มีใครดูแล้วบ้าง หลังจากที่ใจจดจ่อรอให้ถึงวันฉายใน Netflix กับ Sweet & Sour รักหวานอมเปรี้ยว ภาพยนตร์โรแมนติกคอเมดี้เรื่องใหม่ล่าสุด ที่ปรุงส่วนผสมออกมาเป็นความสำเร็จกลมกล่อมได้อย่างอร่อย ถ้าใครยังลังเลละก็ ขอแชร์ความเห็น 5 เหตุผลดังต่อไปนี้ว่าทำไมจึงไม่ควรพลาดชมสูตรความรักที่หวานอมเปรี้ยวเรื่องนี้ !

1. ชีวิตรักที่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง

หนังรักโรแมนติกประดุจเทพนิยายนั้นดูสนุกก็จริง แต่เพราะความรักในนิยายนั้นคงไม่เกิดขึ้นจริงในชีวิตคนเราอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงไม่สามารถทำให้คนดูรู้สึกเชื่อมโยงกับชีวิตตัวเองได้ ไปอ่านเจอมาว่า ผู้กำกับ อีกเยบยอก ตั้งใจต้องการให้เห็นความสัมพันธ์ของรักที่อยู่บนพื้นฐานของความจริง และเป็นความรักในแบบที่คนหนุ่มสาวจะรู้สึกเชื่อมโยงได้ “ผมว่าคนหนุ่มสาวยุคนี้ยุ่งกว่าสมัยเรา ๆ มาก การใช้ชีวิตที่ยุ่งขนาดนั้นย่อมทำให้พวกเขาต้องเผชิญความยากลำบากในเรื่องความรักอย่างแน่นอน” รักหวานอมเปรี้ยว (Sweet & Sour) จะเล่าถึงความรักที่ทั้งสุขและเศร้าที่ทำให้หัวใจวูบไหว แต่ขณะเดียวกันก็แสดงให้ว่าความรักนั้น จะเปลี่ยนรสชาติไปตามกาลเวลาได้อย่างไรบ้า

2. นักแสดงรุ่นใหม่มากความสามารถ

นักแสดงรุ่นใหม่ที่เป็นที่นิยมในหมู่แฟน ๆ คืออีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้คุณไม่ควรพลาดชมภาพยนตร์เรื่องนี้ เริ่มจาก

แชซูบิน ที่คอซีรีส์เกาหลีต้องเคยผ่านตากันมาแล้วกับผลงานอย่าง Where Stars Land, I Am Not a Robot และ Strongest Deliveryman 

จางกียงที่แม้ รักหวานอมเปรี้ยว (Sweet & Sour) จะเป็นงานแสดงภาพยนตร์รักโรแมนติกเรื่องแรก แต่ก่อนหน้านี้ก็เคยมีผลงานที่ครองใจแฟน ๆ มาแล้วอย่าง Search WWW, แก๊งแห่งความโกลาหล (The Bad Guys: Reign of Chaos) และ My Mister 

จองซูจอง ที่ก่อนหน้านี้เคยฝากผลงานแสดงหลากหลายบทบาทมาแล้วในซีรีส์เรื่อง ฟ้าพลิก ชีวิตยังต้องสู้ (Prison Playbook), The Bride of Habaek และ วุ่นรักทายาทพันล้าน (Inheritors) ทุกเรื่องล้วนโด่งดังมาแล้วขนาดนี้ หากนักแสดงนำเหล่านี้จะป็อปปูลาร์ในหมู่แฟน ๆ ก็คงไม่น่าแปลกใจ

3. ตัวละครที่คนดูรู้สึกเชื่อมโยงกับชีวิตจริงได้

เนื่องจาก รักหวานอมเปรี้ยว (Sweet & Sour) บอกเล่าเรื่องราวที่พบเจอได้ในชีวิตจริง ตัวละครในเรื่องจึงสมจริงและทำให้คนดูรู้สึกเชื่อมโยงได้โดยง่าย จางฮยอก (จางกียง) เป็นคนที่ทุ่มเทกับอาชีพการงาน เขาได้โอกาสทำงานในบริษัทใหญ่ และพยายามทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้บรรจุเป็นพนักงานประจำ จองดาอึน (แชซูบิน) เป็นพยาบาลสาวที่ต้องทำงานแบบเข้ากะครั้งละหลายชั่วโมง ส่วน ฮันโบยอง (จองซูจอง) ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับจางฮยอก แล้วในระหว่างที่ทั้งสองต้องทำงานร่วมกันมากขึ้น เธอก็ได้ใกล้ชิดกับเขามากขึ้นเรื่อย ๆ

4. เรื่องราวรักสามเศร้าที่เล่าอย่างมีเอกลักษณ์

ภาพยนตร์เรื่องนี้จะแสดงให้เห็นแง่มุมที่น่าสนใจของความรักสามเศร้า จางฮยอกและดาอึนเผชิญความยากลำบากในการปรับตัวและการรักษาความสัมพันธ์ไว้ให้ได้เมื่อทั้งคู่เริ่มห่างกันเมื่อจางฮยอกต้องไปทำงานที่ใหม่ ดาอึนเป็นพยาบาลก็มีตารางงานไม่ตรงกับมนุษย์เงินเดือนทั่วไป  ส่วนจางฮยอกเองก็ต้องทำงานล่วงเวลาหลายชั่วโมง ทำให้ทั้งคู่ไม่ค่อยมีเวลาให้กัน จากนั้นจางฮยอกก็รู้สึกว่าตนใช้เวลาอยู่กับโบยองซึ่งทำโปรเจ็กต์ร่วมกันมากกว่า และทั้งสองก็เริ่มสนิทกันมากขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนข้าวปั้นสามเหลี่ยมที่เรายังไม่รู้ว่าเป็นไส้อะไรจนกว่าจะแกะทั้งหมดออกมา

5. เคมีคู่รักแสนโรแมนติก

รอชมกันได้เลยกับเคมีความรักระหว่างทั้งสองคู่ จากบทสัมภาษณ์นักแสดง จองซูจองเล่าว่า “ฉันไม่มีฉากที่เล่นกับแชซูบินเลยค่ะ เราก็เลยเจอกันแค่สองครั้งเอง” แชซูบินบอกว่า “เราอายุเท่ากันด้วย ก็เลยค่อนข้างเสียดายที่ไม่ได้เจอกันบ่อยกว่านี้ค่ะ” จางกียงเล่าว่า “ผมรู้สึกว่าเคมีระหว่างจางฮยอกกับโบยองเป็นอะไรที่สนุกสนาน ซูจองบอกว่าเธอมีอีกด้านที่เป็นคนตลก และเธอก็มีเอเนอร์จี้ล้นเหลือจริง ๆ เราต้องเทคใหม่กันหลายครั้งเพราะหลุดหัวเราะบ่อยมากครับ”

หายลังเลที่จะดูแล้วหรือยังล่ะ รับประกันความสนุก ปิดท้ายด้วยภาพน่ารัก ๆ ของนักแสดงหลัก แล้วไปเช็ควันหมดอายุของความรักด้วยกันกับ รักหวานอมเปรี้ยว (Sweet & Sour) ที่ Netflix !