Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

รังสีวิทยา

Posted By Plookpedia | 25 เม.ย. 60
401 Views

  Favorite

ถ้าเราลากเส้นตรงออกไปจากจุดหนึ่งโดยรอบมากเส้นหรือน้อยก็ตามให้อยู่ในระนาบใดรอบจุดนั้นก็ตามแต่ละเส้นนั้น เรียกว่า รังสีแสงแดดจากดวงอาทิตย์แสงจันทร์จากดวงจันทร์แสงสว่างจากไส้หลอดไฟฟ้าจากไส้ตะเกียง หรือจากดวงไฟในประภาคารชายฝั่งทะเลก็ประกอบด้วยรังสีของแสงสว่างจำนวนมากนับไม่ถ้วน

 

ในทางวิทยาศาสตร์ คำว่า "รังสี" จะหมายถึงรังสีของแสงสว่างที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าก็ได้หรือจะหมายถึงรังสีของพลังงานที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าก็ได้รังสีเอกซ์หรือที่เรียกกันทั่ว ๆ ไปอย่างแพร่หลายว่า เอกซเรย์ก็เป็นพลังงานรูปหนึ่งเช่นเดียวกับแสงสว่างแต่เป็นชนิดที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่ารังสีเอกซ์นี้ไม่ได้เกิดเองตามธรรมชาติมนุษย์ต้องสร้างขึ้นโดยใช้เครื่องมือชนิดหนึ่ง เรียกว่า เครื่องเอกซเรย์

ฉายรังสี
หนังสือสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน ฯ เล่ม 9

 

 

เมื่อเราป่วยไข้ เราได้ยินเสมอๆ ว่า แพทย์สั่งให้เราไปเอกซเรย์ เพื่อหาสาเหตุว่า เราป่วยเป็นอะไร เมื่อเราไปเอกซเรย์ เจ้าหน้าที่ซึ่งเรียกว่า พนักงานรังสีวิทยา ก็จะพาเราเข้าห้องเอกซเรย์ ฉายรังสีเอกซ์ทะลุตัวเราไปถูกฟิล์มเอกซเรย์ ซึ่งเหมือนกับถ่ายรูป แต่แผ่นใหญ่กว่า แม้รังสีเอกซ์จะผ่านทะลุตัวเรา แต่เราก็จะไม่รู้สึกอะไรเลย ต่อมา เจ้าหน้าที่ก็นำฟิล์มไปล้างตามกรรมวิธีในห้องมืด ไม่ช้าก็ได้รูปตัวเราออกมา มองเห็นเนื้อหนัง กระดูก ตับ ไต ไส้พุงต่างๆ ปรากฏอยู่บนฟิล์มเอกซเรย์ รังสีแพทย์ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการใช้รังสีเอกซ์ทางแพทย์ จะเป็นผู้อ่านฟิล์มเหล่านั้น เพื่อทำรายงานการวินิจฉัยว่า เรามีโรคหรือสิ่งผิดปกติใดๆ อยู่ในร่างกายหรือไม่ เมื่อแพทย์ผู้รักษาได้อ่านรายงาน ของรังสีแพทย์แล้ว ก็จะรักษาโรคของเราได้ถูกทาง ด้วยเหตุนี้ จึงนับได้ว่า รังสีวิทยามีประโยชน์มากมาย และจำเป็นอย่างยิ่ง ในการแพทย์แผนปัจจุบัน

 

 

 

วิชาที่ช่วยวินิจฉัยโรคด้วยรังสีเอกซ์นี้เรียกว่ารังสีวินิจฉัยซึ่งในปัจจุบันได้ก้าวหน้าไปมากมายอย่างรวดเร็วจนถึงกับใช้คอมพิวเตอร์เข้าช่วยทั้งในการถ่ายภาพเอกซเรย์และในการนำข้อมูลจากภาพเอกซเรย์คอมพิเตอร์มาใช้ในการวินิจฉัยโรค

 

นอกจากนี้รังสีเอกซ์ยังใช้ฉายเพื่อรักษามะเร็งได้ด้วยทั้งหมดนี้เป็นไปได้เพราะการค้นพบรังสีเอกซ์หรือรังสีเรินต์เกนโดยศาสตราจาย์วิลเฮล์ม คอนรัด เรินต์เกน ชาวเยอรมันในปี พ.ศ. ๒๔๓๘ (ค.ศ. ๑๘๙๕) และการค้นพบเอกซเรย์คอมพิวเตอร์โดย กอดเฟรย์ นิวโบลด์ เฮาน์สฟิลด์ ชาวอังกฤษและอัลเลน แมคลีออด คอร์แมค ชาวสหรัฐอเมริกา ในปี พ.ศ. ๒๕๑๕ (ค.ศ. ๑๙๗๒) ในปัจจุบันรังสีวิทยายังครอบคลุมไปถึงวิชาว่าด้วยการเอารังสีต่าง ๆ ตลอดไปจนถึงพลังงานในรูปอื่น ๆ เช่น คลื่นเสียง รังสีแกมมา รังสีเบตา รังสีอัลฟาและรังสีนิวตรอนมาใช้ให้เป็นประโยชน์ด้วย

กอดเฟรย์ เฮาน์สฟิลด์ กับเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์
กอดเฟรย์ เฮาน์สฟิลด์ กับเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์
จาก หนังสือสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน ฯ เล่ม 9

 

 

เมื่อเรินต์เกนค้นพบรังสีเอกเรย์ใหม่ ๆ ยังไม่รู้จักผลทางชีววิทยาของรังสีเอกซ์ที่มีต่อเซลล์ของสิ่งมีชีวิตจึงทำให้เกิดอันตรายทั้งต่อคนไข้และแพทย์ตลอดจนพนักงานรังสีวิทยาแต่ปัจจุบันนี้ นักวิทยาศาสตร์และรังสีแพทย์รู้จักสมบัติต่าง ๆ ของรังสีเอกซ์และรังสีอื่น ๆ เป็นอย่างดีจึงสามารถนำรังสีเหล่านี้มาใช้ได้อย่างปลอดภัย

ข้อควรระวังที่สำคัญ คือ รังสีเหล่านี้มีทั้งคุณและโทษถ้าจะใช้ให้มีแต่คุณและปราศจากโทษจะต้องใช้โดยผู้มีความรู้ทางด้านนี้โดยตรง เช่น รังสีแพทย์หรือพนักงานรังสีวิทยาภายในความควบคุมของรังสีแพทย์เท่านั้น

 

 

 

 
เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags

Content

1
รังสีเอกซ์เกิดขึ้นได้อย่างไร
รังสีเอกซ์มิได้เกิดขึ้นโดยธรรมชาติแต่เป็นรังสีที่มนุษย์สร้างขึ้นโดยใช้ปรากฏการณ์อันหนึ่งที่ภาษาเยอรมันเรียกว่าเบรมม์ชตราห์ลุง (bremmstrahlung) ซึ่งแปลว่าสกัดกั้นหรือทำให้ช้าลงหรือทำให้หยุด (breakingradiation) เพราะรังสีเอกซ์ส
874 Views
  • Posted By
  • Plookpedia
  • 15 Followers
  • Follow