เรื่องและภาพ: คงกฤช จินตะเวช
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จัดได้ว่าเป็นอุทยานมรดกของกลุ่มประเทศอาเซียน ครอบคลุมเขตพื้นที่ 4 จังหวัดกับ 11 อำเภอ ด้วยความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติและสัตว์ป่า ทิวทัศน์ทุ่งกว้างสลับป่าไม้เขียวขจี ทำให้นักปั่นจักรยานที่รักการผจญภัยเลือกทริปนี้เป็นหนึ่งในเส้นทางในฝัน
การเดินทางครั้งนี้เริ่มต้นที่สถานีรถไฟหัวหมากเวลาประมาณ 06.42 น. ไปลงที่สถานีรถไฟปราจีนบุรีเวลาสายๆ 08.56 น. เพื่อออมแรงไว้สำหรับปั่นขึ้นเขาใหญ่ อีกตัวช่วยสำหรับทริปปั่นเขาใหญ่ในครั้งนี้คือ น้ำ อาหาร และเสื้อกันฝน
เมื่อถึงสถานีรถไฟปราจีนบุรี ก็แวะพักเติมพลังและตุนเสบียงไว้ให้พร้อม ปั่นมาถึงด่านทางขึ้นเขา (ฝั่งปราจีน) จ่ายค่าเข้าอุทยานคนละ 60 บาท จุดแวะพักบริเวณนี้ทำให้เรามีโอกาสพบกับนักปั่นจักรยานกลุ่มอื่นๆ ที่ร่วมเส้นทางเดียวกัน
ปั่นผ่านน้ำตกเหวนรกแต่ไม่ได้ลงไปเที่ยวเพราะฝนตก เลยได้แต่จอดพักให้ผีเสื้อมาสำรวจคนต่างถิ่นอย่างพวกเรา ถนนร้อนๆ เมื่อเจอฝนทำให้เกิดไอน้ำฟุ้งไปตามทาง
โป่ง เป็นดินชนิดหนึ่งที่มีเนื้อละเอียดและมีแร่ธาตุที่ช่วยรักษาสมดุลในร่างกายของสัตว์ป่า โดยเฉพาะสัตว์มีเขาจำพวกกวาง กระทิง มักพบเห็นลงมากินดินโป่งบ่อยๆ เพราะในดินโป่งมีแคลเซียม ช่วยในการสร้างและบำรุงเขาสัตว์ ในบริเวณนี้จึงเหมาะเป็นที่ส่องสัตว์อีกด้วย ใครที่สนใจการส่องสัตว์ในเวลากลางคืน สามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่อุทยานได้
หลังจากพักผ่อนคลายความเมื่อยล้าไปหนึ่งคืน ก็ปั่นต่อไปยังอ่างลำพระเพลิง 1 ที่ อ.วังน้ำเขียว ผ่านจุดชมวิวที่ กม.30 มองเห็นทิวทัศน์ได้ทั่วบริเวณด้านเหนือของอุทยานเขาใหญ่ ก่อนจะ “ไหล” จักรยานลงเขา ทางชันพอสมควรและมีหลายโค้ง ต้องระมัดระวังกันหน่อย
อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง 1 มีเนินเขาสลับอยู่รอบอ่างเก็บน้ำ ต้นทางลมพัดเย็นสบาย
พักผ่อนอีกคืนหนึ่งแล้วเดินทางกลับเช้าวันรุ่งขึ้น โดยปั่นจักรยานมาขึ้นรถไฟที่ อ.ปากช่อง เพื่อมาลงที่สถานีบางซื่อ เราขึ้นรถไฟฟรี แต่ต้องเสียค่าขนส่งสัมภาระ (จักรยาน) คนละ 90 บาท วิวที่มองผ่านหน้าต่างของรถไฟขากลับเหมือนภาพวาดในกรอบที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา มองเพลินจนหายเหนื่อย