การเรียนรู้ของมนุษย์นั้น นอกจากการรับรู้โดยทั่วไปแล้ว ส่วนหนึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้จากการได้รับการศึกษา การเรียนการสอนและการฝึกฝน ซึ่งการเรียนรู้โดยการศึกษานั้นจะมีเป้าหมายที่ชัดเจนและมีแรงจูงใจเป็นตัวช่วย ทำให้เกิดเป็นพฤติกรรมการเรียนรู้และกระบวนการเรียนรู้ต่าง ๆ
การพัฒนากระบวนการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับตัวเองนั้น เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้เราสามารถเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เราจึงจำเป็นต้องพัฒนากระบวนการเรียนรู้ โดยเลือกใช้ทักษะที่ส่งเสริมการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับรูปแบบการเรียนรู้ของตัวเอง ซึ่งจะช่วยให้การเรียนรู้มีความรวดเร็วและคงทนมากยิ่งขึ้น
Freemalaysiatoday.com เว็บไซต์ข่าวสารของมาเลเซีย ได้นำเสนอบทความที่บอกถึงวิธีการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ด้วยตัวเองอย่างรวดเร็วเอาไว้ ซึ่งผู้เขียนมองว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการพัฒนาศักยภาพของตัวเอง และน่าจะเป็นประโยชน์อย่างมากกับการนำมาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอน ซึ่ง 13 วิธีที่ Freemalaysiatoday.com ได้นำเสนอนั้นมีดังนี้
เมื่อต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ การมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเรื่องนั้นมาก่อนจะเป็นประโยชน์อย่างมาก เพราะช่วยให้เราเข้าใจเนื้อหาสาระได้ดีมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีประสบการณ์จากความรู้เดิมที่มีอยู่ ซึ่งเมื่อเราเรียนรู้สิ่งใหม่ จะทำให้เรานำความรู้ใหม่นั้นไปเชื่อมต่อ เพื่อเรียกคืนและปรับปรุงความรู้เดิม ซึ่งจะช่วยให้เราเรียนรู้ได้รวดเร็วและดีมากยิ่งขึ้น
สำหรับในยุคดิจิทัลมันง่ายมากที่เราจะรวบรวมข้อมูลความรู้ต่าง ๆ ซึ่งหากว่าเราสามารถใช้สื่อได้หลากหลายรูปแบบ สำหรับการค้นคว้าในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง การเรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัสโดยใช้สื่อที่หลากหลายเหล่านั้นจะช่วยให้เราคงความรู้ไว้ได้นานและมีความเข้าใจมากยิ่งขึ้น
รูปแบบการเรียนรู้ของแต่ละคนนั้น อาจมีความแตกต่างกัน บางคนถนัดในการเรียนรู้รูปแบบหนึ่ง ส่วนอีกคนก็อาจถนัดอีกแบบหนึ่ง ดังนั้นควรมองหารูปแบบการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับตัวเองและเป็นเส้นทางที่ง่ายที่สุด เพื่อให้เข้าใจในความรู้นั้น ๆ ได้โดยง่ายและรักษาให้ความรู้เหล่านั้นให้คงทนต่อไป เช่น การบันทึกข้อมูลไว้ในโน้ตช่วยจำ การจำโดยใช้คำคล้องจอง หรือการแปรข้อมูลเป็นภาพวาด เป็นต้น
หากเราพยายามที่จะพัฒนากระบวนการเรียนรู้ของตัวเอง แต่อาจมีอุปสรรคหรือเหตุทำให้เกิดความล้มเหลวและไม่ประสบความสำเร็จ จงอย่ากลัวที่จะเริ่มต้นใหม่หรือลองทำมันอีกครั้ง แน่นอนมันไม่มีอะไรที่ได้มาง่าย ๆ และความล้มเหลวในครั้งนี้ก็ไม่ใช่การตีตราว่าครั้งต่อไป หรือครั้งต่อ ๆ ไปจะไม่ประสบความสำเร็จ เพราะในระยะยาวความพยายามเหล่านี้จะช่วยหล่อหลอมทักษะการเรียนรู้ของเราให้เรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
อภิปัญญาคือความรู้คิด การรู้จักควบคุมและประเมินความคิดตัวเอง ซึ่งมีองค์ประกอบสำคัญสองส่วน คือ การตระหนักรู้ว่ากำลังเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องอะไร อะไรคือสิ่งที่รู้แล้ว อะไรคือสิ่งที่ยังไม่รู้ อะไรถูก อะไรผิด และ ความสามารถในการควบคุมตนเองให้มีความรับผิดชอบต่อการทำงานเพื่อให้ไปถึงยังเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งการพัฒนาอภิปัญญาจะช่วยให้เราสามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว ใส่ใจ รับผิดชอบและให้ความสำคัญในการเรียนรู้เรื่องอย่างแท้จริง
