ปอกระเจาฝักยาว และปอกระเจาฝักกลม มีลักษณะที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนที่ฝัก ซึ่งมีรูปร่างยาว และรูปร่างกลม ส่วนอื่นๆ มีลักษณะใกล้เคียงกันมากดังนี้
๑. ระบบราก
มีรากแก้วหยั่งลงไปในดิน ลึกประมาณ ๕๐-๖๐ เซนติเมตร
๒. ลำต้น
มีความสูงยาวเรียวประมาณ ๓-๕ เมตร มีสีเขียวอ่อน แดงอ่อน หรือแดงเข้ม
๓. การแตกกิ่ง
ปอกระเจาฝักกลม อาจจะมีทั้งชนิดแตกกิ่ง และไม่แตกกิ่ง แต่ปอกระเจาฝักยาวมีการแตกกิ่ง แต่กิ่งไม่ค่อยมีการเจริญเติบโตเท่าใดนัก
๔. ใบ
เป็นใบเดี่ยว ขอบเป็นหยัก รูปร่าง กลมรี ปลายแหลม แต่ปอกระเจาฝักกลม มีขนาดใบเล็กกว่าปอกระเจาฝักยาวเล็กน้อย นอกจากนี้ปอกระเจาฝักกลม ใบยังมีรสขมกว่าใบของปอกระเจาฝักยาว
๕. ดอก
เกิดเป็นกลุ่ม ๒-๕ ดอก มี กลีบดอกสีเหลือง ๕ อัน ดอกของปอกระเจา ฝักกลมมีขนาดเล็กกว่าปอกระเจาฝักยาวประมาณ ๒ เท่า
๖. ฝัก
ปอกระเจาฝักกลม ฝักจะมีลักษณะ กลมขนาดยาว ๑.๓-๒ เซนติเมตร กว้าง ๐.๘-๑ เซนติเมตร เปลือกฝักมีลักษณะย่น สำหรับปอกระเจาฝักยาวจะมีรูปร่างเรียวยาว ๖-๑๐ เซนติเมตร กว้าง ๐.๓-๐.๘ เซนติเมตร
๗. เมล็ด
ปอกระเจาฝักกลมมีเมล็ดสีน้ำตาล ขนาดเล็กกว่าปอกระเจาฝักยาว ซึ่งมีเมล็ดสีน้ำเงินเขียวหรือเทาน้ำเงิน
๘. คุณภาพเส้นใย
ปอกระเจาฝักกลมมีเส้นใยสีขาว ส่วนปอกระเจาฝักยาวมีสีขาวเหลือง อ่อนนุ่ม และเหนียวกว่าปอกระเจาฝักกลม ปอทั้งสองชนิดนี้มีคุณภาพดีกว่าปอแก้ว
๙. สภาพพื้นที่
ปอกระเจาฝักกลมสามารถปรับตัวได้ดีกว่า สามารถเจริญเติบโตได้ดี ทั้งสภาพที่ดอน และที่ลุ่ม สำหรับปอกระเจาฝักยาวจะเจริญเติบโตได้ดีในสภาพที่ดอน ที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง
๑๐. อายุการเก็บเกี่ยว
เมื่อปอติดฝักอ่อน (๑๐๐-๑๒๐ วัน)