ซุปไก่นอกจากจะมีน้ำซึ่งร่างกายต้องการในการต่อสู้กับอาการหวัดแล้ว ยังสามารถลดการอักเสบที่ส่งผลทำให้อาการหวัดแย่ลงได้ แม้ทางการแพทย์ยังหาคำตอบไม่ได้ว่าส่วนผสมอะไรในซุปไก่ที่เป็นปัจจัยในการยับยั้งอาการหวัด แต่จากการวิจัยกลับพบว่าส่วนผสมจากผักนานาชนิดและไก่ช่วยบรรเทาอาการหวัดได้ดี ถ้าใครทำเองไม่เป็น ซุปไก่สำเร็จรูปแบบกระป๋องก็พอจะใช้ทดแทนได้ค่ะ
จากการค้นคว้าพบว่า สารต้านอนุมูลอิสระจากวิตามินซีจากผลไม้ในตระกูลส้ม สามารถบรรเทาอาการหวัดได้ถึง 23 เปอร์เซ็นต์ วิตามินซีเพียง 1 ถึง 8 กรัม (1,000 ถึง 8,000 มิลลิกรัม) ก็สามารถบรรเทาอาการได้ ไม่ว่าจะหามากินเสริม หรือกินผลไม้ตระกูลส้ม พริกหวานสีแดง บล็อคโคลี่ กะหล่ำดาว น้ำเต้า มะละกอ มันเทศหรือมะเขือเทศ เเต่สำหรับบางคนการบริโภควิตามินซีมากเกินไปอาจส่งผลกับระบบย่อยอาหาร ควรเลี่ยงอาหารเหล่านี้เพราะอาจทำให้อาการแย่ลง
หัวหอมและกระเทียมมีสรรพคุณเป็นยาแก้อักเสบและเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย มีการทำการทดลองกับกลุ่มอาสาสมัคร 142 คน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งรับยาหลอกเพียงอย่างเดียว อีกกลุ่มให้กินยาหลอกและกระเทียมเพิ่มเติม ผลปรากฏว่ากลุ่มที่กินยาหลอกเพียงอย่างเดียวเป็นหวัดถึง 65 คน ส่วนกลุ่มที่กินยาหลอกคู่กับกระเทียมเป็นหวัดเพียง 25 คนเท่านั้น นอกจากนี้กระเทียมยังช่วยบรรเทาอาการคัดจมูกได้ด้วย ลองเพิ่มกระเทียมและหัวหอมลงในซุปไก่ด้วยก็ยิ่งดี
น้ำมันหอมระเหยในขิงมีผลออกฤทธิ์โดยตรงกับไรโนไวรัส (ไวรัสที่ทำให้เกิดโรคหวัด) และยังช่วยยับยังอาการไอ เครื่องดื่มจิงเจอร์เอล (Ginger Ale เครื่องดื่มน้ำขิงต้มใส่น้ำตาลหรือน้ำผึ้ง ผสมโซดาและน้ำมะมาว) นอกจากจะช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองในลำคอ ยังมีผลช่วยรักษาโรคหวัดและอาการไอด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ขิงยังมีสรรพคุณเป็นยาแก้ปวด ลดไข้จากธรรมชาติ ช่วยให้นอนหลับง่ายซึ่งเหมาะกับร่างกายที่ต้องการพักผ่อนมาก ๆ ในช่วงที่ป่วย หากไม่ดื่มจิงเจอร์เอล คุณก็สามารถใส่ขิงหั้นชิ้นเล็ก ๆ ประมาณ 1 ถึง 2 ช้อนโต๊ะในน้ำชาก็ช่วยได้เหมือนกัน หากหาขิงสดไม่ได้ใช้ขิงอบแห้ง หรือน้ำขิงสำเร็จรูปแทนได้แต่อาจได้ปริมาณขิงไม่เพียงพอ
