การจัดการเรียนแบบสะเต็มศึกษา จึงไม่เน้นการท่องจำทฤษฎีหรือกฎเกณฑ์เพียงอย่างเดียว หากแต่ยังสร้างความเข้าใจทฤษฎีหรือกฎเหล่านั้นผ่านการปฏิบัติให้เห็นจริง ควบคู่ไปกับหาข้อมูล การคิดวิเคราะห์ การตั้งคำถาม รวมไปถึงการแก้ปัญหาอีกด้วย
เพื่อพัฒนาการศึกษาไทยในศตวรรษที่ 21 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ล้านนา จึงได้จัดทำโครงการ Chevron Enjoy Science ขึ้นมา โดยได้รับการสนับสนุนจากบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ร่วมกับสำนักคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ จัดตั้งหน่วยงาน TVET HUB LANNA ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาบุคลากรทางด้าน STEM for TVET หรือการใช้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์มาร่วมแก้ไขปัญหาภาคอุตสาหกรรมของประเทศ
ในปี 2560 นี้ ถือว่าเป็นปีที่ 2 ของการดำเนินงานเพื่อตอบสนองกับความต้องการกำลังคนในภาคอุตสาหกรรม โดยหน่วยงาน TVET HUB LANNA ได้จัดทำโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ การจัดการเรียนการสอนเพื่อบูรณาการการศึกษากับภาคอุตสาหกรรมผ่านกระบวนการ 7E ให้กับคณะครูจากวิทยาลัยอาชีวศึกษาและโรงเรียนมัธยมศึกษาจากภาคเหนือ ให้มีวิธีการสอนรูปแบบใหม่ที่จะสามารถดึงความสนใจของนักเรียน มุ่งเน้นการถ่ายโอนความรู้ ด้วยกระบวนการ 7E ได้แก่ Elicit-ตรวจสอบความรู้เดิม Engage-สร้างความสนใจ Explore-สำรวจและค้นหา Explain-อธิบาย Elaborate-ขยายความรู้ Extend-นำความรู้ไปใช้ และ Evaluate-ประเมิน เพราะครูผู้สอนคืออีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะสร้างความสำเร็จให้กับเด็ก
นอกจากนี้ อาจารย์จากวิทยาลัยเทคโนโลยีและสหวิทยาการ มทร.ล้านนา ยังได้ถ่ายทอดความรู้ให้กับคณะครูของโรงเรียนลองวิทยา จังหวัดแพร่ ในการสร้างหุ่นยนต์ที่เลียนแบบมาจากแมงมุม และสุนัข เป็นเวลาถึง 5 วัน ซึ่งครูจากสาขาวิชาต่าง ๆ ได้ช่วยกันสร้างหุ่นยนต์หลังจากได้รับความรู้ ตั้งแต่กระบวนการออกแบบ ประกอบชิ้นส่วน ติดตั้งอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ การเขียนโปรแกรมควบคุมหุ่นยนต์ให้เคลื่อนไหวได้ตามที่ต้องการ เพื่อใช้ถ่ายทอดแบบความรู้และเป็นสื่อนำร่องการเรียนการสอนให้กับนักเรียนต่อไป
ในการจัดโรดโชว์ STEM for TVET ที่โรงเรียนลองวิทยา เต็มไปด้วยกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ การปรับแต่งหุ่นยนต์ให้สมบูรณ์เพื่อเตรียมตัวในการแข่งขัน การทดลองออกแบบและเขียนโปรแกรมของหุ่นยนต์ การประกอบโปรแกรมเข้ากับชิ้นส่วน และไฮไลท์สำคัญของงานอย่างการแข่งขันบังคับหุ่นยนต์ ที่นักเรียนต่างให้ความสนใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีการแนะนำเกี่ยวกับเส้นทางการศึกษาสายอาชีพให้กับนักเรียนและผู้ปกครอง ที่จะช่วยให้เด็กมองเห็นความถนัดและอนาคตของตัวเองอีกด้วย
|นางสาวขจรศรี สุทธสังข์ ครูวิชาฟิสิกส์ โรงเรียนลองวิทยา กล่าวว่า จากการได้ไปเข้าร่วมการอบรมทั้งความรู้ด้านเทคนิคและวิธีการสอนแบบ 7E มั่นใจว่าจะทำให้นักเรียนมีความรู้ความสามารถเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เพราะบางกระบวนการที่นักเรียนสายสามัญมองว่าเป็นเรื่องยาก มทร.ล้านนาก็ได้เข้ามาช่วยเติมเต็ม กิจกรรมนี้ถือว่าเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ทราบถึงศักยภาพของตัวเอง มองเห็นทางเลือกในอนาคต โดยส่วนตัวแล้วพอใจกับผลงานหุ่นยนต์ที่ออกมา ซึ่งครูทุกคนเต็มใจที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และพร้อมที่จะนำความรู้เหล่านี้ส่งต่อให้กับนักเรียน
นาย ชินดนัย จันตาแปง หรือน้องอั๋น นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนลองวิทยา กล่าวว่า ได้เข้าร่วมโครงการ STEM for TVET มาเป็นปีที่ 2 แล้ว เพราะรู้สึกชอบและสนุกที่ได้ลองออกแบบหุ่นยนต์ ออกแบบโปรแกรมที่ทำให้หุ่นยนต์เคลื่อนไหวตามที่ต้องการ แม้ว่าปกติจะมีชั่วโมงเรียนสัปดาห์ละ 2 วัน รวมไปถึงการไปเรียนเพิ่มเติมที่เชียงใหม่ในช่วงปิดภาคเรียนอยู่แล้ว แต่พอมีการมาสาธิตทำหุ่นยนต์ที่โรงเรียนก็รู้สึกดีใจมาก เพราะทำให้ได้ต่อยอดทางความคิดเพิ่มขึ้น
นายณัฐกฤต ปราบปราม หรือน้องกิจ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนลองวิทยา กล่าวว่า รู้สึกสนุกที่ได้ช่วยครูทำตัวยึดรถ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงสร้างของหุ่นยนต์ โดยส่วนตัวแล้วชอบการแต่งรถมาตั้งแต่เด็ก จึงสนใจและตั้งใจที่จะเรียนต่อในสายวิชาชีพ เพราะมั่นใจว่าเมื่อเรียนจบไปจะมีงานรองรับอย่างแน่นอน อีกทั้งยังอยากให้มีการจัดกิจกรรมเช่นนี้บ่อย ๆ เพราะเป็นการเปิดโอกาสที่ดีให้กับเด็ก
นับว่าเป็นอีกหนึ่งแนวทางการศึกษาที่ช่วยสร้างเสริมประสบการณ์ ทักษะชีวิต และความคิดให้กับเด็ก ซึ่งจะเป็นการส่งต่อกลุ่มคนคุณภาพให้กับภาคอุตสาหกรรมของประเทศต่อไปในอนาคต