ได้มีการพัฒนาและนำเอาพลังงานนิวเคลียร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ทางด้านอุตสาหกรรมอย่างแพร่หลายและสามารถจำแนกออกเป็น ๓ แบบ ตามวิธีการของเทคโนโลยีนิวเคลียร์ ดังนี้
ก. อุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับการผลิตเรือสินค้า เรือเดินสมุทร เรือตัดน้ำแข็ง เรือดำน้ำที่ใช้พลังงานนิวเคลียร์
ข. อุตสาหกรรมเกี่ยวกับการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
การใช้รังสีพลังงานสูงมาฉายรังสีวัสดุเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมี ทางชีววิทยา และทางกายภาพ เพื่อประโยชน์ในด้านการปรับปรุงคุณภาพของวัสดุ การกำจัดจุลินทรีย์บางชนิดในอาหารโดยมีตัวอย่างดังต่อไปนี้
ก. การฉายรังสีอาหาร
ประเทศไทยมีศูนย์ฉายรังสีอาหารและผลิตผลการเกษตรซึ่งขึ้นอยู่กับสำนักงานพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ โดยเปิดเป็นทางการตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๓๒ ใช้ไอโซโทปโคบอลต์-๖๐ มีกัมมันตภาพรังสีตอนเริ่มต้น ๔๔,๐๐๐ คูรี สามารถให้บริการฉายรังสีอาหารและผลิตผลการเกษตรที่สำคัญ คือ เครื่องเทศ สมุนไพร ผลไม้ กุ้งแช่แข็ง หอมหัวใหญ่ กระเทียม แหนม ถั่วเขียว และมะขามหวาน
ข. อุตสาหกรรมการปลอดเชื้อจุลินทรีย์
รังสีแกมมาจากไอโซโทปโคบอลต์-๖๐ ได้นำมาใช้ในอุตสาหกรรมการปลอดเชื้อโรคในผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ ได้แก่ เวชภัณฑ์ เภสัชภัณฑ์ และเนื้อเยื่อ โดยมีจำนวนมากกว่า ๑๔๐ โรงงาน ใน ๔๐ ประเทศ สำหรับประเทศไทยมีโรงงานอุตสาหกรรมปลอดเชื้อจำนวน ๕ แห่ง
ค. อุตสาหกรรมพอลิเมอร์
รังสีแกมมาหรืออิเล็กตรอนสามารถไปช่วยเร่งการเกิดปฏิกิริยาในการผลิตสารพวกพอลิเมอร์ต่าง ๆ เช่น
การใช้วัสดุกัมมันตรังสีและเทคนิคทางรังสีซึ่งเรียกว่า “เทคนิคนิวเคลียร์” มาใช้ประโยชน์ในระบบตรวจวัดและควบคุมต่าง ๆ ของโรงงานอุตสาหกรรม ปัจจุบันมีการใช้อย่างแพร่หลายในประเทศไทย มีตัวอย่างคือ