ถ้าเป็นเรื่องการแต่งหน้า บางครั้งลำดับก่อนหลังและชนิดของเครื่องสำอางรูปแบบต่าง ๆ กว่าจะทำให้สวยเป๊ะ สวยปังได้อาจทำให้สาว ๆ ต้องปวดหัวไปกับความยุ่งยากและเสียเวลาไปมากมายโขเลยใช่ไหมคะ

ขึ้นชื่อว่าการแต่งหน้า อย่างไรก็จำเป็นต้องมีหลายขั้นตอน ทั้งการวาด ปาด ปัด แต้ม และทา แม้จะใช้ความระมัดระวังขนาดไหน ความผิดพลาดก็อาจเกิดขึ้นได้เสมอในเกือบจะทุกขั้นตอนการแต่งหน้าเลยก็ว่าได้ ยิ่งมือใหม่เลยยิ่งเครียด

แต่...มันก็ต้องมีทางออกสำหรับทุกเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องสำคัญสุด ๆ กับผู้หญิง อย่างเรื่องความสวยความงาม เราจึงไปค้นหาจนเจอ 17 ทริคเจ๋ง ๆ ที่จะเปลี่ยนขั้นตอนการแต่งหน้าแสนยุ่งยากอย่างการกรีดขอบตา คอนทัวร์หน้า เขียนขอบปาก หรือแม้แต่การทำ Smoky Eyes ให้ง่ายและดูสมบูรณ์แบบราวกับมีช่างแต่งหน้ามืออาชีพมาทำให้

1. ลงคอนซิลเลอร์ให้ถูกวิธี

หลายคนมักจะลงคอนซิลเลอร์โดยการแต้มเป็นจุดในบริเวณที่ต้องการปกปิด แต่วิธีที่ดีที่สุดคือ ควรลงให้เป็นรูปสามเหลี่ยมบริเวณใต้ตาโดยเริ่มวาดฐานสามเหลี่ยมที่ปลายขอบขนตาล่างจนสุดปลายที่บริเวณแก้ม แล้วเกลี่ยให้ทั่วด้วยนิ้วมือหรือฟองน้ำ การทาคอนซิลเลอร์เป็นรูปสามเหลี่ยมจะช่วยปกปิดรอยแดงด้านข้างและด้านล่างของดวงตา และยังช่วยสร้างแสงเงาให้ใบหน้าแลดูยกกระชับขึ้นด้วยการทำให้บริเวณใต้ตาดูสว่างขึ้นนั่นเอง

2. ลงสีอายแชร์โดว์ให้โดดเด้ง

อยากให้อายแชร์โดว์สีอ่อนดูเปล่งประกายโดดเด้งขึ้นกว่าเดิมใช่ไหม เพียงใช้อายไลน์เนอร์แบบดินสอสีขาวลงเป็นเบสให้ทั่วเปลือกตาก่อนลงสี ความทึบและความข้นของเนื้ออายไลน์เนอร์สีขาวจะช่วยให้อายแชร์โดว์สีอ่อนแบบเดิม ๆ ของคุณดูเจิดจ้าโดดเด้งกว่าเดิม ไม่กลืนไปกับสีผิว

3. วิธีเกลี่ยดวงตา Smoky ให้ติดแน่นทนนาน

Smoky Eyes ทำเองง่าย ๆ ด้วยการใช้อายไลน์เนอร์ดินสอวาดเครื่องหมายสี่เหลี่ยมบริเวณหางตา แล้วเกลี่ยให้ดูฟุ้ง ๆ ทั่ว ๆ เพียงเท่านี้ก็จะได้ Smoky Eyes ที่สวยเก๋ติดทนราวกับมีช่างแต่งหน้ามืออาชีพมาแต่งให้แล้ว

4. ทาปากให้ริมฝีปากอิ่มสวย

เขียนขอบปากด้วยดินสอเขียนขอบปากสีเดียวกับลิปสติกที่ต้องการ วาดตัว X ที่ร่องริมฝีปากบน จากนั้นใช้ลิปสติกสีที่เลือกไว้ทาตามลงไป เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ริมฝีปากที่ดูอวบอิ่มน่าจุ๊บแล้ว

5. วิธีทำอายไลน์เนอร์แบบเจลด้วยตัวเอง ใน 20 วินาที

นำดินสออายไลน์เนอร์ที่เหลาแหลมมาอังกับไฟแช็กประมาน 2 วินาที ทิ้งให้เย็นอีก 15 วินาที เพียงเท่านี้คุณก็จะได้อายไลน์เนอร์เจลมากรีดตาคม ๆ ได้ลื่นปื๊ดแล้ว

