นิสัยที่แก้ไม่หายของเหล่าขาช็อปรุ่นใหม่ก็คือ การกวาดสายตา ไปเห็นป้าย Sale แล้วสัญชาตญาณสั่งให้เท้าเดินเข้าไปลองเลือกซื้อสินค้านั้นทันที ทำให้มีสิ่งที่อยากได้เต็มไปหมด ยิ่งถ้าเป็นการ Sale วันสุดท้าย รับรองได้ว่าต้องเผลอใจใช้บัตรเครดิตรูดซื้อแบบผ่อนชำระไปแน่ๆ ซึ่งก็ไม่รู้จะผ่อนไหวได้อย่างไร สุดท้ายกลายเป็นหนี้บัตรเครดิตท่วมหัวกันไป
เหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดกับเราแน่ๆ หากวางแผนช็อปปิ้งด้วย “4 เคล็ดลับ ฉลาดช็อปให้เงินเหลือเก็บ” ดังนี้
อยากซื้อของก็ต้องเก็บเงินซื้อ ไม่ใช่ซื้อก่อนผ่อนทีหลัง ต้องวางแผนดีๆ โดยกำหนดไว้เลยว่า ในแต่ละเดือนเรามีรายรับรายจ่ายเท่าไหร่ ควรจะออมเงินในแต่ละเดือนมากแค่ไหน และสุดท้ายเงินที่เหลือใช้จริงๆ ค่อยแยกออกมาเป็นเงินลั่นล้าและเงินช็อปปิ้ง
ในการซื้อของแต่ละครั้งควรถามตัวเองก่อนว่า สิ่งที่จะซื้อมีความ จำเป็นมั้ย มีของเหล่านี้อยู่แล้วหรือไม่ กรณีที่เราตัดสินใจซื้อก็ควร เปรียบเทียบคุณภาพของสินค้าและราคาก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้เราสามารถใช้ของได้อย่างคุ้มค่า และยาวนาน
การซื้อของทุกอย่างที่อยากได้อาจทำให้เราเกิดปัญหาการเงินในอนาคตได้ เพราะฉะนั้นแล้วกรณีที่เรามีของที่อยากได้หลายอย่าง ก็ควรคำนวณงบประมาณว่าเพียงพอกับการซื้อหรือไม่ ถ้าไม่เพียงพอก็เลือกสิ่งที่อยากได้มากที่สุดก่อน และเก็บเงินสะสมเอาไว้ในเดือนต่อๆ ไป เพื่อซื้อสิ่งที่อยากได้เพิ่มเติม
การซื้อของโดยไม่ได้เช็คข้อมูลประชาสัมพันธ์และสินค้าที่ร่วมรายการลดราคาเลย ก็อาจจะทำให้เราเสียโอกาสได้ ลองเช็คโปรโมชั่นจากบัตรเครดิตต่างๆ รวมถึงกิจกรรมของห้างสรรพสินค้า เผื่อเราจะได้รับส่วนลดที่น่าสนใจและทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าที่อยากได้มากขึ้น
การเป็นนักช็อปปิ้งที่ชาญฉลาดนั้น ควรรู้จักการวางแผนการเงินที่ดี รู้จักแบ่งค่าใช้จ่ายกับเงินออมให้แยกออกจากกัน และกำหนดเงินงบประมาณสำหรับช็อปปิ้งในแต่ละเดือน เพื่อนำไปเลือกซื้อของและใช้จ่ายอย่างสมเหตุสมผล รวมถึงหาข้อมูลโปรโมชั่นดีๆ ที่จะช่วยให้เราใช้จ่ายได้อย่างคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น หากเราวางแผนทุกอย่างไว้อย่างดีแล้ว แน่นอนว่าทุกคนสามารถเป็นนักช็อปปิ้งที่ยังมีเงินออมได้อย่างสบายๆ แน่นอน
ภาพปก : Shutterstock