Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

ดื่มน้ำมาก หรือ น้อย ถึงจะดี

Posted By Plook Panya | 07 พ.ค. 59
2,837 Views

  Favorite

น้ำเป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิต ทำให้คุณมีสุขภาพดี และให้ความสดชื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการออกกำลังกายหรือใช้พลังงานอย่างหนัก น้ำช่วยให้ระบบในร่างกายของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นปกติ มันเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เราพยายามจะหาน้ำบนดาวเคราะห์ดวงอื่นทั่วทั้งจักรวาล และใช้มันอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ วันที่เราอยู่บนโลกนี้ เรามักถูกบอกอยู่เสมอว่า เราควรจะดื่มน้ำประมาณ 8 แก้วต่อวันเพื่อสุขภาพที่ดี แต่ความจริงแล้วในแต่ละวันเรากินน้ำน้อยหรือมากเกินไปหรือไม่ มนุษย์เราขาดน้ำได้กี่วัน และวันนึงเรากินน้ำได้มากสุดกี่แก้ว
 

ภาพ : Pixabay


จริง ๆ แล้วไม่มีงานวิจัยรองรับเกี่ยวกับจำนวนแก้วที่ควรดื่มในแต่ละวัน ไม่มีตัวเลขเจาะจง เพราะมันแตกต่างไปตามแต่ละคน กิจกรรมในแต่ละวัน และอุณหภูมิของสภาพแวดล้อม น้ำไม่เพียงแต่ช่วยร่างกายของมนุษย์ในการลำเลียงออกซิเจนและสารอาหารต่าง ๆ ไปยังเซลล์ มันเป็นตัวทำละลายสากล เป็นตัวนำพาสารอาหารและฮอร์โมนไปทั่วร่างกาย ควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย รองรับข้อต่อต่าง ๆ หล่อลื่นดวงตาของเรา ช่วยในการเผาผลาญ และยังช่วยกำจัดของเสียออกจากร่างกาย การเสียเหงื่อจำนวนมากระหว่างเล่นกีฬาอาจะทำให้คุณรู้สึกเวียนหัว ร่างกายคุณสร้างยูรินหรือปล่อยของเสียในรูปของปัสสาวะปริมาณ 1.5 ลิตรต่อวัน และเสียไปอีกราว ๆ หนึ่งลิตรกับการหายใจ เหงื่อ และอุจจาระ ดังนั้นมันจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ร่างกายจะต้องทดแทนของเหลวที่เสียไปเหล่านั้น

สิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายของคุณขาดน้ำ เริ่มต้นขึ้นที่ระดับเซลล์ เนื่องจากน้ำช่วยควบคุมระดับความเข้มข้นของอิเล็คโทรไลท์ใน และนอกเซลล์ให้สมดุล อิเล็คโทรไลท์ที่มีอยู่ในเซลล์ของคุณทำให้กล้ามเนื้อและเส้นประสาททำงานได้อย่างเป็นปกติ และช่วยในการควบคุมระดับความดันเลือด และปริมาณเลือด หากขาดน้ำ เซลล์จะทำงานผิดปกติ กล้ามเนื้อหดเกร็งไม่สามารถควบคุมได้เต็มที่ การทำงานของเส้นประสาทผิดปกติ อันที่จริงความแตกต่างด้านความเข้มข้นของอิเล็คโทรไลท์ภายในเซลล์ และนอกเซลล์ไม่ทำให้เกิดปัญหา เพราะว่าไตของคุณจะกำจัดน้ำส่วนที่เกินออกไปด้วยอัตราคงที่ และจากความสามารถในการกำจัดน้ำส่วนเกินของไตด้วยอัตราคงที่ เมื่อร่างกายได้น้ำปริมาณมากในเวลาอันสั้นมันจะทำให้เกิดความเข้มข้นแตกต่างกันมาก และผลคือ ไตไม่สามารถจัดการได้ น้ำเข้าไปอยู่ในเซลล์มากกว่าปกติ เซลล์เริ่มบวมน้ำ ความเข้มข้นภายในเซลล์เจือจางลง และทำให้อัตราส่วนของอิเล็คโทรไลท์ลดลง อันที่จริงปัญหาเซลล์บวมน้ำไม่ใช่ปัญหาที่พบได้บ่อย และไม่ค่อยมีปัญหายกเว้นในกรณีของเซลล์สมอง ซึ่งไม่เหมือนส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย มันไม่มีพื้นที่ภายในกะโหลกเผื่อให้ขยายตัว จึงทำให้อาจจะเกิดอาการปวดหัวอย่างรุนแรง มึนงง หมดสติ และอาการโคม่า หยุดหายใจ ในท้ายที่สุดคือเสียชีวิตได้ แต่อาการน้ำเป็นพิษไม่ได้พบบ่อย สถานการณ์ที่มักพบมากที่สุดมักเกิดขึ้นกับนักวิ่งมาราธอนในระหว่างการแข่งขัน ในสภาวะที่ร่างกายพยายามกักเก็บน้ำเอาไว้มากที่สุด

