- ชาเขียวอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ (Catechins) ที่ช่วยชะลอวัยและลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง
- มีคาเฟอีนในปริมาณที่พอเหมาะ ช่วยกระตุ้นสมองให้ตื่นตัว แต่ไม่ทำให้ใจสั่นเท่ากับกาแฟ
- ช่วยเพิ่มการเผาผลาญและการใช้พลังงาน เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก
- มีกรดอะมิโน L-Theanine ที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียด
แม้หลายคนอาจคุ้นเคยกับชาเขียวในของหวานมากกว่า แต่จริง ๆ แล้วชาเขียวสามารถนำมาใช้กับอาหารคาวได้หลากหลายเช่นกัน
1. พาสต้าชาเขียว
เส้นพาสต้าที่ผสมชาเขียวลงไปในการทำแป้ง ทำให้เส้นมีสีเขียวอ่อนสวยงาม รสชาติหอมละมุนอ่อน ๆ ของชาเขียวเข้ากันได้ดีกับซอสครีม หรือแม้แต่ซอสเพสโต้
2. ซุปมิโสะชาเขียว
นำชาเขียวมาเติมลงในซุปมิโสะ จะได้รสชาติกลมกล่อมมากขึ้น พร้อมเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระในมื้ออาหาร
3. ข้าวสวยรสชาเขียว
อาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่ราดน้ำชาเขียวลงบนข้าวสวย กินคู่กับปลาแซลมอนย่าง สาหร่าย หรือบ๊วยดอง เป็นเมนูเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยรสชาติและประโยชน์
4. ไอศกรีมชาเขียว
เป็นของหวานยอดฮิตที่ทำง่ายและมีรสชาติกลมกล่อม โดยใช้ผงชาเขียวคุณภาพดีผสมกับครีมหรือนม
5. เค้กโรลชาเขียว
เนื้อเค้กนุ่ม ๆ ที่สอดไส้ครีมสดและผงชาเขียว กลายเป็นของหวานที่ทั้งหอมและอร่อย แถมยังดูพรีเมียมขึ้น
6. ชีสเค้กชาเขียว
ผสานความเข้มข้นของชีสกับความหอมของชาเขียว ได้รสชาติที่ตัดกันอย่างลงตัว
7. คุกกี้ชาเขียว
เป็นเมนูอบกรอบที่กินเพลิน เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ขนมทานเล่นแบบสุขภาพมากกว่าคุกกี้ทั่วไป
8. สมูทตี้ชาเขียวดีท็อกซ์
ปั่นชาเขียวกับผักผลไม้ เช่น กล้วย แอปเปิ้ล หรือผักโขม
9. ชาเขียวผสมเลมอน
เพิ่มรสเปรี้ยวสดชื่น แถมช่วยเสริมวิตามินซี
10. ชาเขียวโซดา
ดื่มแล้วสดชื่นแบบซ่า ๆ และยังคงได้คุณค่าจากชาเขียว
- เลือกชาเขียวคุณภาพสูง – ควรใช้ผงมัทฉะหรือใบชาเขียวออร์แกนิก เพื่อให้ได้รสชาติและประโยชน์ที่แท้จริง
- ควบคุมปริมาณน้ำตาล – แม้จะทำเป็นเมนูของหวาน ก็ควรลดน้ำตาลหรือใช้น้ำผึ้งแทน
- ผสมกับวัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพ – เช่น ผลไม้สด ธัญพืช หรือโยเกิร์ต เพื่อเสริมคุณค่าทางโภชนาการ
- ดื่มหรือทานในปริมาณที่เหมาะสม – ชาเขียวมีคาเฟอีน หากมากเกินไปอาจทำให้นอนไม่หลับ