สำหรับการศึกษาไทย แม้ว่าเราจะมีหลักสูตรแกนกลางตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ซึ่งเป็นหลักสูตรพื้นฐานให้ทุกโรงเรียนยึดถือปฏิบัติ แต่ก็มีหลายโรงเรียนที่มีความพร้อม สามารถนำเสนอหลักสูตรการเรียนรู้ที่น่าสนใจมากขึ้นกว่าหลักสูตรปกติ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ปกครองและนักเรียน สำหรับการเรียนรู้ในหลักสูตรที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
แต่อย่างไรก็ตามการเรียนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเพื่อการศึกษาที่มีคุณภาพแล้ว ผู้ปกครองส่วนใหญ่ก็พร้อมที่จ่ายตามความเป็นไปได้และฐานะ เพื่อเป็นการให้การศึกษาที่ดีที่สุดกับบุตรหลาน จึงทำให้หลักสูตรเหล่านี้ นอกจากจะเป็นทางเลือกให้กับนักเรียนแล้ว ยังสร้างเม็ดเงินอันมหาศาลให้กับการบริหารโรงเรียนในแต่ละแห่งได้อีกด้วย
สำหรับหลักสูตรทางเลือกที่หลายโรงเรียนนิยมนำมาใช้นั้น มีด้วยกันมากมายหลายหลักสูตร ซึ่งแต่ละหลักสูตร จุดสำคัญที่มักจะเน้น คือ เรื่องของ ภาษา วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี เพราะเป็นกลุ่มวิชาที่มีความสำคัญ และมีผลอย่างมากต่อการแข่งขันในด้านการศึกษา และมีผลต่อทักษะด้านต่าง ๆ ของนักเรียนในอนาคต ซึ่งหลักสูตรทางเลือกที่มีการนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายนั้น ได้แก่
EP (English Program) คือ หลักสูตรที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน โดยในการเรียนหลักสูตรนี้ นักเรียนจะต้องเรียนวิชาหลัก ๆ เป็นภาษาอังกฤษ แต่ก็อาจมีข้อยกเว้นบางวิชา เช่น ภาษาไทย และ สังคมศึกษา ที่เรียนเป็นภาษาไทยตามปกติ แต่ส่วนใหญ่จะใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนเป็นหลัก ซึ่งการจัดการเรียนการสอนนั้นส่วนใหญ่จะดำเนินการโดยครูชาวต่างชาติที่เป็นเจ้าของภาษา โดยอาจจะมีครูผู้สอนชาวไทยที่มีทักษะภาษาอังกฤษร่วมด้วย และหลักสูตรการเรียนรู้นั้นจะเป็นไปตามหลักสูตรแกนกลาง โดยมีทั้งตำราที่แปลจากตำราไทย และตำราเรียนจากต่างประเทศที่จำเป็น โดยส่วนนี้แตกต่างจาก โรงเรียนนานาชาติที่จะเป็นหลักสูตรเฉพาะของแต่ละโรงเรียน
การเรียนในระบบ English Program โรงเรียนจะต้องมีการคัดเลือกนักเรียน เพราะนักเรียนและรวมถึงผู้ปกครองจะต้องมีความพร้อมในระดับหนึ่ง เพราะนักเรียนจะต้องเน้นการสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งถ้านักเรียนมีความบกพร่องในการใช้ภาษา จะทำให้การเรียนในระบบนี้มีปัญหา และส่งผลเสียกับนักเรียนมากกว่าระบบปกติ และในขณะเดียวกัน ผู้ปกครองก็จะต้องมีเวลาใส่ใจบุตรหลานมากขึ้นด้วย เพราะจะต้องช่วยเหลือบุตรหลานในการเรียนรู้ด้วย
ห้องเรียน English Program นั้น ปัจจุบันมีโรงเรียนหลายแห่งได้นำมาใช้กันอย่างมาก ทั้งโรงเรียนรัฐบาลและโรงเรียนเอกชน ทำให้ค่าใช้จ่ายมีหลากหลาย ตั้งแต่เรียนฟรี จนไปถึงหลักแสน ตามแต่การจัดการของแต่ละโรงเรียน จึงเป็นหลักสูตรหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน
MEP (Mini English Program) คือหลักสูตรที่ลดความเข้มลงจากหลักสูตร English Program ลง จากที่ต้องเรียนแทบทุกวิชาเป็นภาษาอังกฤษ หลักสูตร Mini English Program จะเน้นการจัดการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษเฉพาะวิชา คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และ ภาษาอังกฤษ โดยจะสามารถดำเนินการสอนได้เพียง ร้อยละ 50 ของชั่วโมงการสอนทั้งหมดในแต่ละสัปดาห์
IEP (Intensive English Program) คือ หลักสูตรที่เน้นความเข้มของการเรียนในวิชาภาษาอังกฤษเป็นหลัก มีการเพิ่มชั่วโมงเรียนในวิชาภาษาอังกฤษ ส่วนการเรียนในวิชาอื่น ๆ จะเป็นไปตามหลักสูตรแกนกลาง
Gifted เป็นชื่อเรียกห้องเรียนที่มีการเรียนการสอนเข้มข้นเป็นพิเศษ ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นที่วิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และ ภาษาอังกฤษ เป็นหลัก ซึ่งแต่ละสถาบันนั้นมีชื่อเรียกห้องเรียนนี้ แตกต่างกัน เช่น ESC (Enrichment Science Classroom) ห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ ตามแนวทาง สสวท. และ สอวน. MSEP (Mathematics and Science Enrichment Program) ห้องเรียนที่เรียนวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์เป็นภาษาอังกฤษ หรือ SMP (Science Math Program) ห้องเรียนพิเศษที่มีความเข้มข้นในวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ เป็นต้น
Bilingual หมายถึง โรงเรียนสองภาษา ซึ่งเป็นโรงเรียนที่จัดสภาพแวดล้อมให้นักเรียนได้ใช้ภาษาไทยและภาษาอังกฤษอย่างกลมกลืนกัน
ด้วยความที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดให้โรงเรียนที่เป็นแบบสองภาษานั้น ต้องลงทะเบียนว่าเป็นหลักสูตร EP ทำให้ถูกมองว่าหลักสูตรทั้งสองแบบนี้มีความคล้ายคลึงกัน แต่ความเป็นจริงแล้ว การเรียนรู้แบบ Bilingual นั้น จะเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมให้นักเรียนซึมซับ ภาษาอังกฤษควบคู่กับภาษาท้องถิ่น จึงเป็นลักษณะของการเข้าใจภาษาทั้งสองภาษาพร้อมกัน โดยไม่ใช่เป็นการแปล ซึ่งถ้าจะให้ยกตัวอย่างง่าย ๆ ก็เหมือนกับการที่เด็กมีพ่อแม่คนละเชื้อชาติ สื่อสารกันคนละภาษา เวลาที่แม่สื่อสารภาษาไทยก็สื่อสารภาษาไทยกับแม่ และพอพ่อสื่อสารภาษาอังกฤษก็สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษกับพ่อได้ทันที จึงเป็นหลักสูตรที่เน้นให้นักเรียนสามารถใช้ภาษาทั้งสองภาษาเพื่อสื่อสารได้อย่างเป็นธรรมชาติ
หลักสูตรทางเลือกทั้งหลายที่กล่าวมานี้ เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้นที่มีการนำมาใช้ ปัจจุบันมีการออกแบบหลักสูตรใหม่ที่สอดคล้องกับความต้องการของนักเรียนมากขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากกับนักเรียน เพราะจะช่วยให้นักเรียนเลือกเรียนรู้ได้ตามรูปแบบที่เหมาะสมกับตัวเอง แต่อย่างไรก็ดี หลักสูตรเหล่านี้ก็มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงกว่าปกติ การเลือกเรียนก็ควรจะต้องดูที่ความพร้อมของแต่ละครอบครัวเป็นสำคัญ
เรียบเรียงโดย : นรรัชต์ ฝันเชียร