Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

เล่านิทานให้ลูกฟัง ... ช่วยให้ลูกฉลาดได้อย่างไร

Posted By Plook Parenting | 28 ก.ย. 59
5,251 Views

  Favorite

คุณพ่อคุณแม่ในยุคใหม่มักใช้เทคโนโลยีช่วยเลี้ยงลูก ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์สื่อสาร ทีวี แท็บเลต เกมคอมพิวเตอร์ เพราะเข้าใจว่าอุปกรณ์เหล่านั้นจะช่วยทำให้ลูกฉลาด แต่ในความเป็นจริงแล้วเด็กที่ถูกเลี้ยงด้วยเทคโนโลยีมากเกินไป มีผลเสียทั้งต่อร่างกาย และพัฒนาการด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านการเรียนรู้

 

เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว เด็กไม่รู้จะเลียนแบบจากใคร จึงไม่รู้วิธีสื่อสาร เป็นที่มาของการพูดช้า หรือไม่พูด ตรงกันข้ามกับการเล่านิทานที่เป็นการสื่อสารสองฝั่งระหว่างผู้เล่ากับผู้ฟัง ลูกจะได้เรียนรู้วิธีการสื่อสารผ่านประสาทสัมผัสต่าง ๆ ทั้งทางตา ทางหู การจับสัมผัส และยังฝึกการใช้จินตนาการ การมโนภาพ

การเล่านิทานให้ลูกฟังจึงเป็นวิธีการเรียนรู้ที่เร็วที่สุดและดีที่สุด

 

ภาพ : Shutterstock

 

“นักวิชาการพบว่ามีความเชื่อมโยงระหว่างคุณภาพการพูดกับความสามารถด้านการอ่านของเด็ก”

 

เด็กที่มีคุณภาพการพูดดี มีคำศัพท์อยู่ในหัวเยอะ เวลาอ่านหนังสือก็จะมีการเชื่อมโยงทำให้อ่านได้ดี อ่านได้สลับซับซ้อนและคิดวิเคราะห์ได้ลึกซึ้ง นอกจากนี้ขณะฟังนิทานเซลล์สมองจะมีการแตกแขนงของเส้นใยประสาท ยิ่งเส้นใยสมองเพิ่มขึ้นมาก เด็กจะยิ่งฉลาดมากขึ้น ดังนั้นหากคุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกฉลาดจึงควรหันมาส่งเสริมให้ลูกได้เรียนรู้ผ่านการเล่านิทานแทนการใช้เทคโนโลยี ซึ่งควรปลูกฝังตั้งแต่ยังเล็ก 

 

pixabay.com

 

วิธีการ

1. เลือกหนังสือภาพที่มีรูปภาพใหญ่ ๆ สีสันสดใส ชื่อหนังสือและเนื้อหาภายในเล่มควรเป็นคำคล้องจองเพื่อให้เด็กจดจำได้ง่าย ติดหู มีเพลงประกอบ เพราะเด็ก ๆ ชอบเสียงเพลง หรือหนังสือที่มีพื้นผิวแปลก ๆ ให้ได้สัมผัส ก็เป็นการกระตุ้นประสาทสัมผัสได้ดี

2. เวลาเล่านิทานให้เด็กฟัง ควรให้เขานั่งตักเพราะจะทำให้เขารู้สึกอบอุ่นปลอดภัยและมีสมาธิจดจ่ออยู่กับการฟัง

3. ควรเล่าด้วยเสียงดังฟังชัด แสดงสีหน้าท่าทางให้เข้ากับเนื้อเรื่อง ใช้โทนเสียงสูงต่ำให้มีความแตกต่างกันในแต่ละตัวละคร หรือร้องเพลงประกอบ ทำเสียงสัตว์ต่าง ๆ จะทำให้เด็กรู้สึกว่าการอ่านเป็นเรื่องสนุกสนานและน่าติดตาม

4. พยายามสื่อสารกับเด็ก สร้างคำถาม เป็นการกระตุ้นพัฒนาการได้ดี

5. ให้เด็กได้เรียนรู้จากการทำซ้ำ โดยอ่านนิทานเรื่องเดิมซ้ำแล้วซ้ำอีก

6. ลองให้เด็กได้สัมผัสหนังสือ หรือให้เปิดเล่นบ้าง ควรเลือกหนังสือที่ปลอดภัยขอบโค้งมน เพื่อปล่อยให้เขาได้เรียนรู้ถึงสัมผัสจากหนังสือด้วยวิธีการของเขาเอง ไม่ว่าจะเป็นการกัดหรือการอม และหากเด็กทำท่าจะฉีกหนังสือ คุณพ่อคุณแม่เพียงสอนให้เขาได้เข้าใจว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ ไม่ควรดุหรือตำหนิอย่างรุนแรง เพราะอาจทำให้ลูกไม่อยากจับหนังสืออีกต่อไป

 

ประโยชน์ของการอ่านหนังสือให้ลูกฟัง นอกจากช่วยให้สมองของลูกได้พัฒนาแล้ว ยังช่วยพัฒนาทักษะทางภาษา ส่งเสริมทักษะการฟัง กระตุ้นจินตนาการและความคิดรวบยอด เสริมสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ ยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่และลูกได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะเกิดผลดีต่อพัฒนาการทางสังคมและอารมณ์ของเด็กในอนาคต

 

เรียบเรียง : คุณแม่มืออาชีพ

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook Parenting
  • 8 Followers
  • Follow