เคยสงสัยไหมว่า ระหว่างผลไม้เป็นลูก ๆ กับน้ำผลไม้ที่ผ่านการกลั่นออกมาเป็นน้ำ อันไหนจะให้ประโยชน์กับเรามากกว่า มันจะเหมือนกันหรือแตกต่างกันอย่างไรไหม ?

น้ำผลไม้ เมื่อผ่านกระบวนการแปรรูปจากผลมาในอยู่รูปแบบของน้ำที่ไม่มีกากให้เคี้ยวนั้น ทำให้ได้รับน้ำตาลฟรุกโตสโดยตรง ดื่มแล้วจะรู้สึกสดชื่นและได้รับพลังงานอย่างรวดเร็วแต่สิ่งที่ทิ้งไปคือกากใย ซึ่งเป็นตัวที่มีประโยชน์อย่างมาก เพราะไม่เพียงแต่กากใยที่มีประโยชน์หายไป แต่ยังมีสารอาหารมากมายที่ถูกทิ้งไปพร้อมๆกับกากใยด้วย เพราะฉะนั้นหากอยากได้ประโชยน์สูงสุดก็ควรจะรับประมานผลไม้สดบ้างหรือจะดื่มควบคู่ไปกับน้ำผลไม้ในปริมาณที่พอเหมาะ คือประมาณวันละไม่เกิน 1 แก้วต่อวัน ก็เพียงพอแล้ว 

  และควรเลือกทานน้ำผลไม้ที่คั้นสด ๆ รีบทานเลยหลังจากคั้นเสร็จใหม่ ๆ เพราะวิตามินในผลไม้จะยังคงอยู่ แต่ถ้าหากคั้นเอาไว้แล้วเก็บในตู้เย็นแม้เวลาเพียงไม่นาน สารอาหารและวิตามินต่างๆจะค่อยๆสูญเสียไป  นอกจากนี้อาจเสี่ยงกับการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ ในระหว่างการเก็บอีกด้วย

แต่ในบางคนประสบปัญหาดื่มน้ำผลไม้แล้วทำไมน้ำหนักขึ้น นั่นก็เป็นเพราะว่าในน้ำผลไม้มีน้ำตาลตามธรรมชาติอยู่แล้ว แม้ไม่ได้เติมน้ำตาลเพิ่มก็ให้พลังงานอยู่พอสมควร ดังนั้นจึงเหมาะกับดื่มหลังการออกกำลังกาย เพราะเป็นการช่วยทำให้ร่างกายสดชื่นขึ้น แต่หากอยากได้ประโยชน์ให้ครบถ้วน ก็แนะนำให้ทานผลไม้สดด้วยจะดีที่สุด เพราะจะได้รับกากใยอาหารและสารอาหารอย่างครบถ้วน 

TIP : น้ำผลไม้25％ และ 100% เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร

น้ำผลไม้แบบ 25% ไม่เชิงถือเป็นน้ำผลไม้ เพราะจะมีปริมาณน้ำผลไม้จริงอยู่เพียง 25％เท่านั้นส่วนที่เหลือคือน้ำตาลและสิ่งปรุงแต่งรสชาติและกลิ่น ส่วนน้ำผลไม้แบบ 100% คือการนำน้ำผลไม้มาระเหยน้ำออกจากน้ำผลไม้ให้เข้มข้นก่อน(หัวเชื้อ)และมาเติมน้ำให้ได้สัดส่วนอีกครั้งตามขั้นตอนและบรรจุกล่อง ซึ่งกระบวนการนี้จะทำให้สารอาหารสูญเสียไป ถึงจะมีการเติมวิตามินและสารอาหารลงไปบ้างแต่ปริมาณก็ไม่มากเท่ากับปริมาณน้ำตาลที่ได้รับ ดังนั้นผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักจึงควรหลีกเลี่ยงการเลือกดื่มน้ำผลไม้ หันมาทานผลไม้สดจะดีกว่า

เรียบเรียงข้อมูลโดย Ary.kree