กินเจ ประเพณีชาวไทยเชื้อสายจีน ที่มีตำนานเชื่อมโยงกับพุทธศาสนานิกายมหายาน โดยบางท่านจะเริ่มกินเจ 1-3 วันล่วงหน้า เพื่อ "ล้างท้อง" ก่อนวันจริง
มารู้จักเกร็ดน่ารู้ เกี่ยวกับเทศกาล "กินเจ" ประเพณีที่ไม่ใช่แค่เลิกเบียดเบียนสัตว์ แต่แก่นแท้คือ "ถือศีล กินเจ"
หมายเหตุ : แม้บางส่วน จะเป็นความเชื่อที่ไม่สอดคล้องกับวัตรปฎิบัติของชาวพุทธเถรวาท แต่สำหรับหลายท่านแล้ว เทศกาลนี้ มีคุณประโยชน์ด้านร่างกาย และฝึกฝนจิตใจให้เพิ่มพูนเมตตา และถือศีล 5 เข้มข้น
เทศกาลกินเจ ตรงกับวันไหน กินกี่วัน ทำไมถึงต้องกินเจ
เทศกาลกินเจ ตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 9 (ตามปฏิทินจีน) ของทุกปี เราจะเห็นธงสีเหลือง ๆ มีตัวอักษรจีนประดับอยู่ตามร้านอาหาร และที่ต่าง ๆ เป็นสัญลักษณ์ว่า เริ่มเข้าสู่เทศกาลกินเจแล้ว
ล้างท้องในการกินเจคืออะไร?
-กินเจล่วงหน้า 1-3 วันนั่นเอง เรียกว่าล้างท้อง
กินเจ ตามความหมายที่แท้จริงแล้วคือ
กินเจ มิใช่เพียงแต่ไม่กินเนื้อสัตว์ แต่คนที่กินเจ ยังต้องดำรงตนอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม มีความบริสุทธิ์สะอาด งดงามทั้งกาย วาจา ใจ เป็นการถือศีลบำเพ็ญธรรมไปด้วยพร้อมกัน เช่นนี้แล้วจึงจะเรียกว่า “กินเจที่แท้จริง” ดังนั้น คำคล้องจองที่เราได้ยินอยู่เสมอ คือ “ถือศีลกินเจ” จึงนับว่ามีความหมายสมบูรณ์ครบถ้วนอยู่ในตัวเองแล้ว
สีในเทศกาลกินเจ หมายถึงอะไรบ้าง
สีแดง เป็นสีที่ชาวจีนเชื่อว่าเป็นสีศิริมงคล ดังจะเห็นได้ว่าในงานมงคลต่างๆ ของคนจีนไม่ว่าจะเป็นงานแต่ง วันตรุษจีน
สีเหลือง เป็นสีสำหรับใช้ในราชวงศ์ซึ่งอนุญาตให้ใช้ได้เพียงคนสองกลุ่มเท่านั้น กลุ่มแรกคือกษัตริย์ซึ่งเห็นได้จากหนังจีน เครื่องแต่งกายและภาชนะต่างๆ เป็นสีเหลืองหรือทองซึ่งคนสามัญห้ามใช้เด็ดขาด กลุ่มที่สองคืออาจารย์ปราบผีถ้าท่านสังเกตในหนังผีจีนจะเห็นว่าเขาแต่งกายและมียันต์สีเหลือง
สีขาว ตามธรรมเนียมจีนสีขาวคือสีสำหรับการไว้ทุกข์ สีดำที่เราเห็นกันอยู่ในขณะนี้เป็นการรับวัฒนธรรมตะวันตก ถ้าท่านสังเกตในพิธีงานศพของจีนจะเห็นลูกหลานแต่งชุดสีขาวอยู่
ธงเจ นอกจากเป็นสัญลักษณ์ของอาหารเจแล้ว ยังเตือนพุทธศาส นิกชนที่ปฏิบัติตนอยู่ในอะไร
“ถือศีล-กินเจ” ตระหนักถึงการไม่เบียดเบียนชีวิตสัตว์ และการตั้งอยู่ในศีลตลอดช่วงระยะเวลา 9 วัน 9 คืน
ผักที่มีกลิ่นฉุน 5 ชนิดมีอะไรบ้าง
กระเทียม หัวหอม หลักเกียว กุยช่าย ใบยาสูบ
ทำไมม้าทรงจึงต้องแสดงอิทธิฤทธิ์ด้วยการทรมานตนเอง
เพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์ให้กับผู้ถือศีลกินผักตามความเชื่อ “กิ้วอ๋องไต่เต่” (ราชาผู้เป็นใหญ่ทั้ง9) จะเป็นผู้รับเคราะห์แทน
กินหอยนางรมผิดไหม
หอยนางรมเป็นหนึ่งในอาหารทะเลและถือว่าเป็นสัตว์ทะเลชนิดหนึ่ง แต่ถูกยกเว้นให้เป็นอาหารเจ
จากความเชื่อและตำนานที่เล่าต่อ ๆ กันมาว่า
เจ้าหญิงเมี่ยวซ่านพาประชาชนที่นับถือในพระพุทธศาสนาหนีตายจากการเข่นฆ่าของพระเจ้าเมี่ยวจวงลงเรือออกทะเล ทุกคนจึงอธิฐานว่า จะลองเอาไม้พายจุ่มลงไปในทะเล ถ้าหากมีสิ่งใดติดขึ้นมาก็จะกินสิ่งนั้นเป็นอาหาร ปรากฎว่ามีหอยนางรมติดไม้พายขึ้นมา ก็เลยนำหอยนางรมขึ้นมากินเป็นอาหาร
บางตำนานก็กล่าวว่า หอยนางรมเป็นสัตว์ที่ไม่มีเลือดสามารถกินได้ในช่วงเทศกาลกินเจ
บางตำนานว่า สาวกของพระโพธิสัตว์กวนอิม (ปรมาจารย์ท่านหนึ่ง) เดินทางรอนแรมไปในทะเล แล้วเกิดลมพายุพัดแรงออกนอกทาง น้ำและอาหารหมด ท่านปรมาจารย์คิดว่าเหตุการณ์นี้เป็นการทดสอบของพระโพธิสัตว์ จึงกล่าวอ้อนวอนท่าน พระโพธิสัตว์ พระโพธิสัตว์กวนอิม (กวงซีอิมผู่สัก) ก็ปรากฏกายขึ้น แล้วบอกว่า ให้เอาไม้เท้าจุ่มลงไปในน้ำ มีอะไรติดขึ้นมาก็กินได้ ปรมาจารย์ก็เอาไม้เท่าจุ่มลงไป มีของสองสิ่งติดขึ้นมา คือ สาหร่ายกับหอยนางรม
ด้วยความตั้งใจและบารมีต่างกัน การทดสอบของพระโพธิสัตว์กวนอิมจึงแบ่งแยกคนออกเป็นสองฝ่ายคือ
-- พวกหนึ่งเคร่งครัดและเข้าถึงธรรม ก็กินแต่สาหร่าย
-- แต่คนอีกพวกหนึ่งไม่ถึงธรรม เห็นแก่กิน เอาความโง่เขลามาเข้าข้างตนเอง เลยกินหอยนางรม
พวกหลังจึงไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ในธรรมได้ในเวลาต่อมา เพราะจิตใจไม่เข้มแข็งและผิดเพี้ยน ไม่อดทนต่อความลำบาก และไม่เห็นว่าสัตว์เป็นเพื่อนร่วมโลก ทำผิดศีลข้อหนึ่ง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละคนว่า สมเหตุสมผลหรือไม่ เพราะนี่ก็เป็นเพียงตำนาน ที่เล่าต่อ ๆ กันมาเท่านั้นเอง
อานิสงส์ของการกินเจ มีอะไรบ้าง
1.ด้านศีลธรรม ผู้กินเจจะปฏิบัตตนอยู่ในศีลธรรมอันดี มีความเมตตา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ไม่เบียดเบียนผู้อื่นนับเป็นบุญกุศลใหญ่หลวง
2.ด้านสุขภาพกาย ผู้กินเจจะมีสุขภาพกายดีเพราะไม่ดื่มของมึนเมา และไม่รับประทานเนื้อสัตว์ รวมทั้งอาหารประเภทไขมันสูง ทำให้ลดภาวะไขมันในเส้นเลือด ซึ่งมีอันตรายต่อชีวิต นอกจากนี้อาหารจากเนื้อสัตว์มักมีเชื้อโรคปะปน เสี่ยงต่อการเป็นโรคภัย ผุ้กินเจเป็นประจำจึมีอายุยืนนาน
