"แฝดสยามอิน-จัน" เกิดที่จังหวัดสมุทรสงคราม มีบิดาเป็นคนจีนแต้จิ๋ว และมารดาเป็นคนไทยเชื้อสายจีน "อิน-จัน"เป็นฝาแฝดตัวติดกันคู่แรกของโลกที่มีหน้าอกติดกันและใช้ตับร่วมกัน แต่ยังสามารถดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุขยาวนานจวบจนสิ้นอายุขัยเมื่อวัย 63 ปี
เมื่อ "อิน-จัน" มีอายุได้ประมาณ 18 ปี "กัปตันคอฟฟิน" และ "โรเบิร์ต ฮันเดอร์" เจ้าของโรงมหรสพที่เมืองบอสตัน สหรัฐอเมริกา ได้เดินทางมาติดต่อการค้าที่แม่กลอง และพบเข้ากับฝาแฝดคู่นี้ จึงได้ขอนำตัวพวกเขาไปเร่แสดงโชว์ที่โรงมหรสพยังประเทศต่าง ๆ และให้เงินจำนวน 1,600 บาท เป็นค่าตอบแทนแก่มารดาของทั้งคู่
"อิน-จัน" ถูกนำไปเร่โชว์ตัวที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ การแสดงของพวกเขาได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งต่อมาทั้งสองได้แยกตัวออกจากคณะมหรสพและมาเปิดการแสดงอย่างอิสระ ทำให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้นจนมีฐานะร่ำรวย ทั้งคู่ได้นำเงินไปซื้อที่ดิน 150 เอเคอร์ (ประมาณ 380 ไร่) เพื่อปลูกข้าวโพด ยาสูบ และสร้างเนื้อสร้างตัวอยู่ที่อเมริกา
กระทั่งปี 1840 พวกเขาได้เปลี่ยนมาใช้นามสกุลว่า “บังเกอร์ “ (Bunker) เเละเปลี่ยนสัญชาติเป็นคนอเมริกัน ต่อมาอินและจันได้พบรักกับหญิงสาวสองพี่น้อง "เยสท์" และแต่งงานสร้างครอบครัว โดยอินมีบุตร 11 คน และจันมีบุตร 10 คน
ในบั้นปลายชีวิตของทั้งคู่ จันป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมอง ทำให้ร่างกายด้านหนึ่งของเขาที่ติดกับอินเป็นอัมพาต อินจึงต้องดูแลจันโดยใช้แถบผ้าคล้องขาข้างหนึ่งเอาไว้ และใช้ไม้เท้ากับแขนข้างหนึ่งของเอินช่วยพยุงเดิน และด้วยพฤติกรรมการดื่มสุราจัดของจันได้ส่งผลให้สุขภาพของอินเสื่อมโทรมลงไปด้วย กระทั่งวันที่ 17 มกราคม ค.ศ. 1874 ทั้งคู่ก็ได้เสียชีวิตลง โดยจันเสียชีวิตลงก่อน จากนั้นอีกราว 2 ชั่วโมงถัดมาอินก็ได้เสียชีวิตลง ซึ่งจากการชันสูตรและลงความเห็นของแพทย์สมัยใหม่ระบุว่า อินต้องสูญเสียเลือดให้แก่จันที่เสียชีวิตไปแล้วผ่านทางเส้นเลือดที่เชื่อมกัน และด้วยชื่อเสียงของ "อิน-จัน" แฝดตัวติดกันคู่แรกของโลกนี้ที่ทำให้เกิดคำเรียกแฝดตัวติดกันว่า "แฝดสยาม" (Siamese twins) ตามชื่อเรียกประเทศไทยในตอนนั้นนั่นเอง