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมนั้น มีผลอย่างมากต่อกระบวนการเรียนรู้ของบุคคล บางคนต้องการความเงียบสงบในการเรียนรู้ แต่บางคนอาจชอบให้มีดนตรีเป็นส่วนประกอบ ดังนั้นจงค้นหาสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการเรียนรู้ของตัวเองมากที่สุด เพื่อประโยชน์ในการเรียนรู้ที่ดีของตัวเอง
การเรียนรู้โดยการอ่านและศึกษาด้วยตัวเองตามลำพังนั้น อาจเป็นสิ่งที่ท้าทาย แต่อย่าลืมว่าการเรียนเป็นกลุ่มนั้นก็มีประโยชน์อย่างมากด้วยเช่นกัน ดังนั้นลองใช้วิธีรวมกลุ่มกับเพื่อน เพื่อศึกษาหรือทำงานร่วมกัน จะช่วยให้เราทราบถึงความคิดเห็นใหม่ ๆ ที่แตกต่างจากสมาชิกในกลุ่ม และช่วยให้เราตกผลึกความรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการศึกษาด้วยตัวเองตามลำพัง
การจัดสรรเวลาสำหรับการพักผ่อนระหว่างการเรียนรู้เพื่อหลีกเลี่ยงความเหนื่อยหน่ายนั้นจะช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลาย และช่วยให้สมองกลับมาทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพอีกครั้ง
บางครั้งเรามักจะหยิบทักษะใหม่ออกมาใช้ โดยหลงลืมไปว่าทักษะนั้นเหมาะสมกับรูปแบบการเรียนรู้ของเราหรือไม่ ดังนั้น ก่อนเริ่มงาน สิ่งสำคัญคือต้องถามตัวเองเสมอว่า “ทำไมฉันถึงเรียนรู้สิ่งนี้” และ “มันมีความสำคัญอะไร” เพราะอย่าลืมว่าเราจะเรียนรู้ได้ดีขึ้น เมื่อข้อมูลหรือทักษะนั้นมีประโยชน์กับตัวเราเอง ทักษะใด ๆ ที่เราเรียนรู้จะต้องเป็นทักษะที่ตัวเองสนใจและทำให้ตื่นเต้น มิฉะนั้น เราจะไม่มีแรงจูงใจที่จะยึดติดกับกระบวนการเรียนรู้นั้น
เราทุกคนควรมีการกำหนดเป้าหมายที่แน่นอนและเป็นไปได้ในชีวิตจริง ใครก็ตามที่ต้องการเรียนรู้สิ่งใดก็ควรต้องมีการวางแผนอย่างเหมาะสม สร้างตารางเวลาให้กับตัวเอง เวลาไหนเรียนรู้เวลาไหนควรพัก เพื่อสร้างเอฟเฟกต์การเว้นระยะห่าง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทราบกันดีว่าช่วยเพิ่มความจำและความสามารถในการเรียนรู้ของเราให้มากขึ้น
หากเราต้องต่อสู้กับความวิตกกังวลและความเครียดจากการเรียนรู้ การทำสมาธิจะช่วยให้ สมองทำงานได้อย่างเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น และช่วยลดข้อผิดพลาดในการรับรู้และการเรียนรู้ในเรื่องต่าง ๆ
กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนโดยเฉพาะกรดไขมันโอเมก้า 3 คือสิ่งที่พบได้ใน น้ำมันพืช เช่นน้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันข้าวโพด หรือน้ำมันทานตะวัน รวมไปถึงถั่วและเมล็ดพืชต่าง ๆ ปลาน้ำลึกและอาหารทะเล ซึ่งสิ่งนี้ช่วยปรับปรุงการทำงานของสมองได้ เพราะกรดไขมันเหล่านี้ช่วยผลิตเอนไซม์และเพิ่มการเผาผลาญการบริโภคประจำวัน และทำให้แกนความจำของสมองแข็งแรงมากขึ้น และยังมีประสิทธิภาพในการต่อต้านความผิดปกติของพัฒนาการอีกด้วย
การดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ จะช่วยให้เราจดจำสิ่งต่าง ๆ ได้รวดเร็วและดีมากยิ่งขึ้น การออกกำลังกายเป็นประจำไม่ว่าจะเป็นการยกดัมเบล หรือวิ่งเหยาะ ๆ นั้น ให้ประโยชน์กับร่างกายเป็นอย่างมาก รวมถึงช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการเรียนรู้ของเราอีกด้วย
ทั้งหมดนี้คือวิธีที่ดี ที่ช่วยให้เราสามารถพัฒนากระบวนการเรียนรู้ใหม่ ๆ ด้วยตัวเองได้อย่างรวดเร็ว และทำให้สมองของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งถ้าสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการพัฒนาตัวเอง หรือการส่งเสริมการเรียนการสอนได้ ก็จะส่งผลดีต่อการเรียนรู้ สำหรับทั้งตัวเองและผู้ที่ต้องการพัฒนาได้เป็นอย่างมาก
เรียบเรียงโดย : นรรัชต์ ฝันเชียร