6. วีธีกรีดขอบตาแบบ Cat-eye ทำเองก็ได้

เริ่มด้วยการวาดเส้นบาง ๆ ที่ขอบตาให้เป็นได้รูปหางตายาวแบบตาแมวก่อนแล้วใช้อายไลน์เนอร์แบบปากกาค่อยๆระบายสีจนเต็มเพียงเท่านี้ก็ได้ขอบตาคมสวยแบบนางแมวแล้ว

7. ใช้ช้อนช่วยเขียนขอบตา

มีปัญหาเรื่ององศาในการกรีดหางตาเหรอ จัดการง่าย ๆ ด้วยช้อนเพียงคันเดียว โดยใช้ด้ามช้อนทาบที่หางตามองศาที่ต้องการ แล้วใช้อายไลน์เนอร์ลากเส้นลงไป จากนั้นใช้ส่วนโค้งด้านบนช้อนเพื่อวาดเส้นโค้งบนเปลือกตา ก็จะได้ความเฉียงและความโค้งของขอบตาที่เพอร์เฟ็กแล้ว

8. ช้อนคันเดิมช่วยป้องกันไม่ให้เปลือกตาเลอะมาสคาร่า

ก็ปัดมาสคาร่าแบบเดิม เพิ่มเติมคือใช้ช้อนซ้อนไว้ด้านหลัง แค่นี้ก็ไม่ต้องกลัวมาสคาร่าเลอะเปลือกตาที่เราลงสีไว้เรียบร้อยแล้ว

9. ใช้น้ำตาเทียมแก้ปัญหามาสคาร่าแห้ง

โดยปรกติแล้วสาว ๆ ไม่ควรเก็บมาสคาร่าที่เปิดใช้แล้วไว้เกิน 3 เดือน เพราะอาจเป็นแหล่งสะสมแบคทีเรียจนก่อให้เกิดการติดเชื้อกับดวงตาได้ แต่หากมาสคาร่าของเราเกิดแห้งก่อนครบ 3 เดือนก็ยังไม่ต้องทิ้งค่ะ เพียงแค่เติมน้ำเกลือหรือน้ำตาเทียมลงไปเล็กน้อย ก็จะช่วยให้มาสคาร่ากลับมาเนื้อเนียนได้อีกครั้ง แต่ถ้าเก็บนานเกิน 3 เดือนไปแล้วก็ทิ้งเถอะค่ะ

10. อุ่นที่ดัดขนตาด้วยไดร์เป่าผมก่อนเพื่อให้ดัดขนตาได้ง่ายขึ้น

หลักการคล้ายกับเครื่องม้วนผม คือ การใช้ความร้อน วิธีนี้จะช่วยให้คุณดัดขนตาให้งอนยาวได้ง่ายและนานขึ้น วิธีทำก็ง่ายกว่าม้วนผมเยอะ เพียงแค่ใช้ไดร์เป่าผมเป่าที่ดัดขนตาจนร้อน จากนั้นทิ้งให้เย็นลงจนเหลือแค่ความอุ่น ๆ (อย่าใช้ทั้ง ๆ ที่ยังร้อนเพราะอาจทำให้หนังตาไหม้ได้) แล้วหนีบลงไปที่ขนตาตามปรกติ

11. ปัดแป้งฝุ่นบาง ๆ ที่ขนตาก่อนปัดมาสคาร่าช่วยให้ขนตางอนเด้งกว่าเดิม

เพราะแป้งฝุ่นจะช่วยให้มาสคาร่าเกาะขนตาได้มากขึ้น ทำให้ขนตาดูยาวและงอนขึ้น

12. ใช้ปลายกิ๊บดำทากาวติดขนตาปลอม

ใช้ปลายกิ๊บดำจุ่มกาวแล้วทาให้ทั่วฐานขนตาปลอมช่วยให้ทากาวได้สะดวกขึ้น ทิ้งไว้สักครู่พอกาวเริ่มหมาดๆก็นำมาตดขนตาได้เลย