3.ด้านสุขภาพจิต ผู้กินเจจะมีสุขภาพจิตที่ดี เพราะผลจากการปฏิบัติธรรมที่ไม่คิดเบียดเบียนผู้อื่น ให้อภัยซึ่งกันและกัน และมีความเมตตาต่อกันทำให้จิตบริสุทธิ์แจ่มใสตลอดเวลา
4.ด้านเศรษฐกิจ ผู้กินเจสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เพราะผักมักจะราคาไม่แพงเหมือนเนื้อสัตว์ทั่วๆไป
5.ด้านสังคม ผู้กินเจจะมีความสามัคคีกัน เกิดการร่วมมือ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
6.ด้านการเมือง เนื่องจากการกินเจ หรืออาหารจากพืชผัก ไม่มีกรกำหนดทางเชื้อชาติศาสนา จึงมีผู้เข้าร่วมพิธีกรรมอย่างมากมาย ประกอบกับปลูกฝังให้ผุ้เข้าร่วมพิธีมีความสามัคคีจึงไม่ก่อห้เกิดความขัดแย้งระหว่างชุมชน
พิธี “โก๊ยโห้ย” คือพิธีอะไร
พิธีลุยไฟสะเดาะเคราะห์ ม้าทรง หรือเจ้าจะเดินผ่านกองไฟ ที่มีถ่ายร้อนแดงเป็นระยะทางกว่า 2 ฟุต และตามด้วยผู้ที่ถือศีลกินเจที่มีความมั่นใจว่าตัวเองสะอาดแล้ว ก็สามารถร่วมลุยไฟได้ด้วยเช่นกัน ในตอนกลางคืนจะมีพิธีปีนบันไดมีด สูงประมาณ 12 เมตร และจบลงที่ยามดึกของคืนวันที่ 9 จะมีการแห่พระไปส่งทะเลบริเวณสะพานหิน และนำเสาโกเต้งลงดับโคมไฟทั้ง 9
จุดประสงค์หลักของการกินเจ แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทคือ
-กินเพื่อสุขภาพ อาหารเจเป็นอาหารชีวจิต เมื่อกินติดต่อกัน จะทำให้ร่างกายสมดุล สามารถขับพิษของเสียต่างๆ ออกจากร่างกายได้ และปรับระบบต่างๆ ในร่างกายให้มีเสถียรภาพ
-กินด้วยจิตเมตตา เนื่องจากทุกๆ วัน อาหารที่เรากินประกอบด้วยเลือดเนื้อของสรรพสัตว์ ผู้ที่มีจิตใจดีงามจึงไม่สามารถกินเนื้อของสัตว์เหล่านั้นได้
-กินเพื่อเว้นกรรม การฆ่าเอาเลือดเนื้อผู้อื่นมาเป็นของเราเป็นการสร้างกรรม แม้จะไม่ได้ลงมือฆ่าเองก็ตาม เพราะการซื้อผู้อื่นเท่ากับการจ้างฆ่า ถ้าไม่มีคนกินก็ไม่มีคนฆ่ามาขาย ผู้ที่เข้าใจเรื่องกฎแห่งกรรมจึงหยุดกิน หันมารับประทานอาหารเจแทน โดยไม่เห็นแก่ความอร่อยในช่วงเวลาสั้นๆ เพียงแค่ให้อาหารผ่านลิ้นเท่านั้น
อาหารเจ คือ
เป็นอาหารที่ปรุงขึ้นมาจากพืชผักธรรมชาติล้วนๆ ไม่มีเนื้อสัตว์ปน และที่สำคัญต้องไม่ปรุงด้วย ผักฉุนทั้ง 5 อัน ได้แก่ กระเทียม หัวหอม หลักเกียว กุ้ยฉ่าย ใบยาสูบ เนื่องจากผักดังกล่าวเหล่านี้เป็นผักที่มี รสหนัก กลิ่นเหม็นคาวรุนแรง นอกจากนี้ยังมีพิษทำลายพลังธาตุทั้ง 5 ในร่างกาย เป็นเหตุให้อวัยวะหลักสำคัญภายในทั้ง 5 ทำงานไม่ปกติ ก่อกำหนัด
