6,490 Views
Favorite
ก่อนอื่นเราต้องนำผักหรือผลไม้ไปแช่แข็งเสียก่อน แล้วนำมาปั่นให้ละเอียด อาจจะเติมนม (พร่องมันเนย) นมถั่วเหลือง กรีกโยเกิร์ต หรือน้ำเปล่า เพื่อไม่ให้เนื้อข้นเกินไป ส่วนใครที่ชอบหวานแต่อยากรักษาสุขภาพก็สามารถเติมน้ำผึ้ง น้ำตาลหญ้าหวาน หรือกล้วยสุกลงไปเล็กน้อยก็จะได้ความหวานปะแล่ม ๆ กำลังดี เราไม่ใส่น้ำแข็งนะคะ เพราะไม่อยากให้สมูทตี้จืดเกินไป เราจะใช้แต่ผักหรือผลไม้แช่แข็งล้วน ๆ ค่ะ
มะม่วงสุก มีเบต้าแคโรทีนสูง ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส สายตาแข็งแรง มีวิตามินซีที่ช่วยในการสร้างคอลลาเจนและต้านอนุมูลอิสระด้วย ที่สำคัญมีวิตามินอี ที่พบได้น้อยในผลไม้ ซึ่งวิตามินอีเมื่อทำงานร่วมกับวิตามินซีแล้วจะต้านอนุมูลอิสระได้ดียิ่งขึ้น และยังมีความจำเป็นอย่างมากในการช่วยให้ผนังเซลล์อยู่ในสภาวะปกติ ช่วยบำรุงสุขภาพผิวหนัง ประสาท กล้ามเนื้อ เม็ดเลือดแดง และการไหลเวียนของโลหิตในร่างกาย อีกทั้งช่วยให้ปอดทำงานได้ดี หัวใจแข็งแรง และภูมิต้านทานดีด้วย ขณะที่มะม่วงมีใยอาหารปริมาณมากช่วยเรื่องการขับถ่ายได้ดี
แตงโมมีวิตามินเอที่ช่วยบำรุงสายตา และมีวิตามินซีที่ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน ช่วยแก้อาการร้อนในกระหายน้ำ ปากเป็นแผล รักษาแผลในกระเพาะอาหาร ทำให้สบายท้อง ช่วยลดความดันโลหิต และช่วยขับปัสสาวะ
ฝรั่งเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงมาก ให้พลังงานต่ำ โดยปริมาณของวิตามินซีในฝรั่งจะสูงกว่าส้มราว 5 เท่า ช่วยให้ร่างกายผลิตและบำรุงรักษาคอลลาเจนให้สมบรูณ์ ช่วยเซลล์เม็ดเลือดขาวในการต่อสู้กับเชื้อโรค ทำให้แผลหายเร็วขึ้น พร้อม ๆ กับทำหน้าที่ในการต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย
แครอทเป็นผักที่มีเบต้าแคโรทีนสูง เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะถูกเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ ซึ่งช่วยรักษาสุขภาพดวงตาและมีประโยชน์ต่อผิวพรรณ ระบบภูมิคุ้มกัน และระบบการย่อยอาหาร แครอทเต็มไปด้วยใยอาหารและน้ำ ช่วยฟอกตับ ล้างพิษ เป็นแหล่งรวมวิตามินบี ซี อี และซิลิกอน ที่ช่วยทำให้ผิวพรรณเต่งตึงลดรอยเหี่ยวย่น แข็งแรง และดูอ่อนกว่าวัย
บลูเบอร์รี่อุดมไปด้วยสารแอนโทไซยานิน สารต้านอนุมูลอิสระที่มีอานุภาพในการต้านความเสื่อมของเซลล์ผิวหนัง ช่วยในการทำงานของหลอดเลือดให้สมบรูณ์ และช่วยให้การทำงานของวิตามินซี ในการเสริมเสร้างคอลลาเจนสมบรูณ์ และกรดผลไม้ในบลูเบอร์รี่ยังกระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังชั้นนอกหลุดลอกเร็วขึ้นด้วย
บีทรูทมีซิลิกอนซึ่งช่วยทำให้เนื้อเยื่อเกาะตัวกันได้ดี คอลลาเจนแข็งแรงขึ้น ช่วยชะลอการเกิดรอยตีนกา และผิวหนังเหี่ยวย่น อีกทั้งยังช่วยพยุงและเสริมความแข็งแรงให้กับเส้นผมและเล็บที่กำลังงอกได้อีกด้วย
ทับทิม นอกจากวิตามินบี 1 วิตามินบี 3 และวิตามินซีแล้ว ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลังมาก นั่นคือ มีกรดแอลลาจิกในปริมาณสูง ซึ่งกรดแอลลาจิกนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า สามารถกำจัดสารก่อมะเร็งและป้องกันโรคหัวใจในระยะเริ่มต้นได้ นอกจากนี้สารต้านอนุมูลอิสระในทับทิมยังทำหน้าที่ปกป้องผิวจากการทำลายของอนุมูลอิสระโดยตรง อีกทั้งยังช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้เป็นอย่างดี
