เรื่องและภาพ: กองบรรณาธิการ
ใครที่ชื่นชอบความก้าวล้ำนำสมัยของเทคโนโลยี ต้องไม่พลาดที่จะมาเยือนกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น รอบนี้ขอพามาบุกตะลุยชมนวัตกรรมและวิทยาศาสตร์แห่งอนาคต พร้อมเพลิดเพลินแวะเวียนย้อนรอยสู่อดีตของการกำเนิดโลก และสิ่งมีชีวิต มาเยือนโตเกียวครั้งนี้ได้ครบทุกรสกับโลกแห่งวิทยาการ
ว๊าว! กับหุ่นยนต์สุดล้ำ
International Robot Exhibition 2015 (IREX) ณ Tokyo Big Sight บนเกาะโอไดบะ (Odaiba) งานแสดงนวัตกรรมหุ่นยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จัดขึ้นทุก ๆ สองปี แบ่งเป็น 2 โซนคือ Industrial Robot Zone เป็นส่วนจัดแสดงของหุ่นยนต์อุตสาหกรรม และ Service Robot Zone คลังแสดงหุ่นยนต์ที่ประดิษฐ์ขึ้นมาสำหรับงานด้านการบริการ ฮือฮาตื่นตาตื่นใจกับความล้ำสมัยของหุ่นยนต์จากกว่า 400 บริษัท ขนมาให้ชมกันเป็นกองทัพ อาทิ หุ่นยนต์ช่วยในงานภัยพิบัติ หุ่นยนต์ช่วยยกของหนัก หุ่นยนต์ช่วยผู้มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหว หุ่นยนต์เก็บผลผลิตด้านการเกษตร นอกจากนี้ยังเพลิดเพลินกับการแสดงของหุ่นยนต์แนวคาวาอี้ น่าเอ็นดูเป็นเพื่อนเล่นเพื่อนคุยแก้เหงาให้เจ้าของได้ หุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ที่สวยจนมนุษย์ผู้หญิงยังต้องอาย ที่ถูกใจสุด ๆ คือหุ่นยนต์ขาแดนซ์ เต้นออกสเต็ปเทพไม่หนีห่างจากวงเกิร์ลกรุ๊ป เดินดูจบก็แปะสติ๊กเกอร์ thumb up! ให้เลย
หุ่นยนต์ขาแดนซ์
หุ่นยนต์คล้ายมนุษย์
วิทยาศาสตร์แห่งอนาคต
เราจะวางแผนอนาคตกันอย่างไร มีอะไรที่รอเราอยู่ในอีก 20 ปีข้างหน้า National Museum of Emerging Science and Innovation พิพิธภัณฑ์โลกอนาคต หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกสั้น ๆ ว่า Miraikan ที่เกาะโอไดบะ บอกเราได้
ASIMO
เริ่มต้นเปิดโลกนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ใหม่ ๆ กันด้วยลูกโลกดิจิทัลใบใหญ่ไซส์ XL แสดงการกำเนิดของโลก ไล่เรียงมาจนถึงการเปลี่ยนแปลงทางด้านภูมิศาสตร์ในช่วงเวลาต่าง ๆ โซน Create Your Future บนชั้น 3 คือโลกแห่งนวัตกรรมสร้างอนาคต แบ่งเนื้อหาเป็น 4 หมวดใหญ่คือ Innovation, Robot, Information Society และ Science Workshop มีเจ้า Asimo หุ่น Humanoid Robot หรือหุ่นยนต์ที่ออกแบบจากสรีระของมนุษย์ เป็นไฮไลต์ประจำของโซนนี้ ความสามารถที่น่าทึ่งของอาซิโมคือ การเคลื่อนไหวลำตัวและแขนขาได้อย่างอิสระ เดิน วิ่ง หรือเต้นก็ได้ รวมทั้งมีความสามารถในการจดจำใบหน้าคู่สนทนาและคุยโต้ตอบได้
PARO
เจ้า Paro หุ่นยนต์สัตว์เลี้ยงที่ช่วยเยียวยาจิตใจ ก็เรียกเรตติ้งได้ไม่แพ้กัน หน้าตาเหมือนแมวน้ำ ขนนุ่ม ๆ สีชมพูอ่อน น่ารักน่ากอด ตากลมโตกระพริบแสดงอารมณ์ ดีใจ มีความสุข พาโรสามารถเล่นกับเราได้เหมือนสัตว์เลี้ยง แถมจำเสียงและชื่อที่เจ้าของเรียกได้ด้วย
