เมื่อคู่รักทั้งสองคนได้ตกลงปลงใจในการแต่งงานกันแล้ว หลายคนไม่ได้มี ฃการวางแผนเรื่องเงินเก็บเพื่อสานฝันในวันแต่งงาน จึงหยิบยืมเงินมาจากคนอื่นๆ ทำให้เกิดหนี้สินตามมา กลายเป็นความทุกข์ยากหลังวันแห่ง ความสุขของคู่บ่าวสาว มีหลายคู่ที่ต้องทำงานใช้หนี้งานแต่งงานกันไปอีกหลายปี การวางแผนออมเงินเพื่อการแต่งงานจึงเป็นเรื่องที่คู่รักทุกคู่ควรเตรียมพร้อม เพื่อความสุขสมบูรณ์แบบครั้งหนึ่งในชีวิตคู่
เพื่อแสดงคำมั่นสัญญาแห่งรักของทั้งสองฝ่าย ที่สำคัญยังช่วยให้เกิดความชัดเจนของเป้าหมายและระยะเวลาวางแผนออมเงินสำหรับงานแต่งงาน โดยสามารถกำหนดคร่าวๆ ว่าจะแต่งงานกันใน อีก 2 ปี หรือ 3 ปีข้างหน้า เป็นต้น
ด้วยการประเมินรายละเอียดค่าใช้จ่ายว่าจะต้องเตรียมเงินไว้สำหรับอะไรบ้าง เช่น สินสอด แหวนหมั้น ชุดแต่งงาน ขบวนแห่ขันหมาก การจัดงานเลี้ยง และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ซึ่งควรพิจารณาทางเลือกที่จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในงานแต่งงานด้วยในขั้นตอนนี้คู่รักจะต้องช่วยกันตัดสินใจกำหนดงบประมาณให้ชัดเจน เพื่อจัดสรรเงินได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด
ทั้งหมดนี้เป็นรายการค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ซึ่งไม่ว่าจะจัดในกรุงเทพฯ หรือในเขตเมืองใหญ่ๆ ก็ต้องเตรียมเงินไว้ไม่ต่ำกว่า 150,000 บาทขึ้นไป สำหรับงานแต่งงานในโรงแรม ร้านอาหาร สมาคม หรือสโมสร แต่ถ้าจัดในต่างจังหวัดแบบประหยัดๆ เลี้ยงเฉพาะในหมู่ญาติสนิทอย่างน้อยก็ต้องเตรียมเงินไว้ 50,000 บาทขึ้นไป โดยที่ยังไม่รวมค่าสินสอดทองหมั้น แหวนแต่งงานของคู่บ่าวสาวอีกด้วย
พอรู้เป้าหมาย ระยะเวลา และค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว ก็อย่ามัวรอช้า เริ่มเก็บเงินได้เลย โดยแบ่งออมเงินแบบรายเดือน เช่น เป้าหมายเก็บเงินสำหรับแต่งงานจำนวน 500,000 บาท ภายในเวลา 3 ปี หรือ 36 เดือน ก็ต้องเก็บเงินให้ได้เดือนละประมาณ 14,000 บาท และตกลงร่วมกันว่าจะช่วยกันออกในสัดส่วนเท่าไหร่ เช่น คนละครึ่งหนึ่ง คิดเป็นเดือนละ 7,000 บาท และอาจเก็บเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินในงานแต่งงานเพิ่มด้วย
เป้าหมายจัดงานแต่งงาน (บาท) | ระยะเวลาเก็บเงินและต้องออมเงินเดือนละ (บาท) | ||
1 ปี | 2 ปี | 3 ปี | |
50,000 | 4,167 | 2,083 | 1,389 |
100,000 | 8,333 | 4,167 | 2,778 |
500,000 | 41,667 | 20,833 | 13,889 |
1,000,000 | 83,333 | 41,667 | 27,778 |
พอรู้เป้าหมาย ระยะเวลา และค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว ก็อย่ามัวรอช้า เริ่มเก็บเงินได้เลย โดยแบ่งออมเงินแบบรายเดือน เช่น เป้าหมายเก็บเงินสำหรับแต่งงานจำนวน 500,000 บาท ภายในเวลา 3 ปี หรือ 36 เดือน ก็ต้องเก็บเงินให้ได้เดือนละประมาณ 14,000 บาท และตกลงร่วมกันว่าจะช่วยกันออกในสัดส่วนเท่าไหร่ เช่น คนละครึ่งหนึ่ง คิดเป็นเดือนละ 7,000 บาท และอาจเก็บเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินในงานแต่งงานเพิ่มด้วย
เป้าหมายแต่งงาน (บาท) | ระยะเวลาเก็บเงินและต้องออมเงินเดือนละ (บาท) เมื่อได้รับอัตราผลตอบแทน 5% ต่อปี ทบต้นทุกเดือน |
||
1 ปี | 2 ปี | 3 ปี | |
50,000 | 4,072 | 1,985 | 1,290 |
100,000 | 8,144 | 3,970 | 2,580 |
500,000 | 40,720 | 19,852 | 12,902 |
1,000,000 | 81,441 | 39,705 | 25,804 |
อย่าเพิ่มสิ่งที่ไม่จำเป็นมากเกินไปเพราะจะทำให้ค่าใช้จ่ายบานปลายได้ และก็ไม่ควรจะประหยัดจนเกินไปเพราะจะทำให้งานแต่งงานในฝันออกมาไม่ประทับใจตามที่คาดหวังไว้ หลังเสร็จสิ้นงานแต่งงานแล้วลองคำนวณดูว่า มีเงินเหลือเท่าไหร่ ก็นำเงินก้อนนั้นมาเป็นเงินกองกลางของครอบครัวเพื่อเริ่มต้นชีวิตคู่ต่อไป
ภาพปก : Pixabay