ไอศกรีมเป็นของหวานที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก โดยเฉพาะเวลาที่อากาศร้อน ๆ การได้กินไอศกรีมสักถ้วยคงทำให้ฟินไปได้ทั้งวัน 

แต่เวลาไปสั่งไอศกรีมเคยสังเกตไหมครับว่า บางร้านก็เรียกไอศกรีมเฉย ๆ บางร้านก็เรียกว่าเชอร์เบท บางร้านเป็นซอฟท์เสิร์ฟ และอีกสารพัดจะเรียกกัน ว่าแต่ไอศกรีมพวกนี้มันแตกต่างกันยังไงนะ

ไอศกรีม (Ice-Cream) มันคือครีมแช่แข็งตามชื่อเรียกเลยครับ โดยมีการเติมนมและส่วนผสมอื่น ๆ ลงไปเพื่อให้ได้รสชาติตามต้องการ และในกระบวนการทำจะต้องตีส่วนผสมเพื่อให้เนื้อไอศกรีมเบาและฟู ฉะนั้นเนื้อไอศกรีมที่เรากินเข้าไปหลัก ๆ แล้วจะเป็นอากาศถึง 60% เลยทีเดียว ขณะที่ เจลาโต้ (Gelato) ซึ่งเป็นไอศกรีมแบบอิตาเลี่ยนนั้นมีอากาศอยู่เพียง 20% เนื้อเจลาโต้จึงเหนียวหนืดและมีรสชาติเข้มข้นกว่าไอศกรีมทั่วไป

นอกจากนี้ ไอศกรีมยังมีการแบ่งชั้นตามระดับไขมันเนย ไอศกรีมระดับพรีเมี่ยมจะมีไขมันเนย 11% -15% ทำให้มีรสชาติและเนื้อสัมผัสเข้มข้น (แต่ก็ต้องแลกด้วยความอ้วนนะครับ เพราะมีปริมาณแคลอรี่มากกว่าไอศกรีมชนิดอื่น) ในขณะที่ไอศกรีมระดับมาตรฐานจะมีไขมันเนยเพียง 10% - 11%

ส่วน ซอฟท์เสิร์ฟหรือซอฟท์ครีม (Soft Serve or Soft Cream) นั้นคือไอศกรีมที่เสิร์ฟที่อุณหภูมิสูงกว่า ทำให้เนื้อนุ่มกว่า แต่ก็ละลายเร็วกว่าด้วยเช่นกัน

ซอร์เบต์ (Sorbet) เป็นไอศกรีมที่มีส่วนผสมเป็นผลไม้และน้ำตาล แต่งกลิ่นรสด้วยสมุนไพรและเครื่องเทศ โดยไม่มีการเติมผลิตภัณฑ์จากนมใด ๆ ทั้งสิ้น เชอร์เบท (Sherbet) นั้นเหมือนซอร์เบต์ ต่างกันที่มีการเติมนมและครีมลงไป แต่ต้องมีไขมันเนยไม่เกิน 2% ส่วน กรานิต้า (Granita) นั้นทำจากผลไม้ น้ำตาล และน้ำ (เหมือนซอร์เบท) แต่จะไม่มีการตีส่วนผสมเพื่ออัดอากาศเข้าไปแบบไอศกรีม เนื้อกรานิต้าจึงเป็นเกล็ดแบบน้ำแข็งใส

นอกจากที่กล่าวมาแล้ว ยังมีไอศกรีมที่ทำจากโยเกิร์ต ไอศกรีมคัสตาร์ด (ไอศกรีมสไตล์ฝรั่งเศสซึ่งใส่ไข่แดงลงไปทำให้มีเนื้อนุ่มละมุน) ไอศกรีมโลว์แฟตทั้งแบบพร่องมันเนยและขาดมันเนย เรียกว่าปัจจุบันนี้มีไอศกรีมมากมายหลากหลายชนิดให้เราเลือกได้ตามความชอบเลยละครับ