การใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อประโยชน์ในทางสันติมีความจำเป็นและสมควรส่งเสริมเพื่อการพัฒนาประเทศประกอบกับประเทศไทยได้เข้าเป็นประเทศภาคีสมาชิกของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency - IAEA) จึงจำเป็นต้องมีการควบคุมการใช้ประโยชน์จากพลังงานนิวเคลียร์ให้ปลอดภัยและเป็นไปตามหลักวิชาสอดคล้องกับแนวปฏิบัติตามมาตรฐานสากลในการควบคุมและป้องกันอันตรายจากรังสี
โดยการตราพระราชบัญญัติพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๐๔ และแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๐๘ ออกบังคับใช้ ทั้งนี้ผู้ใช้พลังงานนิวเคลียร์จำเป็นต้องทราบและปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ที่ได้ตราไว้ในพระราชบัญญัติพลังงานปรมาณูเพื่อสันติดังกล่าวและกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องโดยมีสาระสำคัญดังต่อไปนี้
๑. ผู้ผลิต ผู้ใช้ ผู้ครอบครอง การขนย้าย หรือนำเข้าและส่งออกสารกัมมันตรังสีและต้นกำเนิดพลังงานนิวเคลียร์ชนิดอื่นใดจะต้องได้รับใบอนุญาตจากคณะกรรมการพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ
๒. ต้องมีผู้รับผิดชอบดำเนินการทาง ด้านเทคนิคในเรื่องรังสี มีเครื่องมือตรวจวัดรังสี และเครื่องมือระงับ หรือป้องกันอันตรายจากรังสี
๓. ต้องอบรมบุคคลที่ทำงานในบริเวณรังสีให้เข้าใจถึงอันตรายจากรังสี
๔. มิให้บุคคลที่ทำงานในบริเวณรังสีได้รับรังสีทั่วร่างกายเกิน ๕๐ มิลลิซีเวิร์ตต่อปี
๕. มิให้บุคคลภายนอกได้รับรังสีเกิน ๕ มิลลิซีเวิร์ตต่อปี
๖. ต้องติดป้ายเตือนภัยอันตรายจากรังสีอย่างชัดเจน
๗. การทิ้งหรือขจัดวัสดุกัมมันตรังสีต้องปฏิบัติตามวิธีที่คณะกรรมการพลังงานปรมาณูเพื่อสันติให้ความเห็นชอบ