หากคิดว่าเราเป็นสิ่งที่มีชีวิตที่ฉลาดที่สุดในโลกแล้ว คุณอาจจะต้องคิดใหม่เมื่อรู้จักหรือได้ศึกษากับสัตว์ชนิดอื่น ๆ ที่อาศัยอยู่ในโลกใบเดียวกันกับเรานี้ อันที่จริงแล้วเราไม่สามารถวัดความฉลาดของสิ่งมีชีวิตอื่นโดยใช้เราเป็นมาตรฐานได้ เราคงไม่ได้บอกว่าปลาโง่เพราะมันปีนต้นไม้ไม่ได้เหมือนลิง หรือว่าสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ด้อยกว่าเราเพียงเพราะว่ามันไม่สามารถทำแบบเราได้ แต่มันก็มีตัวชี้วัดบางอย่างที่สามารถใช้เป็นมาตรฐานได้ เช่นความคิดในการแก้ไขปัญหา การเอาตัวรอด และหากพูดถึงลิงหรือวานร มันก็อาจจะธรรมดาไปเพราะพวกเรารู้อยู่แล้วว่าฉลาด เนื่องจากมีความใกล้เคียงทางด้านชีววิทยากับมนุษย์เรา เหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้เรารู้ว่าไม่ได้มีเพียงแค่ลิงหรือวานรที่ฉลาดกลับเป็นเหตุการณ์ที่เกิดในมหาสมุทร
ภาพประกอบ : ลิขสิทธิ์ถูกต้องจาก Shutterstock
ลิขสิทธิ์ภาพขอสงวนเฉพาะสำหรับใช้งานในสื่อต่าง ๆ ของทรูปลูกปัญญา เท่านั้น
ห้ามไม่ให้นำภาพไปเผยแพร่ผ่านช่องทางอื่นโดยเด็ดขาด
ในปี 1985 มีนักวิจัย 3 คนได้โยนพวงมาลัยซึ่งทำขึ้นจากสาหร่ายลงในทะเลหลังจากที่นำมาใส่เล่นกันเอง ไม่นานนักพวกเขาก็ได้สังเกตเห็นโลมาซึ่งโผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำและทำอย่างเดียวกันกับเขาโดยการสวมพวงมาลัยไว้บนหัวเช่นกัน แม้ว่ามันอาจจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญ แต่มันก็เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดการศึกษาวิจัยและทำให้เราเริ่มค้นพบความชาญฉลาดของโลมา และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ
ภาพประกอบ : ลิขสิทธิ์ถูกต้องจาก Shutterstock
ลิขสิทธิ์ภาพขอสงวนเฉพาะสำหรับใช้งานในสื่อต่าง ๆ ของทรูปลูกปัญญา เท่านั้น
ห้ามไม่ให้นำภาพไปเผยแพร่ผ่านช่องทางอื่นโดยเด็ดขาด
อัตราส่วนของสมองเมื่อเทียบกับร่างกาย หรือ Encephalization Quotient ของโลมาในปัจจุบันมีสัดส่วนที่ใหญ่มาก เรียกได้ว่ามันมีขนาดสมองเป็นรองเพียงแค่มนุษย์เท่านั้น เนื่องจากการวิวัฒนาการเพื่อการอยู่รอดของสายพันธุ์ทำให้มันมีการสื่อสารในครอบครัว มีการสร้างเครือข่ายสังคม มีการช่วยเหลือกันในการล่าหาอาหารหรือขับไล่ศัตรู รวมไปถึงการช่วยกันดูแลสมาชิกอื่น ๆ ในครอบครัวอีกด้วย การศึกษาพบว่าการสื่อสารของโลมารวมไปถึงความสามารถอื่น ๆ ได้รับการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น โลมาจากต่างถิ่นฐาน ต่างชนิดกันมีภาษาและการสื่อสารทักทายที่แตกต่างกัน เหมือนวัฒนธรรม ภาษาและขนบประเพณีที่แตกต่างกันไปของคนแต่ละชนชาติเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น กลุ่มโลมา Dolphin Sponge Club เรียนรู้ที่จะรองรังของมันด้วยฟองน้ำหากต้องสร้างรังบนปะการังที่แหลมคม ซึ่งความรู้เหล่านี้ส่งต่อจากแม่สู่ลูกสาว ในปัจจุบันความสามารถในการเรียนรู้และสติปัญญาของโลมาก็ถูกแสดงให้เห็นจากการฝึกและการทำงานร่วมกับมนุษย์ มันสามารถเข้าใจภาษากายของเรา รวมถึงสัญญาณเสียงนกหวีดได้เป็นอย่างดี รวมถึงยังสามารถตีความสัญลักษณ์ และไวยากรณ์ที่ประกอบขึ้นเป็นประโยคได้อีกด้วย ยังไม่รวมความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ การแสดงการกระทำอย่างบริสุทธิ์และเห็นอกเห็นใจต่อสมาชิกในครอบครัว รวมถึงสัตว์อื่น ๆ ที่พวกมันได้พบปะอีกด้วย
