มะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับต้น ๆ ในผู้หญิงช่วงอายุ 35-60 ปี เกิดจากเชื้อไวรัส HPV ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงบริเวณปากมดลูก มีระยะเวลาการแสดงอาการแตกต่างกันตามแต่ละบุคคล บางรายใช้เวลาไม่กี่เดือน แต่บางรายใช้เวลานานถึง 15 ปีจึงแสดงอาการ โดยอาจเกิดจากหลายสาเหตุ ดังนี้
• มีเพศสัมพันธ์ในช่วงอายุน้อยกว่า 17 ปี (ช่วงวัยนี้มีการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ปากมดลูกมาก และมีความไวต่อสารก่อ มะเร็งสูง)
• มีคู่นอนหลายคน
• เคยมีประวัติเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
• รับประทานยาคุมกำเนิดติดต่อกันเป็นเวลานานกว่า 5 ปี
• คุณแม่ที่คลอดลูกมากกว่า 4 ครั้ง
มะเร็งปากมดลูก คร่าชีวิตของหญิงไทยไปมากถึงปีละประมาณ 5,000 คน และมีผู้ป่วยใหม่เกิดขึ้นปีละกว่า 10,000 คน ฉะนั้นการฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูกจึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยเพื่อป้องกันและลดจำนวนผู้ป่วยเป็นมะเร็งลง
กรมควบคุมโรคจึงเปิดเผยว่า ตอนนี้คณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติได้เห็นชอบเพิ่มวัคซีนมะเร็งปากมดลูก (วัคซีน HPV) ให้เป็นหนึ่งในยาหลักแห่งชาติ และเตรียมฉีดให้เด็กหญิงอายุ 11 ปี หรือเด็กที่กำลังศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งถือเป็นวัยที่เหมาะสมที่สุดในการรับวัคซีนตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก และมีอยู่ประมาณ 400,000 คนทั่วประเทศภายในปี 2560 นี้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น
นอกจากนี้ ยังมีการปรับการฉีดวัคซีนจากเดิมควรฉีด 3 เข็ม เหลือเพียง 2 เข็ม (แต่ละเข็มห่างกัน 6 เดือน) อีกด้วย