Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

ท่องโลกอนาคต...แดนปลาดิบ

Posted By Plook Magazine | 06 ม.ค. 59
1,678 Views

  Favorite

เรื่องและภาพ: กองบรรณาธิการ

 ท่องโลกอนาคต 
 แดนปลาดิบ 


ท่องโลกอนาคต...แดนปลาดิบ

 

ใครที่ชื่นชอบความก้าวล้ำนำสมัยของเทคโนโลยี ต้องไม่พลาดที่จะมาเยือนกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น รอบนี้ขอพามาบุกตะลุยชมนวัตกรรมและวิทยาศาสตร์แห่งอนาคต พร้อมเพลิดเพลินแวะเวียนย้อนรอยสู่อดีตของการกำเนิดโลก และสิ่งมีชีวิต มาเยือนโตเกียวครั้งนี้ได้ครบทุกรสกับโลกแห่งวิทยาการ

 

ว๊าว! กับหุ่นยนต์สุดล้ำ


หุ่นยนต์เก็บผลผลิตด้านการเกษตร


International Robot Exhibition 2015 (IREX)
 ณ Tokyo Big Sight บนเกาะโอไดบะ (Odaiba) งานแสดงนวัตกรรมหุ่นยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จัดขึ้นทุก ๆ สองปี แบ่งเป็น 2 โซนคือ Industrial Robot Zone เป็นส่วนจัดแสดงของหุ่นยนต์อุตสาหกรรม และ Service Robot Zone คลังแสดงหุ่นยนต์ที่ประดิษฐ์ขึ้นมาสำหรับงานด้านการบริการ ฮือฮาตื่นตาตื่นใจกับความล้ำสมัยของหุ่นยนต์จากกว่า 400 บริษัท ขนมาให้ชมกันเป็นกองทัพ อาทิ หุ่นยนต์ช่วยในงานภัยพิบัติ หุ่นยนต์ช่วยยกของหนัก หุ่นยนต์ช่วยผู้มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหว หุ่นยนต์เก็บผลผลิตด้านการเกษตร นอกจากนี้ยังเพลิดเพลินกับการแสดงของหุ่นยนต์แนวคาวาอี้ น่าเอ็นดูเป็นเพื่อนเล่นเพื่อนคุยแก้เหงาให้เจ้าของได้ หุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ที่สวยจนมนุษย์ผู้หญิงยังต้องอาย ที่ถูกใจสุด ๆ คือหุ่นยนต์ขาแดนซ์ เต้นออกสเต็ปเทพไม่หนีห่างจากวงเกิร์ลกรุ๊ป เดินดูจบก็แปะสติ๊กเกอร์ thumb up! ให้เลย
 


หุ่นยนต์ขาแดนซ์

หุ่นยนต์คล้ายมนุษย์
หุ่นยนต์คล้ายมนุษย์


วิทยาศาสตร์แห่งอนาคต

เราจะวางแผนอนาคตกันอย่างไร มีอะไรที่รอเราอยู่ในอีก 20 ปีข้างหน้า National Museum of Emerging Science and Innovation พิพิธภัณฑ์โลกอนาคต หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกสั้น ๆ ว่า Miraikan ที่เกาะโอไดบะ บอกเราได้
 

Miraikan

ASIMOASIMO


เริ่มต้นเปิดโลกนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ใหม่ ๆ กันด้วยลูกโลกดิจิทัลใบใหญ่ไซส์ XL แสดงการกำเนิดของโลก ไล่เรียงมาจนถึงการเปลี่ยนแปลงทางด้านภูมิศาสตร์ในช่วงเวลาต่าง ๆ โซน Create Your Future บนชั้น 3 คือโลกแห่งนวัตกรรมสร้างอนาคต แบ่งเนื้อหาเป็น 4 หมวดใหญ่คือ Innovation, Robot, Information Society และ Science Workshop มีเจ้า Asimo หุ่น Humanoid Robot หรือหุ่นยนต์ที่ออกแบบจากสรีระของมนุษย์ เป็นไฮไลต์ประจำของโซนนี้ ความสามารถที่น่าทึ่งของอาซิโมคือ การเคลื่อนไหวลำตัวและแขนขาได้อย่างอิสระ เดิน วิ่ง หรือเต้นก็ได้ รวมทั้งมีความสามารถในการจดจำใบหน้าคู่สนทนาและคุยโต้ตอบได้
 