ภาพประกอบ : ลิขสิทธิ์ถูกต้องจาก Shutterstock
ลิขสิทธิ์ภาพขอสงวนเฉพาะสำหรับใช้งานในสื่อต่าง ๆ ของทรูปลูกปัญญา เท่านั้น
ห้ามไม่ให้นำภาพไปเผยแพร่ผ่านช่องทางอื่นโดยเด็ดขาด
หมึกยักษ์เป็นสัตว์อีกชนิดที่แสดงให้เห็นถึงความชาญฉลาดที่เด่นชัด มันมีความสามารถในการแก้ไขปัญหา มีโครงสร้างและการแบ่งหน้าที่ในครอบครัวที่ชัดเจน แม้ว่ามันจะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ในการอยู่ร่วมกันเพื่อการผสมพันธุ์ในฤดูวางไข่ก็ตาม และเมื่อเจาะจงไปยังความสามารถในการแก้ไขปัญหาของมัน เนื่องจากสมองของมันมีขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดของตัวเช่นกัน แต่สิ่งที่สร้างความแตกต่างคือเซลล์ประสาทหรือสมองของหมึกไม่ได้จำกัดอยู่ในสมองเพียงอย่างเดียว หมึกมีเซลล์ประสาทอยู่ในบริเวณสมองเพียง 10% อีก 30% อยู่ที่ตาและที่เหลืออยู่ที่หนวด ดังนั้น หมึกหนึ่งตัว จึงเทียบเท่ากับมีสิ่งมีชีวิต 11 ตัวช่วยกันทำงาน พวกมันแยกประสาทตาออกจากหนวดและระบบโครงสร้างโดยรวม หนวดแต่ละข้างมีความสามารถและมีความคิดในการแก้ไขปัญหาเป็นของตัวเอง ในขณะที่สมองส่วนกลางประมวลและส่งคำสั่งไปให้หนวดทำงาน มันก็สามารถสอดส่ายสายตามองสภาพแวดล้อมรวมถึงการระวังภัย และปล่อยให้หนวดแก้ไขปัญหาของมันไป
pixabay
สัตว์ปีกก็ไม่ได้น้อยหน้า นกหลายสายพันธุ์ก็ฉลาดและมีความน่ารักแสนรู้ แต่ที่เห็นจะผิดคาดเมื่อเทียบกับรูปร่างหน้าตาอันน่ากลัวของมันเห็นจะเป็นอีกา หรือนกกา ซึ่งนับว่าเป็นตัวท็อปของเหล่านกเมื่อพูดถึงเรื่องสติปัญญาของมัน มันมีความเป็นกลุ่มก้อน มีการจัดลำดับในสังคมนก มีการทดสอบและวิจัยพบว่าพวกมันนับจำนวนได้ และมีการคิดวิเคราะห์แก้ปัญหา มีการทำการทดลองให้กาเก็บเหรียญหรือสิ่งที่ตกหล่นตามถนนหนทางที่มีความเงางามมาเพื่อแลกเอาอาหาร และมันก็ทำได้เป็นอย่างดีซะด้วย มันสามารถแก้ปัญหาและใช้เหตุและผลรวมถึงเรียนรู้ที่จะใช้อุปกรณ์หรือเครื่องมือในการแก้ปัญหา ที่น่าตื่นเต้นกว่านั้นคือการู้จักกฎของอาคีมีดีส เรื่องการแทนที่น้ำด้วยสิ่งของที่มีมวลเท่ากัน มันสามารถคิดวิเคราะห์ระดับของน้ำเพื่อให้ได้อาหาร
ภาพประกอบ : ลิขสิทธิ์ถูกต้องจาก Shutterstock
ลิขสิทธิ์ภาพขอสงวนเฉพาะสำหรับใช้งานในสื่อต่าง ๆ ของทรูปลูกปัญญา เท่านั้น
ห้ามไม่ให้นำภาพไปเผยแพร่ผ่านช่องทางอื่นโดยเด็ดขาด
เมื่อเราพิจารณาหลักฐานทั้งหมดนี้เราอาจจะสงสัยว่าทำไมมนุษย์จึงล่าสัตว์ชนิดต่าง ๆ เพื่อเป็นอาหารอยู่อีก อาจจะทำให้เราสะท้อนในใจถึงความสามารถ สติปัญญาของมันที่มีค่าเกินกว่าจะเป็นเพียงอาหาร หากเราไม่ทำร้ายสัตว์บางชนิดเพียงเพราะว่ามันน่ารัก แล้วทำไมเรายังทำร้ายสิ่งมีชีวิตที่ฉลาดหรือแม้แต่สื่อสารกับเราได้ ทำให้พวกมันตกอยู่ในอันตรายเนื่องกิจกรรมทางสังคม หรือมลภาวะที่เกิดจากมนุษย์
เรียบเรียงโดย ทีมงานทรูปลูกปัญญา
ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=05PpTqtGhGU
http://news.discovery.com/animals/top-10-most-intelligent-animals-150325.htm
http://list25.com/25-most-intelligent-animals-on-earth/
ภาพประกอบ : ลิขสิทธิ์ถูกต้องจาก Shutterstock
ลิขสิทธิ์ภาพขอสงวนเฉพาะสำหรับใช้งานในสื่อต่าง ๆ ของทรูปลูกปัญญา เท่านั้น
ห้ามไม่ให้นำภาพไปเผยแพร่ผ่านช่องทางอื่นโดยเด็ดขาด