การกินเจ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 หมายถึง
การถือศีลอย่างญวนและจีนที่ไม่กินของสดคาว แต่บริโภคอาหารประเภทผักที่ไม่มีของสดของคาวผสม ซึ่งมาจากรากศัพท์คำภาษาจีนที่ว่า “เจียฉ่าย” หมายถึง การกินอาหารผัก อาหารที่มาจากพืชผักธรรมชาติ ไม่มีเนื้อสัตว์ปะปน และไม่ปรุงด้วยผักฉุน 5 ชนิด ได้แก่ กระเทียม หัวหอม หลักเกียว กุยช่าย ใบยาสูบ และงดเว้นน้ำนมสด นมข้นด้วย เพราะถือว่าเป็นของสดของคาว
-งดเว้นเนื้อสัตว์ หรือทำอันตรายต่อสัตว์
-งด นม เนย หรือน้ำมันจากสัตว์
-งดอาหารรสจัด หมายถึง อาหารรสเผ็ดมาก เค็มมาก หวานมาก เปรี้ยวมาก
-งดผักกลิ่นฉุน 5 ชนิด คือ กระเทียม หัวหอม หลักเกียว กุยช่าย ใบยาสูบ รวมทั้งเครื่องเทศที่มีกลิ่นฉุน
-รักษาศีล 5
-รักษาจิตใจให้บริสุทธิ์ รักษาอารมณ์ให้คงที่
- ทำบุญ ทำทาน บางคนที่เคร่งอาจนุ่งขาว ห่มขาว
ประโยชน์ของการกินเจในมุมมองทางศาสนา
- บังเกิดเมตตาจิต เกิดความสงบ สุขุม เยือกเย็น อารมณ์ไม่ฉุนเฉียว ไม่หุนหันพลันแล่น โมโหง่าย ดวง ธรรมญาณอันบริสุทธิ์จะปรากฏออกมาซึ่งจะช่วยเกื้อกูลส่งเสริม ให้บารมี ธรรมสูงขึ้นเรื่อยๆ
- ทำให้มีสติมั่นคง มีสมาธิแน่วแน่ ไม่ประมาทเลินเล่อ เป็นประโยชน์ต่อการดำเนิน ชีวิตและการทำงาน สามารถรอดพ้นจากภัยต่างๆ เช่น ภัยธรรมชาติ ภัยจากสัตว์ ภัยจากเคราะห์กรรม เมื่อวิญญาณออกจาก ร่าง ก็จะไปสู่ภพภูมิที่ดี
- หยุดการทำบาป ตัดเวรกรรมที่ผูกพัน ทำให้ไม่เกิดการอาฆาตพยาบาท ทำให้ปราศจากศัตรูทั้งมนุษย์และสัตว์ที่คิดมุ่งร้ายตามจองเวร
- สิ่งไม่ดีจะถูกขับออกไป ความรู้สึกขุ่นมัว มืดมนจะหมดไป หลังจากกินเจต่อเนื่องกัน เป็นระยะเวลานานๆ ความสดใสจะปรากฏขึ้นในจิตใจ และถ่ายทอดออกไปสู่ใบ หน้าให้มีความสะอาดสดใส
- ผู้ที่กินเจ รวมทั้งครอบครัวและบุตรหลาน และคนในปกครองจะเกิดความรุ่งเรืองในชีวิต มีเหตุให้เกิด อยู่ในดินแดอารยะ มีแต่ความอุดมสมบูรณ์ ปราศจากการทำร้ายรบราฆ่าฟัน ไม่มุ่งร้ายทำลายชีวิตซึ่งกัน และกัน
- ทำให้จิตใจสะอาดไม่ฟุ้งซ่าน จิตใจที่สะอาดทำให้มองเห็นกายอันแท้จริง สามารถสู่นิพพานได้ในที่สุด
- เทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ความคุ้มครองอารักขาไม่ให้สิ่งเลวร้ายหรือวิญญาณชั้นต่ำเข้ามาทำร้าย
ของหวานอะไรที่ต้องระวังบ้าง?
-ไอศกรีม,ช็อกโกแลต
-ขนม ที่ทำจาก นม เนย ไข่
-เครื่องดื่มที่ทำจาก น้ำผึ้ง นม
ผักที่คนทานหรือผู้ประกอบการเจนิยมนำมาประกอบอาหารมากที่สุดอะไรบ้าง?
