หมันคืออะไร

ในสมัยหนึ่ง นักวิทยาศาสตร์ได้คิดค้นวิธีการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์หรือสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่อาจทำให้อาหารเสีย ทำให้ปนเปื้อน หรือเสื่อมสภาพ ซึ่งอาจทำให้ผู้ที่รับประทานเข้าไปมีอาการป่วยได้ ด้วยความร้อนสูง ซึ่งเรียกว่า สเตอริไลส์ (Sterilize) เราจะเห็นว่าคำนี้มักพบอยู่ข้างบรรจุภัณฑ์ถนอมอาหารต่าง ๆ อย่างเช่น นม ในปัจจุบัน แต่รู้หรือไม่ว่า คำนี้มีความหมายอย่างอื่นด้วย

ภาพประกอบ : ลิขสิทธิ์ถูกต้องจาก Shutterstock
ลิขสิทธิ์ภาพขอสงวนเฉพาะสำหรับใช้งานในสื่อต่าง ๆ ของทรูปลูกปัญญา เท่านั้น
ห้ามไม่ให้นำภาพไปเผยแพร่ผ่านช่องทางอื่นโดยเด็ดขาด

Sterilize สามารถแปลได้ว่า การทำให้เป็นหมัน โดยใช้กับสิ่งมีชีวิตเพื่อหยุดยั้งการสืบพันธุ์ การทำหมันหรือการคุมกำเนิด Contraception หรือ ควบคุมการเจริญพันธุ์ Fertility Control สามารถสืบย้อนกลับไปได้ถึงยุคเมโสโปเตเมีย อียิปต์ และกรีกโบราณ มีการบันทึกในกระดาษปาปิรุสว่าอดีตกาลนั้นมีการใช้น้ำผึ้ง ใบอะคาเซีย และผ้าสำลี สอดไว้ภายในอวัยวะเพศหญิงเพื่อเป็นการปิดกั้นการเดินทางของสเปิร์ม บ้างก็มีการใช้ยางไม้จากต้นอะคาเซียอย่างเดียว และนั่นทำให้เราทราบว่าในสมัยโบราณก็มีความรู้เกี่ยวกับการสืบพันธุ์และการป้องกันมิให้เกิดการปฏิสนธิแล้ว

ในกรีกโบราณก็มีการใช้ประโยชน์จากพืชพันธุ์ที่มีคุณสมบัติในการคุมกำเนิด เมล็ดของต้น Silphium ถูกใช้อย่างแพร่หลาย จากคุณสมบัติในการคุมกำเนิดตามธรรมชาติ รวมถึงการทำแท้ง และเมล็ดของมันยังเป็นสัญลักษณ์ของ "เซ็กส์และความรัก" อีกด้วย มีการใช้ Silphium อย่างแพร่หลายจนทำให้มูลค่าของมันดีดตัวขึ้นสูงเนื่องจากข้อจำกัดในการเพาะปลูกพืชชนิดนี้ ว่ากันว่ามันมีราคาสูงกว่าเงิน ในช่วงยุค 100 ปีก่อนคริศตกาลเสียอีก อารายธรรมโบราณอย่างจีนเองก็มีบันทึกเรื่องการคุมกำเนิดเช่นกัน โดยมีการบันทึกสูตรยาโบราณที่มีส่วนผสมของน้ำมันและปรอท ส่วนอินเดียเองก็มีตำรับยาหลากหลาย บ้างใช้ใบต้นปาล์มผสมกับชอล์คสีแดง บ้างก็เป็นน้ำผึ้งผสมรวมกับหิน เนย เกลือ หรือเมล็ดของต้น Palasa

ภาพประกอบ : ลิขสิทธิ์ถูกต้องจาก Shutterstock
ลิขสิทธิ์ภาพขอสงวนเฉพาะสำหรับใช้งานในสื่อต่าง ๆ ของทรูปลูกปัญญา เท่านั้น
ห้ามไม่ให้นำภาพไปเผยแพร่ผ่านช่องทางอื่นโดยเด็ดขาด

