รอยยิ้มนี่เป็นประตูนำไปสู่มิตรภาพเลยล่ะ (เดี๋ยวนะ...ไม่ได้หมายถึง ถนนมิตรภาพที่จะไปภาคอีสานนะ!) คนสวยแต่หน้าบึ้งไม่ยิ้มแย้ม ก็ไม่มีใครอยากเข้าใกล้เหมือนกัน ... สาว ๆ ลองฝึกยิ้มให้เป็นนิสัย เจอคนคุ้นหน้าคุ้นตาก็ยิ้มไปก่อนเลย ถึงแม้จะไม่รู้จักแต่ถ้าเจอรอยยิ้มเราบ่อย ๆ ต้องได้รู้จักทักทายกันเข้าสักวัน
ไม่ต้องโลกสวยถึงขั้นเห็นสายรุ้งและฝูงยูนิคอร์น เอาแค่คิดอะไรในแง่ดี มองอะไรในมุมบวก หัดมีมุกมาแซวมาหยอกให้คนรอบข้างได้ขำบ้างพอเป็นพิธี แค่นี้ก็เพียงพอจะทำให้คนอื่น ๆ อยากแวะเวียนมาคุยกับคุณได้แล้ว เพราะใคร ๆ ก็อยากอยู่ใกล้อะไรที่ทำให้สบายใจทั้งนั้น เหมือนที่ Anne Demarais ผู้ก่อตั้งบริษัทด้านการฝึกอบรมการสร้างความประทับใจครั้งแรก ประเทศสหรัฐอเมริกาได้กล่าวไว้ “เมื่อคุณทำให้ใครสักคนยิ้มหรือหัวเราะ หรือกล่าวคำชื่นชมแก่เขา คุณก็จะได้สิ่งเหล่านั้นตอบกลับมา”
การแต่งกายคือสิ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นคุณ ทั้งอุปนิสัยและมารยาทการแสดงออก สิ่งเเรกที่ควรคำนึงถึงคือความเหมาะสมของสถานที่และบุคคลที่คุณต้องไปพบเสมอ นอกจากนี้เสื้อผ้าการแต่งกายยังเป็นสิ่งเเรกที่คนอื่น ๆ ใช้ตัดสินคุณจากภายนอก ซึ่งอาจทำให้คุณเป็นที่ชื่นชม จดจำ ประทับใจ หรือไม่น่าเข้าใกล้เลยก็เป็นได้ ประเด็นสำคัญคือการรู้จักเลือกแต่งตัวให้เข้ากับตัวเอง สวยแบบไม่ซ้ำใคร สไตล์เรานี่ล่ะโดนใจ !
คนมีน้ำใจไปที่ไหนก็มีคนรัก ... ไม่ต้องถึงขนาดเป็นแม่บุญทุ่มใช้เงินซื้อให้คนมารัก แค่มีของมาฝากบ้างเป็นครั้งคราวก็สร้างความประทับใจได้ อย่าคอยเป็นแต่ฝ่ายรับอย่างเดียว ลองอาสาช่วยงานคนอื่นบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ รู้จักคิดถึงคนอื่นก่อนตัวเอง ใส่ใจความต้องการของคนอื่นบ้าง เพราะใคร ๆ ก็อยากเป็นคนที่ได้รับการดูแลบ้างทั้งนั้น ... ไม่เชื่อก็ลองพิสูจน์กันดู
สิ่งที่ทำให้คนรู้สึกว่าเขาสำคัญกับเรา ก็คือการที่เราฟังเขามากกว่าที่เราพูด พยายามถามคำถาม มี Eye contact ยิ้มบ้างพอประมาณ ตอบรับสิ่งที่คุยกันแค่นี้ก็พอแล้ว ส่วนเวลาที่คุณอยากแสดงความคิดเห็นอย่าเพิ่งเสนอข้อแนะนำ จนกว่าคนคนนั้นจะขอก่อน เพราะการฟังมันแสดงถึงความใส่ใจที่คุณมี ซึ่งสำคัญมากกว่าคำแนะนำเสียอีก ที่สำคัญอย่า “เลือก” ที่จะฟังแค่คนบางคน หากต้องการให้คนรอบข้างอยากเข้าหา เราต้องรู้จักเปิดรับทุกคนด้วยใจจริง
สมัยนี้คนจริงใจ คนเปิดเผยหายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร หากอยากเป็นคนน่าคบ ต้องเริ่มที่ความจริงใจเลย เพราะเป็นรากฐานที่สำคัญต่อความสัมพันธ์ แค่เพียงคุณไม่นินทาว่าร้ายใคร ไม่โกหกเสแสร้ง และไม่พูดถึงบุคคลที่สามในทางลบ เท่านี้ก็น่าคบหามากมาย
กาลเทศะเป็นเรื่องสำคัญมากในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น คุณควรจะรู้จักว่าเวลาไหนควรทำหรือไม่ควรทำอะไร จังหวะไหนควรพูดหรือไม่ควรพูด แนะนำให้เป็นคนช่างสังเกตสักนิด คอยดูสีหน้าและแววตาคนรอบตัวบ้างว่ากำลังรู้สึกอย่างไรกันอยู่ และพยายามมีสติคิดก่อนพูดเสมอ
ไม่ว่าคุณจะอยากเป็นที่รักขนาดไหน พยายามทุกสิ่งทุกอย่าง แต่มันไม่ใช่ตัวคุณเลย ... ก็เปล่าประโยชน์ที่จะฝืน ลองทำอะไรที่เป็นตัวเองดีกว่า ทุกอย่างที่ทำออกมาจะได้ดูเป็นธรรมชาติไม่ประดิษฐ์จนคนอื่นรู้สึกรำคาน ของแบบนี้มันเป็นทักษะที่ต้องใช้เวลาในการพัฒนาตัวเองอยู่เหมือนกัน ค่อย ๆ ปรับค่อย ๆ เปลี่ยนกันไปก็แล้วกันนะสาว ๆ
เรียบเรียง : กานต์เกจิ