มี 6 อย่างด้วยกันเช่น
-เห็ดหอม นิยมนำมาผัดรวมกับผักชนิดอื่นๆ หรือผัดรวมกับเห็ดน้ำแดง
-เห็ดหูหนู เห็ดฟาง ผัดรวมกับผักชนิดอื่นๆหรือผัดรสมกับหมื่เหลือง เป็นผัดหมื่เจ
-หัวไช้เท้า นิยมนำมาผสมแป้งแล้วทอดขายรวมกับเต้าหู้ทอด เผือกทอด ข้าวโพดทอด
-กะหล่ำปลี นิยมนำมาต้มทั้งผลเป็นเมนูต้มกะหล่ำ บางคนอาจนำกะหล่ำปลีที่ต้มแล้วไปทอดอีกต่อจะได้เป็นเมนูต้มกะหล่ำทอดเจ
-ผักกาดขาว นิยมนำมาต้มจับฉ่ายรวมกับผักอื่น ๆ เช่น กวางตุ้ง กะหล่ำปลี หัวไช้เท้า เห็ดหอม ฯลฯ
-ถั่วงอก นิยมนำไปผัดรวมกับผัดหมี่เจ
ทานเจกับอาหารมังสวิรัติต่างกันอย่างไร?
ผู้บริโภคอาหารมังสวิรัติมีสองกลุ่ม กลุ่มแรก ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ แต่ยังคงบริโภคไข่และนม
กลุ่มที่สอง ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ รวมทั้งไม่บริโภคไข่และนมด้วย
อาหารมังสวิรัติงดเนื้อสัตว์เหมือนกับอาหารเจ รวมทั้งเครื่องปรุงรสที่ทำมาจากสัตว์ เช่น กะปิ น้ำปลา
แต่ต่างกับอาหารเจตรงที่ไม่ห้ามบริโภคกระเทียม หัวหอม ต้นกุยช่าย หรือผักที่มีกลิ่นแรงตลอดจนเครื่องเทศที่เผ็ดร้อน อาหารมังสวิรัติสามารถบริโภคได้ทั้งปี ไม่มีเทศกาลเหมือนอาหารเจ
ผู้ที่กินอาหารมังสวิรัติเชื่อว่าจะทำให้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรง เพราะได้งดเนื้อสัตว์ซึ่งมีไขมันและสารอื่น ๆ มากมาย นอกจากนั้นยังมีประโยชน์ต่อจิตใจเพราะไม่จะเบียดเบียนชีวิตสัตว์ทั้งหลาย
การถือศีลกินเจ มีเพศสัมพันธ์ได้มั้ย?
การถือศีลกินเจยังมีข้อห้ามในเรื่องการแต่งหน้าทาปาก การประทินโฉมและการแต่งกาย(ด้วยชุดขาวเท่านั้น) ทำจิตใจให้อยู่ในศีลธรรม คิด พูด ทำในสิ่งดี(เข้าโรงเจไหว้พระไหว้เจ้า)
ห้ามมีเพศสัมพันธ์ในระหว่างที่ถือศีลกินเจ (ในกรณีที่เป็นคู่สามีภรรยาจะพบว่ามีการแยกห้องนอนในระหว่างการถือศีลกินเจด้วย)
การทานอาหารเจ จะทำให้ร่างกายขาดสารอาหารจำพวกโปรตีนหรือไม่
-แท้ที่จริงแล้วคนที่รับประทานอาหารประเภทนี้ก็สามารถรับสารอาหารครบทุกหมู่ได้เช่นกัน เพราะ โปรตีนที่ได้จากเนื้อสัตว์เราสามารถทดแทนได้ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ทำจากพืชจำพวก ถั่ว เช่น ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถัวดำ และถั่วลิสง หากรับประทานควบคู่กับงาขาวหรืองาดำก็จะสามารถทดแทนเนื้อสัตว์ได้ถึง 100%
ตำนานการกินเจ มี 3 ตำนาน อะไรบ้าง?
