งานวิจัยที่เชื่อถือได้ ระบุอย่างชัดเจนถึงความรุนแรงของโควิด 19 ที่ส่งผลกระทบน้อยมากกับเด็กเล็ก โดยทีมนักวิจัยที่ Johns Hopkins ได้ศึกษาผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันในประเทศจีน มากกว่า 72,000 ราย พบว่าเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปีนั้น มีสัดส่วนน้อยกว่าร้อยละ 1 ของการติดเชื้อทั้งหมด และจากจำนวนผู้เสียชีวิต 1,023 ราย ไม่มีเด็กแม้แต่คนเดียวที่อยู่ในกลุ่มนี้
เหตุผลที่เป็นเช่นนั้นนักวิจัยหลายคนมองว่า เป็นผลมาจากโปรตีนที่ส่งต่อระบบภูมิคุ้มกันที่เป็นอันตรายประเภทหนึ่ง ที่เรียกว่า ไซโตไคน์ (Cytokine) ที่เป็นโปรตีนที่ทำงานในช่วงที่เด็กกำลังเติบโต ซึ่งช่วยให้เด็กได้รับความเสียหายจากไวรัสต่าง ๆ ที่เข้ามาในช่วงเวลานี้ค่อนข้างต่ำ
แต่อย่างไรก็ดี แม้ว่าเด็กปฐมวัยอาจได้รับความรุนแรงของโรคค่อนข้างน้อย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะแพร่เชื้อไม่ได้ มันจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคน โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็กเล็กในบ้านจะต้องระมัดระวังและป้องกันให้พวกเขาห่างไกลโรค ทั้งนี้เพราะปัจจุบันวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 สำหรับเด็กเล็กนั้น ยังอยู่ในช่วงของการพัฒนา ซึ่งยังคงต้องใช้เวลาอีกพอสมควร ถึงจะสามารถนำออกมาใช้งานกับเด็กโดยทั่วไปได้ และรวมถึงการจัดหาวัคซีน ที่อาจจะต้องใช้เวลามากขึ้นไปอีก พวกเขาจึงยังไม่มีโอกาสได้รับวัคซีนในช่วงเวลานี้ และแน่นอนว่าพวกเขาจึงมีโอกาสที่จะติดเชื้อได้สูง และยิ่งปัจจุบัน เชื้อโควิด 19 มีการกลายพันธุ์มากขึ้น ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อเด็กเล็กได้ ถ้าเกิดว่าการกลายพันธุ์นั้นส่งผลให้ไวรัสสามารถทำอันตรายต่อเด็กได้มากขึ้น
ด้วยเหตุนี้ เด็กเล็กจึงนับเป็นกลุ่มเปราะบางที่ส่งผลกระทบต่อผู้ใกล้ชิดได้ง่าย ซึ่งถ้าเกิดว่าพวกเขาติดเชื้อ โอกาสที่คนรอบข้างจะติดไปด้วยนั้น ก็มีความเป็นไปได้สูง เพราะการดูแลตัวเองของเด็กนั้น แน่นอนว่าน้อยกว่าผู้ใหญ่หลายเท่า และยิ่งถ้าบุคคลใกล้ชิดพวกเขายังไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ก็มีโอกาสที่จะติดเชื้อจากเด็ก ๆ แล้วเกิดอาการป่วยหนักรุนแรงได้ โดยเฉพาะกับเด็กที่ติดเชื้อ แต่ไม่แสดงอาการ ซึ่งมีค่อนข้างมาก ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อพบว่าเด็กเล็กป่วยเป็นโรคโควิด 19 ก็จะต้องเข้ากระบวนการการรักษาเฉกเช่นเดียวกับผู้ใหญ่ เพื่อให้พวกเขาปลอดภัยจากความรุนแรงของโรคและลดโอกาสที่จะแพร่เชื้อ เพียงแต่ว่าสำหรับเด็กนั้น อาจต้องมีวิธีการที่เหมาะสมมากกว่า
มติจากการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนงานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ได้เล็งเห็นปัญหาในส่วนนี้ จึงได้มีการกำหนดแนวทางการปฏิบัติการดูแลเด็กและครอบครัวที่ติดเชื้อโควิด 19 ที่ไม่แสดงอาการด้วย 4 แนวทาง ได้แก่