PARO
PARO


เจ้า Paro หุ่นยนต์สัตว์เลี้ยงที่ช่วยเยียวยาจิตใจ ก็เรียกเรตติ้งได้ไม่แพ้กัน หน้าตาเหมือนแมวน้ำ ขนนุ่ม ๆ สีชมพูอ่อน น่ารักน่ากอด ตากลมโตกระพริบแสดงอารมณ์ ดีใจ มีความสุข พาโรสามารถเล่นกับเราได้เหมือนสัตว์เลี้ยง แถมจำเสียงและชื่อที่เจ้าของเรียกได้ด้วย


นอกจากหุ่นยนต์แล้ว ในโซน Science Workshop ก็ให้ความรู้เชิงปฏิบัติ ประเมินความสามารถในการรับรู้ โดยให้เดินและคิดเลขไปพร้อม ๆ กัน ชั้น 5 เป็นผลงานเกี่ยวกับโลกและอวกาศ แสดงพื้นที่ของสถานีอวกาศนานาชาติ (International Space Station: ISS) บอกเล่าการใช้ชีวิตของนักบินอวกาศที่ประจำการอยู่บนนั้น รวมถึงนวัตกรรมทางการแพทย์ต่าง ๆ
 

ตำนานแห่งสิ่งมีชีวิต

National Museum of Nature and Science
HAJIKOHAJIKO


อีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์เก่าแก่ที่อยู่ในสวนสาธารณะอูเอโนะก็คือ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติและวิทยาศาสตร์แห่งชาติ National Museum of Nature and Science มีส่วนที่เป็น Japan Gallery จัดแสดงเกี่ยวกับลักษณะทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ของหมู่เกาะญี่ปุ่น รวบรวมความเป็นญี่ปุ่นในหลากหลายแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่น โครงสร้างทางธรณีวิทยา ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ที่พบบนแผ่นดินญี่ปุ่น และที่นี่เองที่เราพบกับร่างตัวจริงที่ถูกสตาฟไว้ของ ฮาจิโกะ “สุนัขยอดกตัญญู” ของศาสตราจารย์อูเอโนะ ตำนานแห่งความกตัญญูที่ใช้สอนเด็ก ๆ ของญี่ปุ่น
 


ในส่วนของ Global Gallery เป็นเรื่องราววิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตบนโลก พาเราย้อนกลับไป 13.8 พันล้านปี ผ่านตัวอย่างชุดความรู้และวิดีโอ เริ่มตั้งแต่ต้นกำเนิดของจักรวาล การเกิดโลก สัตว์ดึกดำบรรพ์ จนสุดท้ายในยุคกำเนิดมนุษย์ และวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตบนโลกกว่า 10 ล้านสายพันธุ์

 

TIP

GUNDAM
เกาะโอไดบะ เป็นเกาะที่โชว์ความเจ๋งด้านวิทยาการใหม่ของญี่ปุ่น ตัวเกาะเองก็สร้างด้วยการถมทะเล โดยสร้างมาตั้งแต่ร้อยกว่าปีก่อน แสดงถึงศักยภาพในการทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ของชาวญี่ปุ่น นอกจากนี้เป็นที่โปรดของสาวก Gundam ชื่นชมกันดั้มโมเดลใหม่ได้ที่ห้างไดเวอร์ซิตี้ โตเกียว พลาซ่า (DiverCity Tokyo Plaza) แวะถ่ายรูปกับกันดั้มยักษ์หน้าห้างแบบเก๋ ๆ

วิธีการเดินทางก็ไม่ยาก นั่ง Japan Rail Pass สาย Yamanote มาลงสถานี Shimbashi จากนั้นต่อรถไฟสาย Yurikamome ไปที่สถานี Odaiba-kaihinkoen ความพิเศษของรถไฟขบวนนี้คือ ไม่มีคนขับ ทุกอย่างควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์

ค่าเข้าชม:
National Museum of Nature and Science
ผู้ใหญ่ 620 เยน เด็ก (ต่ำกว่า 18 ปี) 210 เยน
National Museum of Engineering Science and Innovation
ผู้ใหญ่ 620 เยน เด็ก (ต่ำกว่า 18 ปี) เข้าชมฟรี

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook Magazine
  • 3 Followers
  • Follow