และช่วงนี้ปลายเดือนมกราคม เมืองนครพนมก็ยังหนาวอยู่เช่นเคย ยิ่งอยู่ติดริมฝั่งโขงยิ่งหนาวจับขั้วหัวใจไม่แพ้ทางภาคเหนือยอย่างเชียงใหม่เชียงรายเลยล่ะค่ะ
หลายคนที่เคยไปเยือนถิ่นเมืองนคร ก็จะพากันกลับไปเยือนถิ่นนครอีกครั้ง เพราะว่าติดอกติดใจกลิ่นอายเมืองนคร ที่ผสมผสานวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ทั้งวัฒนธรรมและภาษาเอาไว้ นครพนมเป็นเมืองที่ไม่ใหญ่แต่ผู้คนที่นี่น่ารักค่ะ จากคำบอกกล่าวเล่าขานปากต่อปากของนักท่องเที่ยวที่เคยไปเที่ยวเมืองนคร ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า นครพนมเป็นเมืองที่น่าอยู่มาก ๆ ผลสำรวจในปี 2555 และ ปี 2556 จังหวัดนครพนมเป็นจังหวัดที่น่าอยู่ที่สุดและผู้คนมีความสุขที่สุดในประเทศไทยสองปีซ้อน จุดนี้จึงทำให้เมืองเล็ก ๆ อย่างนครพนมเต็มไปด้วยความสุขค่ะ ทำให้ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวไปเยือนถิ่นเมืองนครพนมเยอะมาก ๆ
ผู้คนส่วนมากในเมืองนครพนมจะเป็นคนลาวและเวียดนามที่อพยพมาตั้งแต่สมัยสงครามโลก และได้ตั้งถิ่นฐานตั้งรกรากทำมาค้าขายอยู่ที่เมืองนครตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันกันเลยทีเดียว เมืองนครพนมอยู่ติดประเทศเพื่อนบ้านที่มีความสัมพันธ์กันมาอย่างยาวนานอย่าง ประเทศลาว ค่ะ จนตอนนี้รู้อกรู้ใจกัน ไปมาหาสู่กันอย่างง่ายดายโดยใช้สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 จากเมืองนครพนมเข้าไปสู่เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน ประเทศลาวค่ะ
ขอแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวหรือเพื่อน ๆ คนไหนที่ต้องการมาเยือนถึงถิ่นนครพนม ต้องขอแนะนำการเดินทางที่สะดวกและรวดเร็วที่สุดก็คือ ขึ้นเครื่องจากดอนเมืองมาลงที่สนามบินนครพนมค่ะ สะดวกสบายจริงไรจริงค่ะ หน้าสนามบินมีรถรับ-ส่งให้บริการในราคาเป็นกันเองไม่แพงแน่นอน การเดินทางจากสนามบินก็ใช้เวลาไม่นานค่ะ แต่ส่วนมากนักท่องเที่ยวอย่างฝรั่งจะนิยมแบบแบ็คแพ็คเกอร์กัน มาโดยการนั่งรถบัส-รถทัวร์กันส่วนมากค่ะ โรงแรมที่พักแถวริมฝั่งโขงก็มีให้เลือกเพียบ ไม่ต้องกลัวว่ามาแล้วจะไม่มีที่พักนะคะ มีแน่นอนและบรรยากาศติดริมฝั่งโขงได้ฟิวมาก ๆ เลย
ถ้ากลัวหลงทางแล้วละก็ แนะนำให้ดูแผนที่ค่ะ มีทั้งแผนที่ มีทั้งป้ายบอกทาง และถนนเล็ก ๆ รอบข้างสามารถปั่นจักรยานออกกำลังกายได้ค่ะ ไม่ว่าจะนั่งรับลมเย็น ๆ ริมโขง มานั่งเล่นกับแฟน มาปิกนิคกับครอบครัวก็อบอุ่นค่ะ มากับเพื่อนมานั่งคุยกันผ่อนคลายได้เยอะเลย
และตรงป้ายบอกทางถ้าไปตามป้ายแลนด์มาร์ค ก็จะได้พบกับแลนด์มาร์คองค์พญาศรีสัตตนาคราช ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งขวามือ เป็นที่ตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติได้ดีจริง ๆ ค่ะ