ตำนานที่ 1 กล่าวกันว่า การกินเจเริ่มขึ้นเพื่อรำลึกถึงนักรบ “หงี่หั่วท้วง” ซึ่งเป็นทหารชาวบ้านของจีนที่ต่อสู้ต้านทานกองทัพแมนจูอย่างกล้าหาญ ฝ่ายแมนจูมีปืนไฟของ ชาวตะวันตกที่ฝ่ายจีนไม่มี นักรบหงี่หั่วท้วงเหล่านี้จะประกอบพิธีกรรมนุ่งขาวห่มขาว ไม่กินเนื้อสัตว์และผักที่มีกลิ่นฉุน และท่องบริกรรมคาถาตามความเชื่อของจีน เชื่อกันว่าจะสามารถป้องกันปืนไฟได้ แต่ก็ไม่ประสบผล ครั้นจีนพ่ายแพ้แมนจู ชายชาวจีนถูกบังคับให้ไว้ผมอย่างชาวแมนจู ซึ่งสร้างความคับแค้นให้แก่ชาวจีนอย่างมาก ชาวจีนจึงรำลึกถึงนักรบหงี่หั่วท้วงเหล่านี้ด้วยสำนึกในบุญคุณ
ตำนานที่ 2 เพื่อเป็นการประกอบพิธีกรรมเพื่อสักการบูชาพระพุทธเจ้าในอดีตกาล 7 พระองค์และพระมหาโพธิสัตว์อีก 2 พระองค์ รวมเป็น 9 พระองค์ด้วยกัน หรืออีกนัยหนึ่งเรียกว่า “ดาวนพเคราะห์” ทั้ง 9 ได้แก่ พระอาทิตย์ พระจันทร์ พระอังคาร พระพุธ พระพฤหัสบดี พระศุกร์ พระเสาร์ พระราหู และพระเกตุ ในพิธีกรรมบูชานี้สาธุชนในพระพุทธศาสนาสละเวลาทางโลกมาบำเพ็ญศีลงดเว้นเนื้อสัตว์และแต่งกายด้วยชุดขาว
ตำนานที่ 3 ผู้ถือศีลกินเจในพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายานที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาของชาวจีนในประเทศไทย เพื่อสักการบูชาพระพุทธเจ้าในอดีตกาล 7 พระองค์ ดังมีในพระสูตร ปั๊กเต๊าโก๋ว ฮุดเชียวไจเอียงชั่วเมียวเกง กล่าวไว้คือ
พระวิชัยโลกมนจรพุทธะ พระศรีรัตนโลกประภาโมษอิศวรพุทธะ พระเวปุลลรัตนโลกวรรณสิทธิพุทธะ พระอโศกโลกวิชัยมงคลพุทธะ พระวิสุทธิอาศรมโลกเวปุลลปรัชญาวิภาคพุทธะ พระธรรมมติธรรมสาครจรโลกมโนพุทธะ พระเวปุลลจันทรโภคไภสัชชไวฑูรย์พุทธะ
และพระมหาโพธิสัตว์อีก 2 พระองค์ คือพระศรีสุขโลกปัทมอรรถอลังการโพธิสัตว์และพระศรีเวปุลกสังสารโลกสุขอิศวรโพธิสัตว์
รวมเป็น 9 พระองค์ (หรือ “เก้าอ๊อง”) ทรงตั้งปณิธานจักโปรดสัตว์โลก จึงได้แบ่งกายมาเป็นเทพเจ้า 9 พระองค์ด้วยกันคือ ไต้อวยเอี๊ยงเม้งทัมหลังไทแชกุน ไต้เจียกอิมเจ็งกื้อมึ้งงวนแชกุน ไต้กวนจิงหยิ้งลุกช้งเจงแชกุน ไต้ฮั่งเฮี่ยงเม้งม่งเคียกนิวแชกุน ไต้ปิ๊กตังง้วนเนี้ยบเจงกังแชกุน ไต้โพ้วปั๊กเก๊กบู๊เอียกกี่แชกุน ไต้เพียวเทียนกวนพัวกุงกวนแชกุน ไต้ตั่งเม้งงั่วคูแชกุน ฮุ้ยกวงไตเพียกแชกุน
เทพเจ้าทั้ง 9 พระองค์ ทรงอำนาจตบะอันเรืองฤทธิ์บริหารธาติดิน น้ำ ลม ไฟ และทอง ทั่วทุกพิภพน้อยใหญ่สารทิศ
ปัจจุบัน เทศกาลกินเจจัดขึ้นในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย ตลอดจนหมู่เกาะรีออในอินโดนีเซียและอาจมีในบางประเทศเอเชีย เช่น ภูฏาน ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน ฮ่องกง การกินเจในเดือน 9 นี้ เชื่อกันว่าน่าจะเกิดขึ้นเมื่อราว พ.ศ. 2170 ตรงกับสมัยอาณาจักรอยุธยา
ประโยชน์ของการกินเจคือ?