13. ใช้กระดาษทิชชู่และแป้งฝุ่นช่วยให้ลิปสติกติดนานและเฉดสีคมชัดขึ้น

หลังทาลิปสติกเสร็จให้วางกระดาษทิชชู่ซับที่ปาก แล้วปัดแป้งฝุ่นใสตามลงไปบาง ๆ ฟังดูอาจยุ่งยากแต่ก็ให้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่านะจ๊ะ แป้งฝุ่นใสเนื้อบางเบาเมื่อไปผสมกับสีลิปติกจะช่วยเพิ่มความสว่างให้เฉดสี ทำให้ดูคมชัดขึ้น ส่วนกระดาษทิชชู่ก็จะเป็นปราการช่วยล็อกและเสริมการปกป้องสีลิปสติกไว้ไม่ให้สีจางง่าย และติดแน่นบนริมฝีปากยาวนานขึ้นกว่าเดิม

14. เติมขี้ผึ้งหรือปิโตรเลียม เจลลี่ลงในอายแชร์โดว์ฝุ่นจะได้ลิปกลอสสุดวิ้งไม่ซ้ำใคร

หากอยากได้ลิปกลอสเฉดแปลก ๆ ทำได้ง่าย ๆ ด้วยอายแชร์โดว์แบบฝุ่น หาสีที่ต้องการแล้วน้ำมาผสมกับขี้ผึ้งหรือปิโตรเลียม เจลลี่ลงบนช้อนก็จะได้ลิปกลอสเฉดใหม่มาเพิ่มความวิ้งให้ริมฝีปากแบบไม่เหมือนใครแล้ว

15. ใช้ดินสอ ปากกา หรือด้ามแปรงสำหรับแต่งหน้าเป็นตัวช่วยวัดแนวกระดูกโหนกแก้มเพื่อให้การคอนทัวร์หน้าดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

เพราะสัดส่วนโครงหน้าแต่ละคนไม่เหมือนกัน วิธีคอนทัวร์หน้าสุดปังของเพื่อนหากมาใช้กับหน้าเราอาจพังได้ เพื่อให้ได้การคอนทัวร์หน้าที่เหมาะกับเราที่สุด จะได้รู้ว่าตรงไหนควรลงไฮไลท์หรือเฉดดิ้ง ทำได้ง่าย ๆ โดยใช้ดินสอ ปากกา หรือด้ามแปรงสำหรับแต่งหน้า วางทาบลงไปบริเวณโหนกแก้มแล้วลงสี Bornzer เฉดดิ้งที่ใต้โหนกแก้ม จากนั้นใช้แปรงเกลี่ยให้เนียน เท่านี้ก็จะได้การคอนทัวร์โครงหน้าให้ดูสวยเป็นธรรมชาติแล้ว

16. ใช้เจลอายไลน์เนอร์ลงเฉดดิ้งหน้าแทนคอนซิลเลอร์สีเข้ม

หลังทารองพื้นแล้วลงเฉดดิ่งที่ใต้โหนกแก้ม กรอบหน้า ขมับ สันจมูก ปลายจมูก แนวกราม และรอยพับหนังตาบนด้วยอายไลน์เนอร์แบบเจลแทนคอลซิลเลอร์สีเข้ม เพราะเม็ดสีที่แน่นกว่า เนื้อเนียนละเอียดกว่า ทำให้เกลี่ยง่าย ยิ่งถ้าใช้แบบที่เป็นดินสอจะทำให้วาดกรอบหน้าได้ง่ายขึ้นด้วย

17. ใช้กระดาษรองนั่งชักโครกซับหน้า

ฟังดูน่าขยะแขยงใช่ไหมล่ะ แต่คุณสมบัติของกระดาษรองนั่งชักโครกนั้นดูดซับความมันได้ดีพอ ๆ กับกระดาษซับมันสำหรับใบหน้าเชียวนะ หากหน้าเยิ้มขึ้นมากลางงานแล้วลืมพกกระดาษซับหน้ามันติดตัวไปด้วย ก็เดินตรงไปที่ห้องน้ำได้เลย

แต่ละทริคจัดว่าเด็ด และเป็นเคล็ดลับที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน สนใจข้อไหนลองนำไปทำตามดู หรือจะหยิบไปใช้ครบทุกข้อก็ไม่ว่ากัน แล้วลองมาแชร์ประสบการณ์กันดูหรือมีวิธีแต่งหน้าง่าย ๆ แต่ได้ผลลัพธ์แบบมืออาชีพก็นำมาแบ่งปันกันได้นะคะ เพียงเท่านี้การแต่งหน้าให้สวยเป๊ะแบบมืออาชีพก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้ว จริงไหมจ๊ะสาว ๆ