Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

ครูในฐานะของแม่พิมพ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

Posted By Plook Teacher | 19 พ.ย. 64
8,355 Views

  Favorite

        เรามักได้ยินกันเสมอว่า ครูผู้สอนนั้นเปรียบเสมือนแม่พิมพ์ของชาติ เพราะเป็นผู้ที่คอยอบรมสั่งสอนนักเรียนให้พวกเขาเติบโตเป็นไปตามแบบแผนและบรรทัดฐานของสังคมตามความคาดหวังของประเทศชาติซึ่งตลอดมาบทบาทของครูผู้สอนโดยทั่วไปก็มีลักษณะเช่นนี้ แต่แล้วเมื่อกระแสสังคมเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไปด้วยพลวัตของการพัฒนาด้านเทคโนโลยี ทำให้บทบาทในฐานะแม่พิมพ์ของครูผู้สอนในปัจจุบันนั้นถูกตั้งคำถามว่ายังคงเป็นเช่นนั้นอยู่หรือไม่

           มีคำกล่าวอันแสดงถึงความคิดเห็นในเชิงตำหนิติเตียนถึงการแสดงออกที่ไม่เหมาะสมในเรื่องต่าง ๆ ของครูผู้สอนบางท่านในยุคปัจจุบันเป็นทำนองที่ว่า "แม่พิมพ์ที่บิดเบี้ยวนั้น ไม่สามารถเป็นต้นแบบที่ดีให้กับนักเรียนได้" ซึ่งจากประโยคนี้ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมาอย่างกว้างขวาง ทั้งเชิงที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยซึ่งผู้ที่เห็นด้วยนั้นมองว่าการที่ครูผู้สอนแสดงออกอย่างไม่เหมาะสมนั้น มีผลอย่างมากมายต่อตัวของนักเรียน ซึ่งทำให้พวกเขาเกิดการเลียนแบบในพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ในขณะที่ผู้ที่ไม่เห็นด้วยนั้น กลับมองว่าเรื่องนี้ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันเลย ครูผู้สอนจะแสดงออกเช่นไรก็ไม่ได้หมายความว่าครูผู้สอนท่านนั้นจะให้การศึกษาที่ดีกับนักเรียนในความดูแลไม่ได้และการทำตัวเหมือนแม่พิมพ์แล้วให้นักเรียนทำตามหรือเดินไปทางนั้นทางนี้นั้นก็ดูจะไม่ใช่วิธีการส่งเสริมการศึกษาสำหรับโลกยุคนี้ และควรที่จะยกเลิกความคิดนั้นเสียที ซึ่งสำหรับความเห็นอย่างหลังนี้นับวันจะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ พร้อม ๆ กับการก้าวเข้ามาครูผู้สอนหน้าใหม่

           เหตุผลที่ทำให้คำกล่าวที่ว่าครูผู้สอนคือแม่พิมพ์ของชาติ กลายเป็นคำกล่าวที่ชวนเคลือบแคลนสงสัยนั้น เพราะด้วยคุณสมบัติของสิ่งที่เรียกว่าแม่พิมพ์นั้น คือการพิมพ์หรือผลิตสิ่งของนั้นออกมาให้เหมือนกันเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการที่แม่พิมพ์ถูกเปรียบเหมือนครูผู้สอนก็เสมือนเป็นการตอกย้ำว่า ระบบการศึกษาในสถานศึกษานั้น ต้องการที่จะสร้างให้นักเรียนมีความคิดการอ่านที่เหมือน ๆ กัน ซึ่งสมัยก่อนอาจเป็นแนวทางถูกต้อง แต่สำหรับยุคปัจจุบันกลับกลายเป็นสิ่งที่ขัดกับแนวทางการเรียนรู้ของโลกสมัยใหม่ที่เน้นความหลากหลายและความเป็นตัวของตัวเอง

