เมื่อพูดถึงคำว่า “อดทน” พ่อแม่หลายคนมักจะคิดไปในทางที่ว่า การฝึกความอดทนให้ลูก หมายถึง การให้ลูกไปอยู่ในสภาวะการณ์ที่ยากลำบาก แต่ในความเป็นจริงแล้ว การฝึกความ “อดทน” ให้กับลูกนั้น หมายถึง การสร้างสภาวะทางจิตใจให้ลูก มีความอดทนต่อการสถานการณ์หรือเหตุการณ์ที่ไม่เป็นอย่างที่เขาต้องการ หรือการสร้างความพร้อมทางอารมณ์ ให้ลูกสามารถรับมือกับอุปสรรคหรือปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้นั่นเอง ซึ่ง “ความอดทน” นั้น คือ 1 ในคุณสมบัติสำคัญที่จะทำให้ลูกประสบความสำเร็จ
การฝึกความอดทนให้กับลูกนั้น สิ่งสำคัญก็คือ การมีต้นแบบที่ดี พ่อแม่ต้องแสดงให้ลูกเห็นว่า “ความอดทน” เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยฝึกให้ลูกได้เรียนรู้จากพฤติกรรมของพ่อแม่ เช่น การเข้าคิว การมีความพยายามเมื่อเกิดปัญหา ซึ่งเมื่อลูกได้เห็นพฤติกรรมเหล่านี้อยู่บ่อยครั้ง ลูกจะเกิดพฤติกรรมเลียนแบบ และเรียนรู้การควบคุมอารมณ์และพฤติกรรมในด้านลบของตนเองได้มากขึ้น
พ่อแม่ควรฝึกให้ลูกได้ช่วยเหลือและพึ่งพาตนเองตั้งแต่เล็ก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกให้ลูกได้ทำกิจวัตรประจำวันด้วยตัวเอง หรือการมอบหมายงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ลูกได้รับผิดชอบ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยทำให้ลูกเกิดการเรียนรู้ และรู้จักการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยตนเอง และเมื่อลูกได้รับการฝึกฝนจากการทำงานหรือกิจกรรมต่าง ๆ อยู่บ่อยครั้ง ลูกจะเริ่มสะสมประสบการณ์ และเรียนรู้ว่า ในการทำงานแต่ละชิ้นนั้น ต้องอาศัยความพยายามและอดทน เพื่อให้เกิดความสำเร็จ และสร้างความภูมิใจให้กับตนเอง
นอกจาก “ความอดทน” แล้ว การสอนให้ลูกรู้จัก “การรอคอย” ก็เป็นอีกหนึ่งทักษะที่สำคัญ เพราะในการใช้ชีวิตในสังคมนั้น ทักษะการรอคอยก็เป็นอีกหนึ่งทักษะที่จะช่วยให้ลูกสามารถใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข พ่อแม่สามารถฝึกให้ลูกรู้จักการรอคอยได้ด้วยการหมั่นพาลูกไปเข้ากลุ่มทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น ฝึกให้ลูกได้เรียนรู้กฎระเบียบของสังคมที่หลากหลาย และแตกต่างกันในแต่ละที่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยทำให้ลูกมีภูมิคุ้มกันทางอารมณ์ และสามารถควบคุมตัวเองได้ดีในสภาวะที่ตนเองไม่คาดฝัน
สุภาพรรณ ศรีสุข (ครูแหม่ม)
ที่ปรึกษาวิชาการ โรงเรียนศิลปพัฒนาการสมองเด็ก K.D.S.