การกินอาหารเจ นอกจากจะเป็นการถือศีลและรักษาประเพณีแล้ว ยังให้ประโยชน์ต่อร่างกายดังนี้
1. ร่างกายสามารถขับถ่ายของเสียออกได้หมดทำให้ไม่มีสารพิษตกค้างอยู่ภายใน สารอาหารที่มีคุณค่าในพืชผักและผลไม้จะช่วยให้ระบบขับถ่ายและการย่อยเป็นปกติ
2. เมื่อรับประทานเป็นประจำโลหิตจะถูกฟอกให้สะอาดขึ้นเรื่อยๆ เซลล์ต่างๆ ของร่างกายเสื่อมสลายช้าลงทำให้อายุยืนยาวมีผิวพรรณสดชื่นผ่องใส นัยน์ตาแจ่มใสไม่พร่ามัวร่างกายแข็งแรงรู้สึกเบาสบายไม่อึดอัด มีสุขภาพพลานามัยดี
3. อวัยวะหลักสำคัญภายใน ได้แก่ หัวใจ ไต ม้าม ตับ ปอด และอวัยวะประกอบคือ ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก กระเพาะปัสสาวะ กระเพาอาหาร ถุงน้ำดี แข็งแรงทำงานได้เป็นปกติสมบูรณ์
4. ร่างกายสามารถต้านทานต่อสารพิษต่างๆ ได้แก่
- สารเคมี ยากำจัดศัตรูพืช ยาฆ่าแมลง สารดีดีที
- มลภาวะและก๊าซพิษที่เกิดจากการเผาไหม้ในอุตสาหกรรม ไอเสียจากเครื่องจักร เครื่องยนต์ซึ่งแพร่กระจายปะปนไปในอากาศที่เราหายใจอยู่เป็นประจำและยังพบว่ามีปะปนอยู่ในแหล่งน้ำดื่มด้วย
- กัมมันตภาพรังสีที่เกิดจากการทดลองระเบิดนิวเคลียร์และในการทำสงคราม สารอาหารในพืชผักช่วยให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายสามารถทนต่อการทำลายจากรังสีต่างๆ
- ร่างกายสามารถต้านทานต่อสารพิษต่างๆ ได้สูงกว่าคนปกติธรรมดาสารพิษที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ
ในบรรดาผู้ที่กินอาหารเจ อาหารพืชผักและผลไม้เป็นประจำความเจ็บไข้ได้ป่วยมักไม่มีปรากฏโดยเฉพาะโรคที่รุนแรงหรือเรื้อรัง เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เส้นเลือดตีบ ไขมันอุดตันในเส้นเลือด โรคไต ไขข้ออักเสบ โรคเก๊าส์ โรคเบาหวานฯลฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคที่เกี่ยวกับระบบขับถ่าย ย่อยอาหารและทางเดินอาหาร เช่น โรคริดสีดวงทวาร มะเร็งในกระเพาะและลำไส้ โรคกระเพาะ อาหารไม่ย่อย โรคเหล่านี้จะไม่พบเลยในกลุ่มคนผู้ที่รับประทานอาหารเจ อาหารพืชผักและผลไม้เป็นประจำ
ศัพท์คำว่า ศีลแจ / 齋戒 ในภาษาจีน นอกจากใช้ในลัทธิเต๋าและศาสนาพุทธแล้ว ยังหมายถึงอะไร?
- “ศีลอด” ที่ถือปฏิบัติในเดือนถือศีลอดของชาวจีนอิสลาม สาระของศีลก็คือการห้ามรับประทานอาหารใดๆในระหว่างเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นจวบจนลับขอบฟ้า ตลอดเดือนถือศีลอด
ประเพณีกินเจที่ชาวจีนเรียกกันว่า “เก้าอ๊วงเจ” หรือ “กิ้วอ๊วงเจ” คำว่าเก้าอ๊วงเจกับกิ้วอ๊วงเจ”หมายถึงอะไร?
-คำว่า “เก้าอ๊วง” หรือ “กิ้วอ๊วง” แปลว่า “พระราชา 9 องค์” หรือนพราชา หมายถึงผู้เป็นใหญ่ทั้ง 9 ซึ่งเป็นที่มาของประเพณีกินผักกินเจ