว่าคุณจะเป็นสาวสายสตรอง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และระมัดระวังเรื่องอาหารการกินเป็นอย่างดี น้ำหนักก็ยังขึ้นมาเกือบ 2 กิโลกรัม หากคุณคอยจดบันทึกน้ำหนักตัวเองช่วงก่อนมีประจำเดือน 1 สัปดาห์ก็จดไปได้เลยว่าน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมานั้นเกิดจากการบวมน้ำ ช่วงก่อนมีประจำเดือน 5 วันน้ำหนักของสาว ๆ มักจะเพิ่มขึ้น และกลับลดลงมาเป็นปรกติได้เองเมื่อประจำเดือนเริ่มมาตั้งแต่วันแรก ตามปรกติแล้วน้ำในร่างกายที่มากขึ้นจะทำให้หนักตัวเราขึ้นประมาณ 0.2-4 กิโลกรัม แต่โดยเฉลี่ยแล้วในผู้หญิงส่วนใหญ่น้ำหนักจะไม่เกิน 2 กิโลกรัม
เกิดจากฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ร่างกายหลั่งออกมาเพื่อเตรียมพร้อมมีเบบี๋ เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายจะทำการเก็บกักน้ำไว้มากขึ้นเป็นพิเศษ แต่เมื่อไม่มีเบบี๋กระบวนการเหล่านั้นจะสิ้นสุดลง ร่างกายหยุดกักเก็บน้ำ น้ำหนักก็จะลดลงมาอยู่ในระดับปรกติได้เอง โดยปรกติแล้วกระบวนการนี้ไม่ได้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้น้ำหนักของสาว ๆ เปลี่ยนแปลงจนถึงขนาดอ้วนขึ้น แต่อาการท้องอืดที่เกิดจากแก๊สในท้องที่มีมากขึ้นในช่วงใกล้วันนั้นของเดือนต่างหาก ที่อาจทำให้สาว ๆ รู้สึกว่าตัวบวมขึ้น และอ้วนขึ้น แต่สาว ๆ ก็ไม่ควรกังวลกับน้ำหนักตัวมากจนเกินไป วิธีเช็คน้ำหนักที่มีคุณภาพที่สุดคือ ชั่งน้ำหนักแค่สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ชั่งวันเดียวกัน เวลาเดียวกัน ใช้เครื่องชั่งน้ำหนักตัวเดิมก็จะทราบน้ำหนักที่แท้จริงของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องชั่งน้ำหนักบ่อย ๆ เพราะภาวะน้ำหนักผันผวนเป็นเรื่องปรกติที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
วิธีรับมือกับอาการบวมน้ำก่อนมีประจำเดือนที่ดีที่สุด คือ การออกกำลังกาย และดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้ร่างกายกำจัดน้ำที่กักเก็บไว้ออกไป และหลีกเลี่ยงการกินอาหารมัน ๆ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเกลือ ซึ่งจะเป็นตัวกระตุ้นให้ร่างกายกักเก็บน้ำมากขึ้น
นั่นก็เป็นเพราะความอยากอาหารในช่วงก่อนมีประจำเดือนทำให้คุณอยากกินเกลือ อาหารมัน ๆ และของหวานมากขึ้น น้ำหนักที่เกิดจากการกินตามใจปากเหล่านี้จะไม่หายไปหลังหมดประจำเดือนแน่นอน ดังนั้นช่วงก่อนมีประจำเดือน หากอยากตามใจปากก็คิดถึงน้ำหนักตัวเองที่เพิ่มขึ้นหลังหมดประจำเดือนไว้ด้วยนะคะ