วิวัฒนาการของการคุมกำเนิดดำเนินมาเรื่อย ๆ ตามกาลเวลาจนกระทั่งมีการใช้ประโยชน์จากยาง และนำมาสู่การผลิตถุงยาง ซึ่งเป็นการคุมกำเนิดอย่างง่ายที่สุดที่ใช้กับเพศชาย อย่างไรก็ตามการคุมกำเนิดที่ได้ผลชะงัดนั้นมุ่งไปที่การปิดกั้นการปฏิสนธิของสเปิร์มและไข่ การคุมกำเนิดจากภายนอก คือการใช้ถุงยางและห่วงคุมกำเนิดแบบต่าง ๆ อีกวิธีคือการคุมกำเนิดจากภายในผ่านการใช้ยา และการตัดท่อนำส่งเช่น ท่อน้ำเชื้อในเพศชาย หรือท่อนำรังไข่ในเพศหญิง เป็นต้น โดยเป็นการทำให้ผู้เข้ารับการผ่าตัดถูกคุมกำเนิดอย่างถาวร หรือเป็นหมัน

ในปัจจุบันการตัดหลอดหรือท่อนำอสุจิในผู้ชาย เป็นการตัดท่อที่เชื่อมกันระหว่างอัณฑะกับต่อมลูกหมาก โดยเป็นการตัดและผูกมัดไว้ เพื่อปิดกั้นไม่ให้อสุจิที่ถูกสร้างขึ้นเดินทางไปรวมตัวกับน้ำอสุจิเมื่อเกิดการหลั่ง ในขณะที่การผ่าตัดในเพศหญิงนั้นก็ใช้หลักการเดียวกัน คือผ่าตัดท่อนำไข่ซึ่งเป็นท่อที่ไข่จะได้รับการผสมกับอสุจิและปฏิสนธิก่อนจะเดินทางไปยังมดลูก โดยจะถูกตัดและมัดไว้ ซึ่งถือว่าเป็นการผ่าตัดขนาดเล็ก เนื่องจากเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าขึ้นมากทำให้มีบาดแผลเล็ก และสามารถผ่าตัดต่อท่อกลับได้หากจำเป็น

อย่างไรก็ตาม ยังมีวิธีการผ่าตัดทำหมันที่สมบูรณ์กว่านั่นคือ การผ่าตัดอัณฑะในเพศชาย หรือผ่าตัดมดลูกในเพศหญิงออก ซึ่งจะเป็นการกำจัดต้นตอหรือแหล่งกำเนิดออกไปนั่นเอง แต่การผ่าตัดอัณฑะนั้นมักใช้กับสัตว์เนื่องจากสามารถควบคุมฮอร์โมน และลดพฤติกรรมการก้าวร้าวได้ รวมทั้งทำน้ำหนักในปศุสัตว์ได้อย่างรวดเร็ว ส่วนผ่าตัดนำมดลูกออกนั้นมักใช้สำหรับการรักษาโรคอย่างเช่น มะเร็งมดลูก เป็นต้น

เรียบเรียงโดย ทีมงานทรูปลูกปัญญา

ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=hhCOakn_7Qw
        https://www.youtube.com/watch?v=GxRJH2f--P0
        https://www.youtube.com/watch?v=OIGrTsyKTL4
        https://en.wikipedia.org/wiki/History_of_birth_control

ภาพประกอบ : ลิขสิทธิ์ถูกต้องจาก Shutterstock
ลิขสิทธิ์ภาพขอสงวนเฉพาะสำหรับใช้งานในสื่อต่าง ๆ ของทรูปลูกปัญญา เท่านั้น
ห้ามไม่ให้นำภาพไปเผยแพร่ผ่านช่องทางอื่นโดยเด็ดขาด