เราได้ยินกันมานานแล้วว่าช็อกโกแลตมีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยเฉพาะเมื่อมันอยู่ในรูปของโกโก้ (ผงโกโก้ที่เราใช้ชงเป็นเครื่องดื่มนั้น เกิดจากการสกัดเอาไขมันออกจากช็อกโกแลต ทำให้เหลือแต่เนื้อโกโก้ที่มีรสชาติเข้มข้น) แต่ว่าประโยชน์จริง ๆ ของมันมีอะไรบ้าง ไปติดตามกันดีกว่าครับ
1. โกโก้มีสารอาหารหลายอย่างทั้ง แคลเซียม แมกนีเซียม โซเดียม นอกจากนี้ยังมีสารโพลีฟีนอล (Polyphenol) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และฟลาโวนอย (Flavonoid)
2. โกโก้จะปล่อยสารต้านอนุมูลอิสระออกมามากขึ้นเมื่อถูกความร้อน จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยคอร์เนลพบว่า ในโกโก้ร้อนมีสารต้านอนุมูลอิสระเกือบเป็น 2 เท่าของไวน์แดง มากกว่าชาเขียว 2-3 เท่า และมากกว่าชาดำ 4-5 เท่าเลยทีเดียว
4. สารฟลาโวนอยจะกระตุ้นการทำงานของไนตริกออกไซด์ในร่างกาย ทำให้หลอดเลือดขยายตัว ช่วยให้ระบบหมุนเวียนเลือดดีขึ้น ลดความดันโลหิต นอกจากนี้ยังลดโอกาสที่จะเกิดลิ่มเลือด และลดระดับของคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีอันเป็นสาเหตุของโรคหัวใจ ทำให้หัวใจทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
5. สารฟลาโวนอยยังถูกใช้ในการรักษาโรคเส้นเลือดในสมอง ภาวะแอลบูมินูเรีย (Albuminuria – ภาวะที่มีโปรตีนแอลบูมินในปัสสาวะ ซึ่งอาจเกิดจากไตอักเสบหรือมีความผิดปกติในกระเพาะปัสสาวะ) รวมทั้งโรคเบาหวาน
6. สมาคมเพื่อความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์อเมริกัน (American Association for the Advancement of Science) ระบุว่า การดื่มโกโก้ร้อนช่วยให้สมองปลอดโปร่ง เพราะสารฟลาโวนอยช่วยให้เลือดลำเลียงออกซิเจนไปยังสมองได้ดีขึ้น
7. กลิ่นหอมของโกโก้ช่วยกระตุ้นสารสื่อประสาทในสมอง ทำให้เราได้กลิ่นที่รู้สึกพึงพอใจ แถมยังมีสารประกอบบางชนิดที่ทำให้ระดับของเอ็นดอร์ฟินและเซโรโทนินในสมองเพิ่มขึ้น ทำให้เราอารมณ์ดี ช่วยลดความเครียดได้
8. โกโก้ถูกใช้เป็นเครื่องสำอางมาตั้งแต่สมัยโบราณ เนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยบำรุงเซลล์ผิว โดยใช้สูตรง่าย ๆ เช่น ผสมผงโกโก้กับน้ำผึ้ง ข้าวโอ๊ต และโยเกิร์ต พอกทิ้งไว้ 10-15 นาทีแล้วล้างออก ทำซ้ำสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง เท่านี้ก็ช่วยลดริ้วรอยและทำให้ผิวชุ่มชื้นได้แล้ว
9. อย่างที่บอกแล้วว่าโกโก้เกิดจากการสกัดเอาไขมันออกจากช็อกโกแลต เมื่อเทียบกันแบบกรัมต่อกรัมแล้วโกโก้จึงมีปริมาณไขมันน้อยกว่า ทำให้ดีต่อสุขภาพมากกว่า
--------------------------------
โกโก้กับช็อกโกแลตแตกต่างกันยังไง ลองมาดูกันครับ
ช็อกโกแลต VS โกโก้ ความเหมือนที่แตกต่าง