คนไทยรู้จักมหาหิงค์ุในทางยาสมุนไพรที่ใช้ช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง ท้องอืดท้องเฟ้อในเด็ก มีขายตามร้านขายยาทั่วไป ถึงจะเห็นว่าคนไทยใช้กันมานมนานแต่มหาหิงค์ุไม่ใช่สมุนไพรไทยเดิมนะคะ เป็นน้ำยางที่ได้จากพืชที่มีชื่อว่า Assafoetida ซึ่งมีถิ่นกำเนิดแถบเอเชียกลาง บริเวณทิศตะวันออกของประเทศอิหร่านจนถึงประเทศอัฟกานิสถาน โดยน้ำยางดังกล่าวจะมาจากส่วนหัวที่อยู่ใต้ดิน เมื่อน้ำยางแห้งจะจับตัวเป็นก้อนแข็งสีน้ำตาลเข้ม มีกลิ่นแรง นำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลายทั้งเป็นเครื่องเทศและยา ซึ่งสรรพคุณในทางยาจะโดดเด่นเป็นพิเศษ แถมยังรักษาและบรรเทาอาการได้หลากหลาย บรรเทาอาการหอบหืด บรรเทาอาการปวดศีรษะ ช่วยย่อย ขับลม บรรเทาอาการไอ
ในยุคกลาง ได้มีการใช้มหาหิงค์ุก้อนเล็กห้อยไว้ที่คอเพื่อบรรเทาอาการหวัด รวมถึงใช้ถอนพิษของฝิ่นและรักษาอาการพิษสุราเรื้อรังอีกด้วย งานวิจัยในปัจจุบันได้ค้นพบสรรพคุณอีกมากมายของมหาหิงค์ุ เช่น ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ใช้เป็นยากล่อมประสาท ใช้เป็นยาบำรุงเพศชาย และใช้ในการต้านมะเร็ง เป็นต้น
การใช้มหาหิงค์ุในเด็กทารกมีมาช้านานแล้วเช่นกัน ด้วยคุณสมบัติช่วยย่อยและบรรเทาอาการปวด ทำให้มหาหิงค์ุมีความโดดเด่นในตำราแพทย์แผนโบราณของอินเดีย คุณแม่ชาวอินเดียมักนำมหาหิงค์ุปริมาณเล็กน้อยละลายน้ำอุ่นแล้วทาบริเวณท้อง หรือทารอบจมูกเพื่อขับลมในกระเพาะ แก้อาการปวดท้อง หรืออาการโคลิคในเด็กแรกเกิด ซึ่งบ้านเราเองก็ได้รับเอาวิธีนี้มาจากทางอินเดีย ทำให้มีการใช้มหาหิงค์ุแก้ปวดท้องในเด็กมาจนถึงปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ควรใช้มหาหิงค์ุกับเด็กด้วยความระมัดระวัง ภญ.ดร. นิศารัตน์ ศิริวัฒนเมธานนท์ ภาควิชาเภสัชพฤกษศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล แนะนำว่า ไม่ควรหยดมหาหิงค์ุผสมน้ำให้ทารกดื่ม เพราะมหาหิงค์ุในท้องตลาดส่วนใหญ่เป็นทิงเจอร์มหาหิงค์ุ ซึ่งมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ การให้เด็กดื่มอาจทำให้เด็กได้รับแอลกอฮอล์โดยไม่จำเป็น และหากนำมาใช้ทา ก็ควรให้เด็กอยู่ในสถานที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวกด้วย