ในเวลาที่คนใกล้ตัวกำลังเศร้า พยายามอย่าปลอบใจด้วยคำว่า “อย่า” เพราะให้ความรู้สึกเหมือนบังคบเขามากกว่าปลอบใจค่ะ แค่เพียงนั่งฟังหรือโอบกอดเพื่อสร้างกำลังใจให้เพื่อน หรือลองชวนเขาไปทำกิจกรรมดี ๆ เพื่อนำพาเขาออกจากความทุกข์ค่ะ
หลายครั้งที่คุณคาดเดาสถานการณ์ได้ล่วงหน้า ว่าเพื่อนตัวดีนี่แหละคือคนผิดจนเกิดเรื่องทำให้ต้องมานั่งปรึกษาคุณแบบนี้ แต่เจ้าตัวก็คงรับรู้ถึงความผิดนี้เช่นกัน การตอกย้ำไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น ควรจะบอกสิ่งที่ถูกให้เข้าฟังแทน เช่น “ถ้าเป็นฉันก็คงอยากได้ยินคำขอโทษก่อนเหมือนกันแหละเนอะ”
ทุกครั้งที่ปลอบใจ พยายามอย่าใช้คำถามที่ขึ้นต้นว่า “ทำไม” เพราะจะทำให้คนฟังเหมือนถูกตำหนิทางอ้อม แต่ให้ถามเขาว่า “รู้สึกอย่างไร” เพื่อให้เขาได้ระบายความในใจและทำให้ทบทวนตัวเองไปด้วยค่ะ
ประโยคนี้อาจจะเป็นจริง แต่เวลาเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ค่ะ และเราไม่มีทางรู้เลยว่ากว่าจะหายเศร้า ต้องใช้เวลามากแค่ไหน แต่เพื่อนมาปรึกษา เพราะอยากได้คำปลอบใจจากเราตอนนี้ เพื่อจะได้บรรเทาความโศกเศร้าให้ทุเลาลงบ้าง ควรจะถามเขาว่า “ต้องการให้อยู่เป็นเพื่อนไหม” อาจจะไม่มีคำตอบกลับมา แต่แค่มองตาก็คงจะรู้ใช่มั้ยคะว่าเพื่อนต้องการคุณแค่ไหน
อย่าคาดหวังผลของการปลอบใจมากเกินไปว่าจะทำให้เพื่อนหายจากอาการเศร้าได้ทันที เราต้องให้เขาตกผลึกความคิดด้วยตัวเองถึงจะผ่านช่วงเวลาแห่งความเศร้าไปได้ ซึ่งแต่ละคนอาจจะใช้เวลาไม่เท่ากัน
ข้อนี้ไม่ใช่ประโยคห้ามพูด แต่เป็นสิ่งที่ห้ามทำค่ะ การแชร์ความทุกข์กับเพื่อนเป็นเรื่องดี แต่อย่าเก็บมาคิดให้หนักใจมาก ปล่อยวางเรื่องเศร้าของคนอื่นบ้าง มิเช่นนั้นจะกลายเป็นว่ามีคนเศร้าเพิ่มมาอีกคน นั่นก็คือคุณนั่นเองค่ะ
นอกจากข้อแนะนำข้างต้นแล้ว ยังมีวิธี “ฟังด้วยใจ” คือไม่ต้องใช้เหตุผลในการฟัง แต่รับรู้ความรู้สึกไปกับเพื่อนให้ได้ ลองมาชมคลิปวิธีฟังจากใจกันค่ะ
เรื่องจาก Secret Magazine
เรียบเรียงโดย HUEdream
ภาพประกอบจาก pexels.com