นอกจากหุ่นยนต์แล้ว ในโซน Science Workshop ก็ให้ความรู้เชิงปฏิบัติ ประเมินความสามารถในการรับรู้ โดยให้เดินและคิดเลขไปพร้อม ๆ กัน ชั้น 5 เป็นผลงานเกี่ยวกับโลกและอวกาศ แสดงพื้นที่ของสถานีอวกาศนานาชาติ (International Space Station: ISS) บอกเล่าการใช้ชีวิตของนักบินอวกาศที่ประจำการอยู่บนนั้น รวมถึงนวัตกรรมทางการแพทย์ต่าง ๆ
ตำนานแห่งสิ่งมีชีวิต
HAJIKO
อีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์เก่าแก่ที่อยู่ในสวนสาธารณะอูเอโนะก็คือ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติและวิทยาศาสตร์แห่งชาติ National Museum of Nature and Science มีส่วนที่เป็น Japan Gallery จัดแสดงเกี่ยวกับลักษณะทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ของหมู่เกาะญี่ปุ่น รวบรวมความเป็นญี่ปุ่นในหลากหลายแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่น โครงสร้างทางธรณีวิทยา ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ที่พบบนแผ่นดินญี่ปุ่น และที่นี่เองที่เราพบกับร่างตัวจริงที่ถูกสตาฟไว้ของ ฮาจิโกะ “สุนัขยอดกตัญญู” ของศาสตราจารย์อูเอโนะ ตำนานแห่งความกตัญญูที่ใช้สอนเด็ก ๆ ของญี่ปุ่น
ในส่วนของ Global Gallery เป็นเรื่องราววิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตบนโลก พาเราย้อนกลับไป 13.8 พันล้านปี ผ่านตัวอย่างชุดความรู้และวิดีโอ เริ่มตั้งแต่ต้นกำเนิดของจักรวาล การเกิดโลก สัตว์ดึกดำบรรพ์ จนสุดท้ายในยุคกำเนิดมนุษย์ และวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตบนโลกกว่า 10 ล้านสายพันธุ์
TIP
เกาะโอไดบะ เป็นเกาะที่โชว์ความเจ๋งด้านวิทยาการใหม่ของญี่ปุ่น ตัวเกาะเองก็สร้างด้วยการถมทะเล โดยสร้างมาตั้งแต่ร้อยกว่าปีก่อน แสดงถึงศักยภาพในการทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ของชาวญี่ปุ่น นอกจากนี้เป็นที่โปรดของสาวก Gundam ชื่นชมกันดั้มโมเดลใหม่ได้ที่ห้างไดเวอร์ซิตี้ โตเกียว พลาซ่า (DiverCity Tokyo Plaza) แวะถ่ายรูปกับกันดั้มยักษ์หน้าห้างแบบเก๋ ๆ
วิธีการเดินทางก็ไม่ยาก นั่ง Japan Rail Pass สาย Yamanote มาลงสถานี Shimbashi จากนั้นต่อรถไฟสาย Yurikamome ไปที่สถานี Odaiba-kaihinkoen ความพิเศษของรถไฟขบวนนี้คือ ไม่มีคนขับ ทุกอย่างควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์
ค่าเข้าชม:
National Museum of Nature and Science
ผู้ใหญ่ 620 เยน เด็ก (ต่ำกว่า 18 ปี) 210 เยน
National Museum of Engineering Science and Innovation
ผู้ใหญ่ 620 เยน เด็ก (ต่ำกว่า 18 ปี) เข้าชมฟรี