ช่วงที่ผ่านมา วงการเคล็นซิ่งในบ้านเราต้องสั่นสะเทือนกับการบุกอย่างดุเดือดของผลิตภัณฑ์ Water Cleansing จนเหล่าแบรนด์ดังในท้องตลาดพากันเข็นผลิตภัณฑ์ออกมาให้เพียบ และแทบทุกแบรนด์จั่วหัวความดีงามไว้ว่า ทำความสะอาดหมดจด อ่อนโยนต่อผิว ซึ่งความจริงเป็นเช่นนั้นหรือ ?

Water Cleansing ใช่น้ำจริง ๆ หรือเปล่า?

ส่วนผสมหลักก็คือน้ำนั่นแหละจ้า แต่พิเศษกว่าตรงที่เป็นน้ำที่มีสารลดแรงตึงผิว (Surfactant) ที่มีโครงสร้างเรียงตัวเกาะกลุ่มเป็นวงกลม นักวิทยาศาสตร์เรียกโครงสร้างนี้ว่าไมเซล (Micelle) ซึ่งความพิเศษอยู่ตรงที่ไมเซลสามารถดึงสิ่งสกปรกและน้ำมันได้อย่างดีเยี่ยม แต่โครงสร้างไมเซลที่ว่านี้ไม่ใช่ของใหม่นะ เค้าคิดค้นพัฒนากันมานานแล้ว โดยอ้างอิงจากงานวิจัยของมหาวิทยาลัย Bristal เมื่อ ค.ศ. 1913 หลังจากนั้นได้มีการนำแนวคิดนี้มาแก้ไขปัญหาน้ำประปากร่อยในกรุงปารีสอีกด้วย โอ้โห มีดีมาแต่โบราณจริง ๆ 

เมื่อมีการนำไมเซลมาพัฒนาเป็น ไมเซล่า วอเทอร์ (Micellar Water) เพื่อใช้ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือความปลอดภัย ด้วยคุณสมบัติดูดจับสิ่งสกปรกและเครื่องสำอางอย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึง มีค่า pH เป็นกลาง ใช้บริเวณผิวบอบบางก็ยังได้ จึงเป็นที่นิยมในหมู่สาวผิวแพ้ง่าย แถมหลายแบรนด์ยังเคลมว่าสามารถชุบเช็ดได้โดยไม่ต้องล้างออกด้วย 

ชักเริ่มอยากจะลองใช้ดูแล้วสิ

ขอบอกว่าตัวเลือกเยอะมากกกกก อย่างที่เกริ่นมาว่าตอนนี้ผลิตภัณฑ์ Water Cleansing หรือ Micellar Water มีมากมายหลายยี่ห้อ ถ้าตัดสินใจไม่ถูกให้ลองหลับตาหยิบมาลองสักแบรนด์ วิธีใช้คือชุบกับสำลีให้พอชุ่ม วางแผ่นสำลีบริเวณที่ต้องการทำความสะอาด กดเบา ๆ กับผิวสัก 5-10 วินาที เพื่อให้ไมเซล่าเข้าไปทำงานดึงเครื่องสำอางออกมา และเช็ดออกอย่างเบามือ แต่หากแต่งหน้าจัดเต็มหนามาก ๆ บิวตี้กูรูเขาบอกว่าให้ใช้เคล็นซิ่งแบบครีมหรือน้ำมันเช็ดออกก่อนรอบหนึ่ง แล้วค่อยตามด้วยไมเซล่า จะทำให้ผิวสะอาดขึ้น เราสามารถชุบเช็ดเพื่อทำความสะอาดผิวระหว่างวันหรือเปลี่ยนเมคอัพได้อย่างง่ายดายไม่ต้องวิ่งไปล้างหน้าให้ตัวเปียกอีกด้วยนะ เฮ้ย…มันดีอะ!

มีเคล็นซิ่งที่ใช้สะอาด เช็ดสะดวก แถมยังอ่อนโยนต่อผิวขนาดนี้ เราหวังว่าจะไม่มีสาว ๆ คนไหนขี้เกียจล้างเครื่องสำอางก่อนนอนอีกนะ

ขอบคุณภาพปกจาก www.nivea.com.au