เครื่องบินจะลอยตัวและบินไปได้ต้องมีองค์ประกอบที่สำคัญสี่ประการ คือ
๑. บ่อเกิดแห่งกำลัง ได้แก่ เครื่องยนต์ซึ่งจะหมุนใบพัดให้เกิดแรงฉุดหรือดันเครื่องบินให้เคลื่อนที่ไปแรงฉุดหรือดันนี้ต้องมากพอที่จะเอาชนะแรงต้านซึ่งจะรักษาสภาพอยู่นิ่งของเครื่องบินไว้
สำหรับแรงขับเคลื่อนเครื่องบินไอพ่น คือ แรงปฏิกิริยาหรือแรงโต้ตอบของแรงผลักของก๊าซร้อนซึ่งเกิดจากการเผาไหม้และพลุ่งออกทางหางของเครื่องบิน
๒. พื้นที่ให้กำลังยกหรือแรงยก ได้แก่ ปีกซึ่งพยุงยกเครื่องบินเอาไว้ในอากาศ
๓. เครื่องบังคับต่าง ๆ ซึ่งทำให้เครื่องบินเลี้ยวไปในทิศทางต่าง ๆ หรือไต่ขึ้นและร่อนลงสู่จุดหมายใด ๆ ได้ตามความประสงค์ของนักบิน
๔. ส่วนประกอบที่เป็นโครงของเครื่องบิน ได้แก่ ลำตัว ซึ่งเป็นที่สำหรับบรรทุกสิ่งต่าง ๆ และเป็นเครื่องยึดชิ้นส่วนอื่น ๆ เช่น ใบพัด ปีก หาง ทั้งยังเป็นตัวการช่วยถ่วงให้เกิดความสมดุลของแรงต่าง ๆ ที่จะทำให้เครื่องทรงตัวอยู่ได้
สำหรับฐานและล้อรับหางนั้นมีหน้าที่ช่วยรับน้ำหนักเอาไว้เมื่อเครื่องบินจอดอยู่บนพื้นดิน
เนื่องจากปีกมีคุณสมบัติทำให้เกิดแรงยกดังที่ได้อธิบายมาแล้วเมื่อเครื่องบินเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยแรงฉุดของใบพัดจนกระทั่งกระแสอากาศไหลผ่านผิวปีกทั้งสองด้านด้วยความเร็วเหมาะสม เครื่องบินก็จะลอยตัวขึ้นจากพื้นด้วยแรงยกซึ่งเกิดขึ้นบนปีกทั้งสองข้างและสามารถบินอยู่ในอากาศได้
ถ้าลดแรงฉุดของใบพัดลงกระแสอากาศที่ไหลผ่านปีกก็จะลดความเร็วลงด้วยเป็นเหตุให้แรงยกซึ่งเกิดขึ้นบนปีกต้องลดลงตามทำให้เครื่องบินไม่สามารถเกาะอากาศอยู่ต่อไปอีกและต้องเสียระยะสูงลงเรื่อย ๆ
ขณะที่เครื่องบินกำลังลอยอยู่ในอากาศถ้ากระแสอากาศที่ไหลผ่านปีกเกิดลดความเร็วลงจนกระทั่งถึงจุดหนึ่งซึ่งแรงยกไม่สามารถจะพยุงเครื่องบินทั้งเครื่องไว้ได้แล้วเครื่องบินจะร่วงหล่นคือไม่สามารถเกาะอากาศอยู่ต่อไปได้อีกและจะตกลงสู่พื้นดินตามแรงดึงดูดของโลกฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดขณะกำลังบินอยู่ในอากาศ คือ ไม่ว่าเครื่องยนต์จะยังทำงานอยู่หรือไม่ก็ตามจะต้องรักษาความเร็วของอากาศที่ไหลผ่านผิวปีกหรืออีกนัยหนึ่งรักษาความเร็วของเครื่องบินไว้เหนือความเร็วร่วงหล่นเสมอจึงจะปลอดภัย
