Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

5 การเตรียมความพร้อมที่ช่วยให้สมองของนักเรียนทำงานได้ดีขึ้น

Posted By Plook Teacher | 02 พ.ย. 63
5,257 Views

  Favorite

สมองคืออวัยวะสำคัญที่เป็นดั่งศูนย์บัญชาการของร่างกาย เพราะเต็มไปด้วยเซลล์ประสาทต่าง ๆ ที่ทำหน้าที่หลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแสดงความรู้สึกนึกคิด การควบคุมการทำงานต่าง ๆ ของร่างกายทั้งภายในและภายนอก ตลอดจนการรับรู้และเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ

การส่งเสริมสมองให้สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่นั้น นอกจากจะช่วยให้เราใช้สมองได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ เพราะช่วยชะลอความเสื่อมของสมอง ทำให้เรายังคงใช้ประโยชน์จากสมองของเราตราบเท่าที่เรายังมีชีวิต

สำหรับนักเรียน สมองนับว่าเป็นอวัยวะที่สำคัญอย่างมากในการประมวลผลและเรียนรู้และตัวแปรที่สำคัญอย่างหนึ่ง ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการเรียนรู้ของนักเรียน ตลอดจนไปถึงบุคคลทั่วไปด้วย นอกจากนี้ปัจจัยต่าง ๆ จากภายนอกเช่น สิ่งแวดล้อม อารมณ์ความรู้สึก รวมถึงความต้องการด้านกายภาพต่าง ๆ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นตัวแปรที่ส่งผลต่อการประสิทธิภาพทำงานของสมองแทบทั้งสิ้น ดังนั้นการเตรียมความพร้อมสำหรับสมองที่ดีจะช่วยให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านการทำงานของสมองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งต่อไปนี้คือเคล็ดลับในการเตรียมความพร้อมให้กับสมองของนักเรียนที่ครูผู้สอนสามารถดำเนินการได้

 

1. การดื่มน้ำ

     ภายในสมองมีน้ำเป็นส่วนประกอบถึงกว่าร้อยละ 60 และยังเป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับเซลล์ต่าง ๆ ในสมอง ทำให้น้ำจึงเป็นส่วนสำคัญมากในการหล่อเลี้ยงสมองและระบบประสาท การดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ ประมาณวันละ 6 – 8 แก้ว จะช่วยให้สมองมีความชุ่มชื้นและส่งผลดีต่อระบบประสาท เพราะถ้าร่างกายได้รับน้ำอย่างเพียงพอแล้ว ก็จะส่งผลทำให้เซลล์สมองทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

     การส่งเสริมให้นักเรียนดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอ เช่น ให้เวลาพักดื่มน้ำก่อนที่จะเริ่มคาบเรียน หรือการอนุญาตให้นักเรียนพกขวดน้ำหรือกระติกน้ำระหว่างเรียนหนังสือ โดยที่พวกเขาสามารถดื่มได้ทุกเวลา หรือ การทำเครื่องหมายไว้บนขวดน้ำ และสนับสนุนให้นักเรียนดื่มน้ำให้ถึงจุดที่กำหนดทุกวัน คือแนวทางที่น่าเป็นประโยชน์และช่วยส่งเสริมให้นักเรียนดื่มน้ำได้ตามปริมาตรที่ร่างกายต้องการ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมองต่อการพัฒนาขอสมองของนักเรียน    

 

2. การรับประทานอาหาร

     การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และตรงตามหลักโภชนาการ ครบ 5 หมู่ จะช่วยให้บรรดาเชลล์ต่าง ๆ ในสมองคงสภาพและมีการเจริญเติบโตที่ดี ซึ่งจะส่งผลทำให้มีความจำดีและเกิดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ

     สำหรับเรื่องนี้ งานโภชนาการอาหารของโรงเรียนจะมีบทบาทสำคัญที่จะช่วยพัฒนาสุขอนามัยให้กับนักเรียน การจัดเตรียมอาหารที่สะอาด มีคุณค่าทางอาหารครบ 5 หมู่ ในปริมาตรที่เหมาะสมกับวัยของนักเรียน และคอยส่งเสริมให้นักเรียนรับประทานอาหารให้ครบทุกอย่างตามที่กำหนด จะทำให้นักเรียนได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างส่วนต่าง ๆ ของร่างกายนักเรียนให้มีความแข็งแรงสมบูรณ์ ซึ่งรวมไปถึงสมองของนักเรียนด้วย

 