เชื่อกันว่าน้ำผึ้งมีสรรพคุณทางยาที่รักษาได้ทุกโรค (เป็นยาฆ่าเชื้อโรคตามธรรมชาติมีสรรพคุณใกล้เคียงกับ ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์) ตั้งแต่รักษาแผลไหม้พุพอง (ราดน้ำผึ้งสดลงบนแผลเพื่อฆ่าเชื้อโรค ทำให้แผลสมานเร็วขึ้น) แผลมีดบาดไปจนถึงแผลถลอก ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระเป็นยาต้านจุลชีพที่มีประสิทธิภาพต่อต้านเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา การดื่มน้ำผึ้งจึงช่วยลดการระคายคอจากอาการหวัดได้
จุลลินทรีย์แลกโตบาซิลลัส รอยเตอรี่ (Lactobacilus reuteri) ในโยเกิร์ตพบว่ามีฤทธิ์ช่วยป้องกันและยับยั้งการติดเชื้อของไวรัสหวัดได้ดี แต่โยเกิร์ตที่ขายในท้องตลาดไม่ได้มีส่วนประกอบจากจุลินทรีย์นี้ทุกยี่ห้อ ควรอ่านฉลากข้อมูลทางโภชนาการให้ดีก่อนซื้อนะคะ
ซีลิเนียมเป็นแร่ธาตุที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้แก่ร่างกาย หากได้รับซีลิเนียมในปริมาณที่มากพอจะทำให้ร่างกายผลิตสารไซโทไคนินที่ช่วยกำจัดไวรัสหวัดออกจากร่างกายเร็วขึ้น แร่ธาตุซีลิเนียมพบมากในอาหารทะเลอย่าง กุ้งมังกร หอยนางรม หอยตลับ ปู ปลาทูน่า ปลาคอด และในถั่วบราซิล ถั่วบราซิลเพียง 1 ออนซ์ มีแร่ธาตุซีลิเนียมถึง 70 ไมโครกรัม ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวันเลยทีเดียว
สาร Resveratrol (โพลีฟีนอลชนิดหนึ่งพบบริเวณผิวขององุ่นแดง) และโพลีฟีนอลในไวน์แดงให้ผลลัพธ์คล้ายกับจุลลินทรีย์ในโยเกิร์ต หากไวรัสหวัดเข้าสู่ร่างกาย สารเหล่านี้จะเพิ่มจำนวนขึ้นและเริ่มกระบวนการกำจัดไวรัสปกป้องระบบต่างๆของร่างกาย หากไม่ดื่มไวน์ สามารถกินองุ่นแดงหรือถั่วลิสงแทนได้ สาร Resveratrol จากสีแดงจากเปลือกองุ่นก็มีสูงใกล้เคียงในไวน์แดง
อาหารปรกติของเราก็เป็นยาได้ เห็ดช่วยเพิ่มระดับการผลิตไซโทไคนินของร่างกายซึ่งช่วยลดการติดเชื้อ อุดมไปด้วยสารโพลีแซ็คคาไรด์ และสารอาหารอื่น ๆ ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันโรค การแพทย์แผนจีนนิยมใช้เห็ดฟาง เห็ดชิตาเกะ เห็ดมัยตาเกะ และเห็ดเรอิชิ ในการรักษาโรคไข้หวัด
มีคำพูดเสียดสีเกี่ยวกับพริกไทว่า เครื่องเทศที่ทำให้จาม ช่วยให้หายการคัดจมูก พริกไทดำ อุดมไปด้วยสาร พิเพอรีน (Piperine) ที่ช่วยลดไข้และลดอาการปวดได้ดี หากนำพริกไทดำ ผสมเข้ากับขิงบดละเอียด และน้ำส้มสายชูกินเข้าไปจะช่วยให้ร่างกายเพิ่มการดูดซึมตัวยาจากสมุนไพรทั้งสองได้ดีขึ้น
เรียบเรียงโดย Glimmergirl
ภาพปก : pixabay