           สำหรับเรื่องนี้ถ้าทุกคนมองการเป็นแม่พิมพ์ของครูผู้สอนเพียงแค่เรื่องของการชี้นำความคิดก็ต้องยอมรับว่า มันถึงเวลาแล้วที่ควรยกเลิกความเป็นแม่พิมพ์เช่นนี้แล้วปรับเปลี่ยนตัวเองให้เหมาะสมตามยุคสมัย แต่ถ้าเรามองครูผู้สอนในมุมมองของการเป็นแม่พิมพ์ในหลากหลายมิติมากขึ้นเราก็จะพบว่าการเป็นแม่พิมพ์ของครูผู้สอนนั้นมีความหมายที่กว้างกว่าแค่เรื่องของการชี้นำทางความคิดมากนัก

           หลายคนอาจจะมองว่าการเป็นแม่พิมพ์ของครูผู้สอนนั้นคือการยัดเยียดความคิดไปสู่นักเรียน ซึ่งเป็นวิธีการสอนที่โบราณคร่ำครึ และไม่ควรที่จะเกิดขึ้นอีกแล้วกับการศึกษาสมัยใหม่ ซึ่งสิ่งนี้อาจเป็นความจริงเพียงแค่ส่วนเดียวเพราะนอกเหนือจากเรื่องนี้แล้ว ครูผู้สอนยังมีเรื่องของการเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับนักเรียนอีกด้วย ซึ่งการเป็นแบบอย่างที่ดีนั้นคือเรื่องสำคัญอย่างหนึ่งในการส่งเสริมการเรียนรู้ เพราะตามทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคมของอัลเบิร์ตแบนดูรานั้น ชี้ให้เห็นว่าบุคคลนั้นๆมีการเรียนรู้ผ่านตัวแบบ โดยอาศัยการสังเกตพฤติกรรมของตัวแบบการตอบสนองและปฏิกิริยาต่าง ๆ ของตัวแบบต่อสภาพแวดล้อม และรวมไปถึง การแสดงออกและคำบอกเล่าของตัวแบบด้วย ซึ่งถ้าตัวแบบนั้นน่าเชื่อถือต่อบุคคลนั้น ก็มีแนวโน้มที่จะทำให้บุคคลนั้นๆเลียนแบบได้

           ทฤษฎีนี้เป็นหนึ่งในทฤษฎีสำคัญในการส่งเสริมการเรียนรู้ให้กับนักเรียน โดยเฉพาะนักเรียนในระดับปฐมวัยและระดับประถมศึกษา ที่ครูผู้สอนนั้นยังคงมีอิทธิพลค่อนข้างมากกับตัวของพวกเขา จึงไม่แปลกอะไรที่นักเรียนในช่วงวัยนี้มักจะเชื่อฟังครูผู้สอนและมองว่าครูผู้สอนนั้นมีอิทธิพลต่อความคิดของตัวเอง ดังนั้นสำหรับครูผู้สอนในช่วเวลานี้การเป็นแบบอย่างที่ดีเรื่องต่าง ๆ นั้น ย่อมเป็นสิ่งสำคัญที่จะส่งผลให้นักเรียนมีพฤติกรรมตามแบบอย่างนั้นตามไปด้วย

           ส่วนกลุ่มของนักเรียนในระดับชั้นที่สูงขึ้น โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่น พวกเขาจะเริ่มมีความคิดการอ่านของตัวเอง มีอุดมการณ์และรักอิสระ ซึ่งเป็นผลมาพัฒนาการของในช่วงวัยนี้ และการเลียนแบบจากกลุ่มเพื่อนหรือสื่อที่มีอิทธิพลต่าง ๆ ทำให้อิทธิพลของครูผู้สอนต่อนักเรียนในช่วงวัยนี้เริ่มน้อยลง ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามปกติ ดังนั้นครูผู้สอนของนักเรียนในช่วงวัยนี้จึงต้องเข้าใจพวกเขาเป็นอย่างมาก เพราะการบอกให้พวกเขาเชื่อหรือปฏิบัติตามนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และยิ่งในยุคสมัยนี้ที่สื่อออนไลน์เข้าไปมีบทบาทแทนที่การปลูกฝังจากครอบครัว ก็ยิ่งเป็นเรื่องยากที่จะดึงนักเรียนให้อยู่ในเส้นทางที่เหมาะสมได้