แลนด์มาร์คองค์พญาศรีสัตตนาคราช บรรยากาศในยามเช้า
แลนด์มาร์คองค์พญาศรีสัตตนาคราช บรรยากาศตอนบ่ายๆ
แลนด์มาร์คองค์พญาศรีสัตตนาคราช บรรยากาศในตอนกลางคืน
สำหรับคนไหนที่ไม่ชอบเดิน กลัวเหนื่อยก็สามารถปั่นจักยานได้นะคะ มีร้านให้เช่าจักรยานด้วยแหละ เวลานั่งอยู่ริมโขงเราสามารถมองเห็นบรรยากาศและวิถีชีวิตของฝั่งเพื่อนบ้านเราได้ค่ะ เท่าที่เห็นเขาก็มีวิถีชีวิตเหมือนกันกับเรา เวลานั่งมองดูก็เพลินดีนะคะ มองไปยิ้มไปรับรู้ถึงวิถีชีวิตที่เรียบง่ายสบาย ๆ ไม่วุ่นวายดี
ที่ตรงนี้นักท่องเที่ยวมาถึงก็จะมานั่งถ่ายรูปเก็บไว้กันก่อนค่ะ @นครพนม
และนี่คือลานคนเมืองค่ะ เป็นสถานที่ที่จัดกิจกรรมต่าง ๆ ของชาวนครพนมสไตล์แบบชิคชิคมาก มีหลอดไฟประดับประดาตกแต่งน่ารักสุด ๆ แถมยังเป็นสถานที่นั่งพักผ่อนและถ่ายรูปสุดฮิตอีกด้วยแหละ
และถัดจากนี้ไปก็จะเป็นริมฝั่งโขงรับลมที่ใคร ๆ ได้มาแล้วก็ลองต้องเดินไปตามถนนที่ทอดยาวริมฝั่งโขง หรือจะเรียกว่าถนนริมโขงก็ได้ง่าย ๆ ดีค่ะ
และจุดไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวชอบมากที่สุดก็คือ การล่องเรือกินข้าว ค่ะ เป็นการล่องเรือท่ามกลางบรรยากาศริมฝั่งโขง นักท่องเที่ยวบอกว่าแฮปปี้สุด ๆ ไปเลยค่ะ เรือนี้เรียกว่า “ภัตตาคาร ล่องน้ำ” แถมบริเวณด้านข้างมีแพ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ชอบขึ้นเรือก็จะขึ้นแพแทนค่ะ ภายในแพก็จะเป็นร้านอาหารเช่นกัน มีอาหารบริการให้ทุกอย่าง ถูกใจนักท่องเที่ยวมาก ๆ เลยค่ะ รอบ ๆ ข้างก็จะมีต้นดอกทานตะวันสีเหลืองงามอร่ามเป็นจุดดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปกับดอกทานตะวันค่ะ โดยจะปลูกเป็นเหมือนขั้นบันไดในทางภาคเหนือ มีการแกะสลักเมล็ดทานตะวันให้เป็นรูปหน้าตาของคนด้วยฮาไปอีกแบบ
และที่เห็นเป็นแว๊บ ๆ สูง ๆ เป็นสง่าอยู่ตรงนั้นก็คือ หอนาฬิกาค่ะ เป็นหอนาฬิกาที่ตั้งคู่เมืองนครมานานแสนนาน นักท่องเที่ยวมาก็ต้องเซลฟี่กับหอนาฬิกากันแทบทุกคน นอกจากหอนาฬิกาที่โดดเด่นแล้วที่โดดเด่นกว่านั้นคิดว่าคงเป็นความทะเล้นซ้อนความน่ารักของสองสาวนี่แหละค่ะ แอบมาเป็นพรีเซ็นเตอร์หลักในการเก็บรูปภาพความประทับใจให้กับชาวทริปเราด้วยแหละ
แต่ถ้าใครสายดื่ม ในตอนกลางคืนก็ลองมาเดินแถวนี้ดูนะคะ แถวหอนาฬิกา ในย่านนี้มีร้านบาร์ร้านเหล้าให้นักท่องเที่ยวได้นั่งจิบเบียร์ฟังเพลงค่ะ ได้อารมณ์ริมโขงไปอีกแบบ และเมืองนครไม่ใช่แค่ริมฝั่งโขงนะคะที่น่าเที่ยว แต่นครยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่น่าค้นหามากกว่านี้ที่ยังไม่ไปเจอ ถ้าคุณอยากพบอยากเจอก็ลองออกเดินทางค้นหาดูนะคะ แล้วจะพบความประหลาดใจมากกว่าริมโขงนครพนม