เด็กฝึกงาน : แต่ง ฝัน ปั้น แบรนด์

เรื่อง: กัลยาณี แนวเล็ก

แต่ง ฝัน ปั้น แบรนด์

“Warp” แบรนด์แฟชั่นสะท้อนความสนุกสนานในยุค 90 คว้าสามรางวัลจาก โครงการ “TK park แจ้งเกิดเยาวชนด้านการตลาด : แต่ง ฝัน ปั้น แบรนด์” ได้แก่ รางวัลนักการตลาด 360 องศา รางวัลผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยม และรางวัลนักการตลาดน่าจับตา เบื้องหลังความสำเร็จเกิดจากการระดมสมองของ 5 หนุ่มสาวต่างสถาบัน ได้แก่ อิ๊งค์-พอฤทัย สุมาลยาภรณ์ แบงค์-ปัณณวิชญ์ พรสุขอนันต์ ออย-พรพรรณ มณีรัตน์ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ม.ธรรมศาสตร์ ลูกปัด-นันทัชพร ภู่ทอง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาออกแบบอุตสาหกรรม จุฬาฯ และ จิ๊บ-พลอยพรม เดชพุทธิวัฒน์ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ

สีสันความทรงจำในอดีต
“เราเห็นเสื้อของ ทาทา ยัง น่าสนุกดี เลยคิดว่าจะเอาอะไรมาเล่นกับเสื้อผ้าเราได้บ้าง ทำเป็นลุคซนๆ แสบๆ แบบทาทาดีไหม แต่ก็กลัวว่าจะเข้ากับยุคนี้ไม่ได้ คิดต่อว่าเอาลายอย่างนี้จากยุค 90 มาเล่นแล้วใช้เสื้อผ้าทรงที่นิยมใส่กันอยู่ในแฟชั่นยุคนี้ดีกว่า คือเปิดเอ็มวีทาทาทำงานเลยค่ะ” “ออย” เริ่มต้นเล่าถึงจุดเริ่มต้นของ “Warp” ซึ่งได้รับอิทธิพลจากแฟชั่นเสื้อผ้าสีสันสะท้อนแสงในยุค 90 ที่สมาชิกในทีมเห็นพ้องต้องกันว่ามีเอกลักษณ์

“อิ๊งค์” เสริมว่า “ธีมยุค 90 มาตั้งแต่แรกเลยค่ะ ตอนแรกจะออกแบบเป็นลุคสปอร์ต เพราะเห็นว่าเดี๋ยวนี้เขาใส่รองเท้าผ้าใบกัน ว่าจะทำเป็นสีนีออนและใช้ชื่อแบรนด์ว่าหิ่งห้อย (Firefly) แต่เรารู้สึกว่าเหมือนจะจำกัดกรอบของแบรนด์เกินไป ไม่อย่างนั้นคนซื้อจะจดจำว่าเสื้อผ้าเราเป็นนีออน ถ้าเราออกคอลเล็คชั่นที่ไม่เป็นนีออนล่ะ มันก็แคบไป ก็เลยเปลี่ยนคอนเซ็ปต์ใหม่จนได้เป็น Warp ค่ะ”

กว่าจะได้เป็นคอลเล็คชั่น
ชื่อโครงการ “TK park แจ้งเกิดเยาวชนด้านการตลาด : แต่ง ฝัน ปั้น แบรนด์” บอกชัดเจนถึงการท้าทายความสามารถทั้งด้านแฟชั่นควบคู่ไปกับการตลาด การสร้างแบรนด์ Warp ให้ตอบโจทย์ที่สุดจึงต้องอาศัยนักออกแบบแฟชั่นและนักการตลาดฝีมือไม่ธรรมดา และเป็นเหตุผลว่าเหตุใดทีมจึงประกอบไปด้วยนิสิตนักศึกษาจากหลายสาขามารวมกันเพื่อคว้าชัยชนะในครั้งนี้