แม้ว่าคุณจะไม่พบกับอาการน้ำเป็นพิษ คุณก็ควรจะดื่มน้ำเมื่อคุณกระหาย มันเป็นตัวบ่งชี้ที่ดีที่สุด ศูนย์ควบคุมความกระหายในสมองนั้นอยู่ที่บริเวณ hypothalamus ไฮโปทาลามัส และมันตรวจจับหลอดเลือดของคุณเพื่อดูปริมาณโซเดียมและสารอื่น ๆ ในร่างกายของคุณ เช่น หากคุณเหงื่อออกมาก ปริมาตรของเลือด และความดันก็จะลดลง สมองของคุณก็จะตรวจจับความเปลี่ยนแปลงนี้ได้ และสร้างความอยากดื่มบางอย่างขึ้นมา หากคุณไม่สามารถตอบสนองต่อความกระหายได้ สัญญาณแรกของการขาดน้ำก็คือ ปากแห้ง ต่อมาปัสสาวะของคุณก็จะสีเข้มขึ้น และมีกลิ่นแรงขึ้น เพราะร่างกายของคุณพยายามกักเก็บของเหลวไว้ให้ได้มากที่สุด การขาดน้ำทำให้เกิดผลกระทบต่อสมองของคุณ คุณจะรู้สึกมึนหัว ตอบสนองช้ลง และเริ่มรู้สึกถึงความเจ็บปวดลดลง ในความเป็นจริงนั้น เมื่อคุณเกิดอาการขาดน้ำ เนื้อเยื่อสมองของคุณจะหดตัว หลังจากผ่านไป 1-2 วันโดยไม่มีของเหลวเข้าสู่ร่างกาย คุณก็จะหยุดปัสสาวะ กล้ามเนื้อกระตุก และคลื่นไส้ อย่างไรก็ดีร่างกายของคุณสามารถทนทานต่อการขาดอาหารได้นานกว่า ผู้เคราะห์ร้ายก็จะเริ่มเพ้อเนื่องจากการทำงานของสมองผิดปกติ เมื่อเวลาผ่านไปนานมากขึ้น เลือดก็จะหยุดหมุนเวียนไปยังส่วนผิวหนังของคุณเพื่อลดการสูญเสียความร้อน ผิวหนังของคุณเป็นสีเทาอมฟ้าไปทั่ว หลังจากนั้นอีก 3-5 วัน อวัยวะบางส่วนจะหยุดทำงาน และท้ายที่สุดสมองของคุณก็จะหยุดทำงาน

เมื่อคุณกระหาย และดื่มน้ำมากขึ้น แต่กลับปัสสาวะลดลง ที่พบได้บ่อยกว่าคืออาการเซลล์ขาดน้ำ เพราะน้ำสะอาดที่สามารถบริโภคได้ไม่ได้หาง่ายเหมือนกับออกซิเจนที่เราหายใจเข้าไป มีเพียง 2.5 % ของน้ำบนโลกเท่านั้นที่บริสุทธิ์ และส่วนใหญ่อยู่ในธารน้ำแข็ง น้ำแข็งขั้วโลก และแหล่งน้ำใต้ดิน เช่นชั้นหินอุ้มน้ำต่าง ๆ ซึ่งไม่สามารถเข้าถึง และนำมาบริโภคได้ทันที โดยรวมแล้วจึงมีน้ำที่พร้อมดื่มเพียง 1 % ของที่มีอยู่ทั้งหมดบนโลก และส่วนใหญ่ถูกใช้ไปเพื่อการเกษตร ที่แย่กว่านั้นคือปัจจุบันแหล่งน้ำดื่มของเราเริ่มมีการปนเปื้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ประชากรมากกว่า 800 ล้านคนบนโลกนี้ที่ไม่สามารถเข้าถึงน้ำสะอาดได้ สรุปแล้วคุณจึงควรดื่มน้ำตามที่จำเป็น ไม่มาก ไม่น้อยจนเกินไป และใช้มันอย่างประหยัดเพราะมันหาได้ยากมากขึ้นเรื่อย ๆ


เรียบเรียงโดย ทีมงานทรูปลูกปัญญา
ขอบคุณภาพปก : Pixabay

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook Panya
  • 7 Followers
  • Follow