           ด้วยเหตุนี้ครูผู้สอนที่ต้องสอนนักเรียนในช่วงวัยนี้จึงจำเป็นต้องปรับตัวเองให้เข้าใจและเป็นกันเองกับนักเรียนมากขึ้น ยอมรับในตัวพวกเขา และพร้อมพูดคุยแสดงความคิดเห็นกับพวกเขาร่วมกัน โดยไม่เป็นการบังคับหรือห้ามปรามอย่างไร้เหตุผล เพราะไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้องและอาจจะส่งผลทำให้นักเรียนมีทัศนคติที่ไม่ดีกับครูผู้สอนอีกด้วย ซึ่งถ้าครูผู้สอนเป็นกันเองและสามารถเข้ากับนักเรียนในช่วงวัยนี้ได้ พวกเขาก็จะมีแนวโน้มที่จะรับฟังและปฏิบัติตามครูผู้สอน ซึ่งจะทำให้การจัดการเรียนการสอนนั้นง่ายมากขึ้น

           

           จะเห็นได้ว่าการเป็นแม่พิมพ์ของครูผู้สอนนั้น แม้จะลดบทบาทลงในระดับชั้นที่สูงขึ้นแต่ก็ไม่ได้จางหายไปไหน เพียงแต่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยและช่วงวัยของนักเรียน เราอาจเป็นแม่พิมพ์รูปแบบหนึ่งในระดับชั้นหนึ่ง แต่เราก็สามารถเป็นแม่พิมพ์อีกแบบหนึ่งในระดับชั้นอื่น ซึ่งการจะเป็นแม่พิมพ์แบบไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับนักเรียนว่าพวกเขาเรียนรู้แบบไหน

           การเป็นแม่พิมพ์ไม่จำเป็นจะต้องเป็นเรื่องของความคิดเท่านั้นครูผู้สอนสามารถเป็นแม่พิมพ์ หรือแบบอย่างในเรื่องอื่น ๆ ได้เช่นเรื่องของการใช้ชีวิตเรื่องของการดำเนินชีวิต หรือการแสดงออกสำหรับมุมมองในเรื่องต่าง ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ล้วนมีผลต่อการพัฒนาบุคลิกภาพของนักเรียนแทบทั้งสิ้น ยิ่งถ้าครูผู้สอนมีอิทธิพลต่อพวกเขาด้วยแล้ว พวกเขาก็มักที่จะเลียนแบบในเรื่องนี้ และเรียนรู้ที่จะนำไปปรับใช้กับการดำเนินชีวิตของตัวเองในอนาคต

           เรื่องของการเป็นแม่พิมพ์นี้สำหรับผู้เขียนแล้วมองว่าไม่ว่าจะยุคสมัยใดครูผู้สอนก็ยังคงเป็นแม่พิมพ์ของนักเรียนเสมอ แต่การเป็นแม่พิมพ์นั้นไม่จำเป็นจะต้องเป็นแม่พิมพ์ชิ้นเดียวครูผู้สอนอาจเป็นแม่พิมพ์ได้หลากหลายแบบและสามารถที่จะเลือกแบบที่เหมาะสมกับนักเรียนได้เพื่อส่งเสริมให้พวกเขาเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามวิธีทางที่เหมาะสมของแต่ละคน นี่แหละจึงจะเป็นแนวทางที่ถูกต้องและเหมาะสมกับคำว่า แม่พิมพ์ของชาติ (ยุคใหม่)

 

เรียบเรียงโดย : นรรัชต์  ฝันเชียร

 

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook Teacher
  • 127 Followers
  • Follow