แผนงานเริ่มต้นจากการสำรวจตลาดและวางแผนการตลาด โดยใช้ทฤษฎีทางการตลาดอย่าง 4P และ Marketing Mix (Product, Price, Place, Promotion) จากนั้นจึงเข้าสู่การออกแบบและความคิดสร้างสรรค์ที่ “อิ๊งค์” บอกว่าทีมให้ความสำคัญกับแบรนด์คอนเซ็ปต์เป็นอันดับหนึ่ง “สิ่งสำคัญคือเราต้องวางก่อนว่าเอกลักษณ์ของเราจะเป็นอย่างไร ให้คนจำได้ว่านี่แบรนด์เรา และอยากให้คนมองแบรนด์เราเป็นอย่างไร เราได้คำสามคำ ‘contemporary’ ‘90s’ และ ‘apparel’ คือเป็นเสื้อผ้าที่นำกลิ่นอายของยุค 90 มาผสมผสานกับแฟชั่นปัจจุบัน เป็น 90 ที่ เฮ้ย เห็นลายแล้วนึกได้ว่าตอนเด็กๆ เคยเห็น และวางแฟชั่นปัจจุบันก็จะเป็นแบบเสื้อครอป เพราะเราอยากได้คาแร็กเตอร์ที่แสบๆ ซนๆ คนใส่เสื้อครอปก็จะดูเปรี้ยวนิดๆ ซ่าๆ หน่อย”

เมื่อกำหนดว่ากลุ่มเป้าหมายคือคนที่กล้าแต่งตัว เป็นแฟชั่นสำหรับคนเฉพาะกลุ่ม “ลูกปัด” จึงรับช่วงต่อในการออกแบบดีไซน์ “ตอนแรกแบ่งเป็น 2 คอลเล็คชั่น ซัมเมอร์กับวินเทอร์ ของจิ๊บจะเป็นแนวซัมเมอร์คือกำหนดโทนสีแดง หรือสีโทนร้อนค่ะ ส่วนที่หนูออกแบบจะเป็นโทนเย็นที่ยังมีความสนุก ไม่หม่น สุดท้ายเราเอาเนื้อผ้าโฮโลแกรมจากคอลเล็คชั่นวินเทอร์ และเอาลายที่เป็นของเล่นจากคอลเล็คชั่นซัมเมอร์มารวมกัน ตรงกับคอนเซ็ปต์แบรนด์ที่วางไว้”

ประกวดได้...ขายจริง
นอกจากสามรางวัลแห่งความภาคภูมิใจ ประสบการณ์ที่ทั้งห้าคนได้รับตลอดโครงการนี้ถือเป็นบันไดขั้นกว่าในการประกอบอาชีพในฝัน Warp เริ่มสร้างธุรกิจของตัวเองต่อเนื่องจากการประกวด โดยเปิดร้านค้าออนไลน์ผ่านอินสตาแกรมด้วยเหตุผลที่ว่าสามารถเลือกฟอลโลวคนได้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย

“ผมอยากขายเสื้อผ้า อยากเรียนรู้กระบวนการทุกอย่าง ผมได้ฝึกงานกับ flynow ที่อยากไปอยู่แล้ว คืออย่างน้อยก็ได้ประสบการณ์ว่าอันนี้ทำแล้วเวิร์ค จะได้เอามาใช้กับของผมครับ” “แบงค์” ให้ความเห็นไปในทางเดียวกับ “จิ๊บ” ที่ทิ้งท้ายว่า “ถ้าไม่ได้เข้าร่วมโครงการนี้ เราอาจจะคิดถึงโปรดักส์ก่อน อยากทำอะไรทำไป แต่โครงการนี้สอนให้เรามองเป็นภาพรวมตั้งแต่แรก เช่นเรื่องคอนเซ็ปต์แบรนด์ ทำทุกอย่างให้เป็นแบรนด์เดียวกัน”

ที่มา : นิตยสาร plook ฉบับที่ 35 เดือนพฤศจิกายน 2556