14 Views
คนส่วนใหญ่ล้มเหลวตั้งแต่วันแรก เพราะตั้งเป้าหมายแบบกว้าง ลองปรับเปลี่ยนเป็นเป้าหมายแบบเฉพาะเจาะจ เช่น “อยากผอม” “อยากเก็บเงิน” “อยากเก่งภาษาอังกฤษ”
วิธีที่ถูกต้องคือ ต้องตั้งแบบเฉพาะเจาะจงมากขึ้น และวัดผลได้จริง
ตัวอย่าง
- ลดน้ำหนัก 5 กิโลภายใน 3 เดือน โดยออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3 ครั้ง
- เก็บเงินเดือนละ 2,000 บาทเพื่อให้ครบ 24,000 บาทใน 1 ปี
- เรียนอังกฤษวันละ 20 นาทีด้วยคอร์สออนไลน์
หลายคนล้มเหลวเพราะตั้งเป้าหมายหลายข้อเกินไป เช่น 10–15 ข้อ จนกลายเป็นภาระ ปีนี้ให้ใช้หลัก 3 เป้าหลัก + 2 เป้าย่อย
3 เป้าหมายหลัก = สิ่งที่สำคัญที่สุดของปี
2 เป้าหมายรอง = สิ่งที่อยากทำเพิ่ม หากมีเวลา
จัดลำดับความสำคัญแบบนี้ทำให้ความสำเร็จเพิ่มขึ้นมากกว่า 70%
New Year Resolution จะสำเร็จหรือไม่ ต้องทำได้จริงและไม่เกินศักยภาพ หากตั้งเป้าเกินตัวไป เช่น เก็บเงินเดือนละ 10,000 บาท โดยที่เรามีรายได้แค่ 15,000 บาท ก็อาจทำให้ยากและเครียดเกินไป ในที่สุดก็เลิกทำ เพราะเหนื่อยเกินไป ลองปรับเป้าหมายให้เข้ากับชีวิตจริง หรือหากยากเกินไป ให้ “ลดขนาดเป้าหมาย” ไม่ใช่ตัดทิ้ง การมีเป้าหมายเล็ก ๆ ที่ทำสม่ำเสมอ ดีกว่าการตั้งเป้าใหญ่แต่ทำไม่สำเร็จ
เป้าหมาย จะสำเร็จเมื่อแปลงเป็นนิสัย เช่น
- อยากลดน้ำหนัก → เริ่มเดินวันละ 10–15 นาที
- อยากเก็บเงิน → เริ่มโอนเข้าบัญชีอัตโนมัติเดือนละ 500
- อยากอ่านหนังสือ → อ่านวันละ 5 หน้าก่อนนอน
ลองใช้วิธีกฎ 2 นาที เริ่มต้นด้วยสิ่งที่ใช้เวลาไม่เกิน 2 นาที เพื่อสร้างวินัยก่อน จากนั้นค่อยเพิ่มระดับจนปรับเปลี่ยนเป็นนิสัยที่ทำเองโดยธรรมชาติ
การตั้ง New Year Resolution ไม่สำเร็จ เพราะขาดระบบติดตามผล คนส่วนใหญ่มักมองข้ามสิ่งนี้ทำให้เป้าหมายล้มเหลวไป สิ่งที่ควรทำคือ
- บันทึกเป้าหมายตัวเองทุกเดือน
- เช็กว่าเป้าหมายยังเหมาะกับชีวิตไหม
- ปรับแผนตามสถานการณ์โดยไม่รู้สึกผิด
เป้าหมายที่ไม่มีเหตุผลชัดเจน จะหมดแรงทำภายในไม่กี่สัปดาห์ ให้ถามตัวเองว่า “ทำไมฉันต้องทำให้สำเร็จ?”
ตัวอย่าง
- อยากลดน้ำหนักเพื่อสุขภาพ เพราะเพิ่งตรวจเจอไขมันสูง
- อยากเก็บเงิน เพราะอยากมีไว้ใช้ตอนเกษียณ
- อยากเรียนภาษาอังกฤษ เพื่อเลื่อนตำแหน่งในปีหน้า
หากเราเข้าใจตัวเองและหาเหตุผลลึก ๆ เราจะไม่ล้มเลิกเป้าหมายที่ตั้งไว้แบบง่าย ๆ
สมองต้องการ “รางวัล” เพื่อสร้างนิสัยระยะยาว ดังนั้นการฉลองความสำเร็จให้รางวัลเล็ก ๆ กับตัวเอง ในการบรรลุเป้าหมาย แม้เรื่องเล็ก ๆ เป็นสิ่งที่เราควรทำได้ เช่น
- เดือนนี้เก็บเงินได้ครบ → ให้รางวัลด้วยหนังสือเล่มใหม่
- ออกกำลังกายครบ 12 ครั้ง → กินอาหารที่ชอบได้ 1 มื้อ
- อ่านหนังสือครบ 3 เล่ม → ไปคาเฟ่ดี ๆ สักที
เพราะรางวัลเล็ก ๆ = พลังใจในการทำเป้าหมายต่อไป
ทุกเป้าหมายมีช่วงที่หลุดหรือทำไม่ได้เกิดขึ้นได้เสมอ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ อย่ารอ “เริ่มใหม่วันจันทร์” อย่ารอ “เดี๋ยวค่อยเริ่มปีหน้า” ให้เปลี่ยนเป็น “เริ่มใหม่ทันทีในวันพรุ่งนี้” การกลับมาทำต่อคือทักษะสำคัญที่สุดของการทำเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้สำเร็จ