หากมีเหตุฉุกเฉินไปเจ็บป่วยที่เมืองนอก ไม่ต้องกังวลว่าจะสื่อสารให้คุณหมอเข้าใจไม่ได้ เรามีประโยคง่าย ๆ พร้อมตัวอย่างอาการที่พบเจอได้บ่อย ๆ มาให้ทุกคนได้เรียนรู้กันค่ะ

บรรยายอาการเจ็บป่วย หรืออาการบาดเจ็บ

เมื่อรู้สึกไม่สบาย ให้ใช้ I’ve got… เช่น

         - I’ve got headache. (ฉันปวดหัว)

         - I’ve got a temperature. (ฉันมีไข้)

         - I’ve got a cold. (ฉันเป็นหวัด)

เมื่อรู้สึกเจ็บ โดยสามารถระบุอวัยวะ หรือตำแหน่งที่ชัดเจนได้ ให้ใช้ My … hurts. เช่น

         - My back hurts. (ฉันปวด/เจ็บบริเวณหลัง)

         - My hand hurts. (ฉันปวด/เจ็บบริเวณมือ)

         - My leg hurts. (ฉันปวด/เจ็บบริเวณขา)
 

         แต่อาจมีบางตำแหน่งของร่างกายที่มักใช้คำว่า …ache คู่กับ I’ve got เช่น

         - I’ve got headache. (ฉันปวดศีรษะ)

         - I’ve got toothache. (ฉันปวดฟัน)

         - I’ve got backache. (ฉันปวดหลัง)

เมื่อต้องการบรรยายถึงอาการ หรือปัญหาทางสุขภาพทั่ว ๆ ไปที่เราเป็นอยู่ ให้ใช้ I feel… เช่น

         - I feel tired often. (ฉันรู้สึกเหนื่อยอยู่บ่อย ๆ)

         - I don’t feel very well. (ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไร)

         - I feel much better after taking that tablet. (ฉันรู้สึกดีขึ้นมากหลังจากกินยาตัวนั้น)

เล่าถึงเหตุการณ์หรือสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการต่าง ๆ ขึ้น

ใช้ Past tense เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นและจบไปแล้ว เช่น

         - I burnt my finger. (ฉันทำน้ำร้อนลวกนิ้ว)

         - I hit my head against the wall. (ฉันหัวโขกกำแพง)

         - I fell off the ladder. (ฉันตกบันได)

         - I fell down the stairs. (ฉันตกบันได)

ถ้าบรรยายถึงสิ่งที่เราทำได้อย่างยากลำบาก ให้ใช้ I can’t… เช่น

         - I can’t walk without support. (ฉันเดินเองไม่ได้)

         - I can’t breathe properly. (ฉันหายใจลำบาก/ไม่สะดวก)

         - I can’t lift my arm. (ฉันยกแขนไม่ได้)

         - I can’t bend my knees. (ฉันงอเข่าไม่ได้)

ถ้าเป็นอาการที่เกี่ยวข้องกับกระดูก เช่น แขน/ขาหัก ให้ใช้ I’ve broken… เช่น

         - I fell off the ladder and broke my leg. (ฉันตกบันไดทำให้ขาหัก)

         - I’ve broken my arm. (แขนของฉันหัก)

         - I’ve broken a tooth. (ฟันของฉันหัก)