3. การนั่งสมาธิและกำหนดลมหายใจ

     การหายใจ เป็นการนำออกซิเจนเข้าไปสู่ร่างกาย ซึ่งสมองนั้นเป็นอวัยวะที่ต้องการออกซิเจนอย่างต่อเนื่องจึงจากสามารถทำงานได้ การได้ออกซิเจนไม่เพียงพอนั้นเป็นผลเสียร้ายแรงกับสมองจนถึงขั้นทำให้เกิดการเสียชีวิตได้ด้วยภาวะสมองขาดออกซิเจน จึงนับได้ว่าออกซิเจนคือแหล่งอาหารสำคัญสำหรับสมองของมนุษย์เราที่ต้องได้รับในคุณภาพที่เหมาะสมและต่อเนื่อง

     การส่งเสริมให้นักเรียนนั่งสมาธิเพื่อเตรียมตัวก่อนที่จะเริ่มเรียนในคาบเรียนต่าง ๆ นั้น นับว่าเป็นแนวทางที่ดีในการส่งเสริมการทำงานของสมอง เพราะการฝึกหายใจลึก ๆ ซ้ำ ๆ อย่างมีจังหวะแน่นอน จะช่วยให้สมองได้รับออกซิเจนในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งจะส่งผลดีอย่างมากกับนักเรียน เพราะ ช่วยให้สมองปลอดโปร่ง และใช้สมองสำหรับกระบวนการคิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากการปรับปรุงบรรยากาศในห้องเรียนให้มีแหล่งออกซิเจนที่สะอาดเพียงพอกับจำนวนสมาชิกในชั้นเรียน เช่น การปลูกพรรณไม้เพื่อฟอกอากาศ หรือการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศไว้ในห้องเรียน จะช่วยให้นักเรียนได้รับออกซิเจนบริสุทธิ์ซึ่งเป็นผลดีกับสมองของนักเรียน

 

4. การฟังเพลง / ดนตรี

     การฟังเพลงหรือฟังดนตรีนั้น ช่วยให้เกิดการรับรู้และกระตุ้นการทำงานของสมองทั้งสองซีกให้สามารถทำงานสอดคล้องกันได้ทั้งระบบ นอกจากนี้การฟังเพลงจะช่วยให้สมองผลิต Alpha Waves และ Theta Waves ซึ่งเป็นคลื่นที่ช่วยเกิดการเรียนรู้ที่รวดเร็วและมีความคิดสร้างสรรค์ชั้นสูง

     วิธีการอย่างหนึ่งที่ช่วยให้นักเรียนจดจำบทเรียนได้ดี คือ การนำบทเรียนมาดัดแปลงเป็นบทเพลงหรือคำกลอนซึ่งจะช่วยให้นักเรียนจอดจำได้ดีกว่า เพื่อธรรมชาติของสมองนั้นสามารถเรียนรู้ได้ดีจากการเชื่อมโยงอย่างเหมาะสม นอกจากนี้การเปิดเพลงเบา ๆ ในระหว่างที่นักเรียนทำงานที่สร้างสรรค์ เช่น การประดิษฐ์ หรือศิลปะ ก็มีส่วนช่วยให้นักเรียนมีไอเดียน่าสนใจและกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ที่แปลกใหม่ได้

 

5. การคลายความเครียด

     ความเครียดนั้น เป็นว่าอุปสรรคที่สำคัญต่อการเรียนรู้ เพราะความเครียดและความกดดันจะส่งผลสำหรับประสิทธิการทำงานของสมองลดลง ดังนั้น จึงควรหาเวลาพักผ่อน ออกกำลังกาย และบริหารสมองในบางครั้ง เพื่อขจัดความเครียดและทำให้สมองกลับมาทำงานได้ตามปกติ

     สำหรับการคลายเครียดระหว่างการเรียนนั้น ครูผู้สอนอาจให้เวลาพักสัก 5 นาทีเพื่อให้นักเรียนได้ยืดเส้นยืดสายหรือผ่อนคลายจากบทเรียน หรือบางทีครูผู้สอนอาจจะสอดแทรกมุกตลกหรือเกมที่สนุกสนานในบทเรียน  ซึ่งจะช่วยนักเรียนกลับมาเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

     การเรียนรู้เกี่ยวกับสมองนั้น นับว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก เพราะจะทำให้เราสามารถเข้าใจการทำงานของสมองมากขึ้น และช่วยให้เราหาวิธีการและแนวทางเพื่อสนับสนุน รวมถึงส่งเสริมการทำงานของสมองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้

 

     เมื่อสมองได้รับสิ่งที่จำเป็นอย่างเพียงพอ สิ่งที่ตามมาก็คือการได้มาซึ่งทักษะกระบวนการในการเรียนรู้ที่ดี ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากกับนักเรียน ทั้งในช่วงที่กำลังศึกษาเล่าเรียนหรือแม้แต่การดำเนินชีวิตในอนาคต ดังนั้นครูผู้สอนจึงควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาสมองของนักเรียนให้มาก

 

เรียบเรียงโดย : นรรัชต์  ฝันเชียร

 

 

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook Teacher
  • 127 Followers
  • Follow