การขับเครื่องบินไม่ยากไปกว่าการขับยานพาหนะอื่น ๆ เมื่อเครื่องยนต์เดินเรียบร้อยแล้วนักบินจะวิทยุไปที่หอบังคับการบินเพื่อขออนุญาตขับเครื่องบินไปตั้งตัวที่ปลายทางวิ่ง ณ ที่นี้นักบินจะตรวจสอบทดลองการทำงานของชิ้นส่วนเครื่องวัดและอุปกรณ์จำเป็นทุกรายการที่เขียนไว้ในคู่มือของเครื่องบินแบบนั้น ๆ เมื่อหอบังคับการบินพูดวิทยุอนุมัติให้ขึ้นบินได้นักบินจะเริ่มเร่งเครื่องยนต์ให้เครื่องบินเคลื่อนที่ออกวิ่งทวนลมนักบินต้องใช้มือและเท้าแตะไว้ที่คันบังคับคอยเลี้ยงเครื่องอย่างเบา ๆ ให้เครื่องวิ่งตรงอยู่ในทางไม่เซไปเซมาเครื่องจะค่อย ๆ เร็วขึ้น เร็วขึ้นจนกำลังยกมากกว่าน้ำหนักเมื่อใดเครื่องบินก็จะลอยตัวขึ้นสู่อากาศ ณ ระยะสูงที่ปลอดภัยนักบินจะเบาเครื่องเครื่องยนต์ลงตามเกณฑ์ในคู่มือพับฐานเก็บล้อเพื่อให้แรงต้านทานน้อยลงแล้วจะได้รับความเร็วเพิ่มขึ้นเองอีกด้วย ตอนนี้นักบินจะวิทยุบอกหอบังคับการบินว่าเครื่องบินได้ขึ้นสู่อากาศเรียบร้อยทุกอย่างแล้วและขอเลิกติดต่อกับสนามบินเจ้าหน้าที่ควบคุมพื้นที่การบินต้องทราบตำบลที่อยู่ในอากาศของเครื่องบินทุกเครื่อง ดังนั้น นักบินจึงต้องใช้วิทยุรายงานมาตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในแผนปูมเดินอากาศว่าได้บินอยู่ในระยะสูงเท่าใดทิศทางใดความเร็วเท่าใดและขณะนั้นบินอยู่เหนือตำบลอะไรเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยผู้บังคับเครื่องบินจะเปิดเครื่องจักรกลชื่อว่านักบินอัตโนมัติให้ปฏิบัติงานแทนมนุษย์ผู้ซึ่งคอยตรวจดูเพียงให้เข็มต่าง ๆ ของเครื่องวัดชี้ที่ช่องสีเขียวตลอดเวลาซึ่งเป็นการผ่อนแรงดีมาก
เมื่อใกล้ที่หมายปลายทางนักบินจะลดความสูงลงทีละน้อยพร้อม ๆ กับวิทยุเรียกหอบังคับการบินของสนามบินนั้น ๆ เพื่อขอนำเครื่องลงวงจรรอบ ๆ แต่ละสนามมีกฎเกณฑ์วิธีการดำเนินการต่างกัน ซึ่งผู้มาเยี่ยมจะต้องศึกษาและปฏิบัติตามข้อปลีกย่อยทุกอย่าง นักบินจะเหยียดฐานและล้อลงแล้วรายงานหอบังคับการบินอีกว่ากำลังร่อนทวนลมตรงมายังทางวิ่งท้ายสนามบินตามคำสั่งเมื่อใกล้พื้น นักบินจะผ่อนเครื่องยนต์ให้เดินเบาที่สุดเงยหัวเครื่องบินเพื่อให้กำลังยกลดน้อยลงกว่าน้ำหนัก ณ จุดนั้นก็บังคับเครื่องบินทอดตัวให้ล้อแปะที่พื้นปลายทางวิ่งพอดีด้วยแรงเฉื่อยที่เหลืออยู่เครื่องบินจะวิ่งต่อไปอีกนักบินจะต้องใช้มือและเท้าประคองเลี้ยงไม่ให้มีอาการเซหรือเลี้ยวออกนอกทางแต่ในเวลาเดียวกันก็ค่อย ๆ ห้ามล้อให้เครื่องวิ่งช้า ๆ แล้วนำมาจอดในลานที่หอบังคับการบินกำหนดให้ เมื่อดับเครื่องยนต์ปิดสวิตซ์ต่าง ๆ แล้วก็ได้ชื่อว่าทำการบินอย่างปลอดภัย