จริงๆ แล้วช่วงเวลาที่เด็ก ๆ ไม่ได้ไปโรงเรียนนั้น ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญต่อการพัฒนาสมองของเด็กเหมือนกัน เพราะช่วงเวลานี้ถือแป็นช่วงเวลาที่สมองของเด็ก ๆ ปลอดโปร่ง และพร้อมที่จะเปิดรับความรู้ใหม่ ๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งหากพ่อแม่ปล่อยให้ลูกอยู่กับหน้าจอนานเกินไป หรือทำกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งเพียงอย่างเดียวติดต่อกันเป็นเวลานานโดยที่ไม่ได้ใช้สมองอย่างหลากหลายหรือครบทุกด้าน ก็จะทำให้เด็ก ๆ มีพัฒนาการทางสมองที่ถดถอยลงไป โดยเฉพาะสมองส่วนการเรียนรู้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการประมวลข้อมูล เหตุผล การจดจำ และการเชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้จะส่งผลให้เมื่อเปิดภาคเรียนมาเด็ก ๆ จะต้องมีการใช้สมองหนักกว่าเดิม
ซึ่งวิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยให้สมองของเด็กพัฒนาได้ แม้ต้องหยุดเรียน ก็คือ การส่งเสริมให้เด็ก ๆ ได้ทำกิจกรรมที่หลากหลาย และได้ใช้ทักษะสมองทุกส่วน เพื่อไม่ให้ประสิทธิภาพของสมองลดลง เช่น
ผ่านกิจกรรมการเล่านิทาน การเล่นจิ๊กซอว์ หรือบอร์ดเกมส์ต่าง ๆ ซึ่งนอกจากจะช่วยส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ และพัฒนาสมองแล้ว ยังช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัวอีกด้วย
ผ่านการทำศิลปะ วาดรูป ระบายสี ขยำ – ฉีกปะกระดาษ หรือแม้แต่ให้ลูกได้ช่วยงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น กรอกน้ำ เก็บที่นอน ตากเสื้อผ้า
ผ่านการฝึกให้ลูกได้ช่วยเหลือตัวเอง ชวนกันเต้นประกอบเพลงภายในบ้าน หรืออกกำลังกายเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น การวิ่ง หรือปั่นจักรยาน
ผ่านการฝึกให้ลูกได้สังเกตสิ่งต่าง ๆ รอบตัว หรือการช่วยเหลืองานบ้าน
ผ่านการทบทวนบทเรียน หรืออ่านนิทาน หรือหนังสือที่เกี่ยวกับความรู้รอบตัวต่าง ๆ นอกจากการอ่านจะช่วยสร้างความสนุกสนาน เพลิดเพลินให้ลูกได้แล้ว ยังเป็นการสร้างเสริมคลังคำศัพท์ในสมองให้ลูกได้อีกด้วย
สุภาพรรณ ศรีสุข (ครูแหม่ม)
ที่ปรึกษาวิชาการ โรงเรียนศิลปพัฒนาการสมองเด็ก K.D.S.