ในเมื่อโลกของเรายังมีอายุมากถึง 4.54 พันล้านปี ก็คงไม่น่าแปลก ที่โรคภัยไข้เจ็บและโรคภัยไข้ไม่เจ็บ จะเกิดโรคหรืออาการใหม่ ๆ ขึ้นมาให้เห็น แต่นี่ไม่ใช่โรคที่มีอาการร้ายแรงถึงขั้นที่ต้องกินยาเพื่อรักษา
 

โรคที่พูดถึงอยู่นั้น ไม่ใช่โรคที่มีอาการร้ายแรงถึงขั้นที่ต้องกินยาเพื่อรักษา ไม่ใช่โรคที่ทำให้คุณวิตกถึงขั้นต้องรีบไปหาหมอ และก็ไม่ใช่โรคที่มีอาการติดต่อกับคนที่นั่งใกล้ ๆ เพราะโรคเหล่านี้เป็นโรคพันธุ์ใหม่ ที่เกิดขึ้นจากไลฟ์สไตล์ และการใช้ชีวิตของคนยุคปัจจุบัน ในโลกที่มีอายุมากถึง 4.54 พันล้านปี หลายคนอาจจะงงว่า มีโรคอย่างนี้อยู่ด้วยเหรอ ?

FOMO
FOMO ย่อมาจาก Fear of missing out แปลตรงตัวก็หมายความว่า โรคกลัวการถูกลืม โรคประหลาดที่เกิดขึ้นจากไลฟ์สไตล์ของคนในยุคนี้  ที่กลัวพลาด กลัวว่าจะตกเทรนด์ต่าง ๆ จนต้องคอยอัพเดทสถานะ และเช็ค Social Media อยู่เสมอ ๆ อาการที่เกิดขึ้นนี้ก็เพราะต้องการให้ตัวเองมีที่ยืน และให้คนอื่นรับรู้ความเป็นไปของตัวเอง เพื่อป้องกันการถูกลืมจากคนรอบข้าง

Nomophobia
Nomophobia มาจากคำว่า no mobile phone phobia อาการของโรคนี้คือ การกลัวที่จะขาดจากโทรศัพท์มือถือ แน่นอนว่าคนที่เป็นโรคนี้ถ้าโทรศัพท์หาย ลืมเอามา หรือแบตจะหมด จะต้องอยู่ไม่เป็นสุขแน่ ๆ คนที่มีอาการ Nomophobia นี้ เมื่อไหร่ก็ตามที่ได้ยินเสียงเตือนจากโทรศัพท์ เขาจะต้องรีบวิ่งไปหยิบมาดูก่อนเป็นอันดับแรกอย่างแน่นอน

Status thinking
โรคนี้หลายคนอาจจะเป็นโดยไม่ทันรู้ตัว เพราะโรคนี้คือ โรคคิดแบบตั้ง Status หรือโรคคิดแบบการตั้งสถานะ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งสถานะใน facebook, twitter หรือ instagram เวลาเราคิดอะไร เรามักจะคิดออกมาเป็นคำพูดสวย ๆ เหมือนเป็นการคิดออกมาเพื่อเอาไปตั้งสถานะ และใส่เครื่องหมายคำพูด “ ” คนที่เป็นหนัก ๆ อาจจะคิดมากกว่า สถานะ แต่คิดไปถึง แฮชแท็ก คอมเมนต์ หรือบางคนอาจจะคิดแบบพอดีเป๊ะเท่ากับ 140 ตัวอักษรจาก twitter ที่ให้มาเลยทีเดียว

Squary looking
Squary คำนี้มาจาก Square ที่หมายถึงสี่เหลี่ยมจตุรัส อาการของโรคนี้ไม่ใช่การกลัวรูปร่างหรือสิ่งของสี่เหลี่ยม แต่เป็นการมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยม แน่นอนว่าโรคนี้มาจากคนที่ติดการถ่ายรูป และอัพเดทลงใน instagram (ตอนสมัยที่ instagram ยังบังคับให้ทุกคนต้องลงภาพเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส) พอเรามองอะไรเป็นภาพถ่าย เราก็มักจะมองเห็นภาพเหล่านั้นอยู่แค่ในกรอบสี่เหลี่ยม เปรียบเทียบเหมือนกับการกระพริบตาซ้ายเป็นการแคปเจอร์ถ่ายภาพ และการกระพริบตาขวาก็อาจจะเป็นการกดโพสต์ภาพก็เป็นไปได้
 

ก็บอกแล้วว่าขนาดโลกยังมีอายุมากถึง 4.54 พันล้านปีได้ เพราะอย่างนั้นโรคต่าง ๆ ที่กล่าวมา ถ้าจะมีคนเป็นก็คงไม่แปลกเท่าไหร่ เพราะสังเกตจากไลฟ์สไตล์ และการใช้ชีวิตของคนในยุคนี้

ลองเช็คกันดูนะคะว่า เราอยู่ในอาการไหนกัน แต่อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เกิดได้ ก็ดับได้ ชีวิตเป็นของเราใช้มันให้คุม
 

ขอบคุณภาพปก : Pixabay