โดยมีคุณพ่อคุณแม่เฝ้าดูอยู่ห่างๆ เช่น พาลูกออกไปในสวนสาธารณะในหมู่บ้านได้เจอเพื่อนวัยเดียวกัน ได้เล่นเครื่องเล่นสำหรับเด็กร่วมกับเพื่อนๆ เพื่อสอนให้ลูกอยู่ได้ด้วยตัวเอง ใช้ความคิด และตัดสินใจทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเอง เช่น เพื่อนเล่นอยู่ ต้องรอให้เพื่อนเล่นเสร็จก่อนถึงเล่นต่อ หรือ ทางที่กำลังเดินไปมีแอ่งน้ำ ลูกจะรู้จักเดินเลี่ยงไปทางอื่นไม่เหยียบน้ำ วิธีนี้จะช่วยส่งเสริมทักษะการเอาตัวรอดได้ (Able to adapt to new situation)
ลองทำกิจกรรมที่หลากหลายอย่างสม่ำเสมอ และเลี่ยงการใช้คำว่า “ไม่” “อย่า” เพราะเป็นการปิดกั้น อาจทำให้ลูกกลัวที่จะลงมือทำ เช่น ให้ลูกลองขุดดินปลูกต้นไม้เองโดยไม่กลัวเลอะ วิธีนี้จะช่วยส่งเสริมทักษะความกล้าคิดกล้าทำ (Courage to do new thing) มีความกล้าในการริเริ่มทำในสิ่งใหม่ กล้าทดลองทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเอง ไม่เป็นเด็กขี้กลัว ขี้กังวล และประหม่าต่อการทำสิ่งต่าง ๆ
เช่น สอนให้ลูกแบ่งขนมหรือของเล่นให้คุณปู่คุณย่า เพื่อให้ลูกมีจิตใจที่อ่อนโยน เข้าอกเข้าใจผู้อื่น ที่สำคัญ คุณพ่อคุณแม่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีเรื่องการแบ่งปันให้ลูกเห็นด้วย เช่น แบ่งผลไม้ให้เพื่อนบ้าน หรือพาลูกไปบริจาคสิ่งของ วิธีนี้จะช่วยส่งเสริมทักษะการรู้จักแบ่งปัน (Caring/Giving) ทำให้เป็นที่รักของทุกคน และทำให้เป็นเด็กมีจิตใจที่อ่อนโยนด้วย
ให้ลูกเรียนรู้ทุกวันผ่านการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น เจอผู้ใหญ่ให้พูดสวัสดี คุณแม่ให้ขนมต้องพูดขอบคุณ หรือพูดขอโทษเมื่อทำให้เพื่อนเจ็บ รวมถึงการสอนให้เข้าใจและบอกอารมณ์ ความรู้สึกของตัวเองได้ เช่น โกรธ มีความสุข ไม่พอใจ หิว วิธีนี้จะช่วยส่งเสริมทักษะการสื่อสารเป็น (Good Communicate) สื่อสารอย่างเข้าใจและเหมาะสมตามสถานการณ์ ทำให้ลูกสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
โดยจากการกำหนดกติกา มารยาทง่ายๆ ในบ้าน เช่น เมื่อถึงเวลากินข้าว ต้องมานั่งกินข้าวพร้อมกัน ไม่ดูทีวีหรือเล่นเกม เมื่อเล่นของเล่นแล้วต้องเก็บเอง โดยระยะแรกคุณพ่อคุณแม่ควรทำไปพร้อมๆ ลูกเพื่อสอนก่อน และพูดบอกให้เก็บของย้ำซ้ำ ๆเป็นประจำ จากนั้นจึงเริ่มให้เขาทำเอง วิธีนี้จะช่วยส่งเสริมทักษะเรื่องการรู้มารยาทสังคม (Good Manners) ซึ่งจะทำให้ลูกไม่เอาแต่ใจตัวเองและเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับผู้อื่นภายใต้กฎเกณฑ์ของสังคม