ก่อนที่จะดำเนินการปฐมพยาบาล สิ่งสำคัญคือต้องประเมินสถานการณ์อย่างรวดเร็วและถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองและผู้ประสบเหตุ
- ตั้งสติ: พยายามทำให้ตัวเองสงบเพื่อตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ประเมินสถานที่: ตรวจสอบว่าสถานที่เกิดเหตุปลอดภัยหรือไม่ เช่น มีไฟลุกไหม้หรือมีวัตถุอันตรายหรือไม่
- โทรแจ้งเหตุ: หากสถานการณ์รุนแรงหรือเกินความสามารถ ให้รีบโทรแจ้งหน่วยกู้ภัยหรือหมายเลขฉุกเฉินทันที (ในประเทศไทย โทร 1669)
ทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้นสามารถช่วยชีวิตผู้ประสบเหตุได้ เรามาดูวิธีการปฐมพยาบาลสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่พบบ่อยที่สุด
การทำ CPR เป็นหนึ่งในเทคนิคสำคัญที่ควรทราบเมื่อเจอผู้หมดสติและไม่หายใจ ซึ่งการกระทำที่รวดเร็วและถูกต้องอาจช่วยรักษาชีวิตของผู้ป่วยได้
- ตรวจการหายใจ: ถ้าผู้ป่วยไม่หายใจ ให้เริ่มทำ CPR ทันที
- วิธีการทำ CPR: ใช้สองมือวางทับกันกลางหน้าอกของผู้ป่วย และกดลงแรงๆ ด้วยจังหวะ 100-120 ครั้งต่อนาทีจนกว่าความช่วยเหลือจะมาถึง
หากมีผู้บาดเจ็บจากการเกิดแผลหรือการตกเลือด ควรปฐมพยาบาลเพื่อหยุดการตกเลือดอย่างเร่งด่วน
- ใช้ผ้ากดแผล: ใช้ผ้าสะอาดกดที่บาดแผลให้แน่นเพื่อหยุดเลือด และหากมีวัตถุแปลกปลอมเช่น เศษแก้ว ให้ปล่อยไว้อย่าพยายามดึงออก
- ยกส่วนที่บาดเจ็บสูงกว่าระดับหัวใจ: เพื่อช่วยลดการตกเลือดหากไม่มีการบาดเจ็บที่กระดูก
หากพบคนสำลักอาหารหรือวัตถุใดๆ ในลำคอจนหายใจไม่ออก ควรใช้วิธีการช่วยเหลือที่เรียกว่า Heimlich Maneuver โดยทำดังนี้
- ยืนด้านหลังผู้สำลัก: วางแขนรอบตัวและใช้มือกดดันบริเวณใต้กระบังลมขึ้นไปทางด้านบนจนกว่าวัตถุจะออกจากลำคอ
- หากเป็นทารกหรือเด็กเล็ก: ให้พลิกตัวเด็กนอนคว่ำบนแขน แล้วตบหลังระหว่างสะบัก 5 ครั้ง เพื่อพยายามให้วัตถุหลุดออก
การบาดเจ็บจากไฟไหม้หรือน้ำร้อนลวกต้องการการรักษาที่เร่งด่วนเพื่อป้องกันการติดเชื้อและลดความเสียหายของผิวหนัง
- ใช้ความเย็น: ราดน้ำเย็นหรือใช้ผ้าเย็นประคบที่บริเวณบาดแผลเป็นเวลา 10-15 นาที ห้ามใช้น้ำแข็งหรือทาครีมใดๆ ลงบนแผลไฟไหม้
- ปิดแผลด้วยผ้าสะอาด: หลังจากทำให้แผลเย็นลงแล้ว ควรปิดแผลด้วยผ้าสะอาดและหลวม ๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
ในสถานการณ์ฉุกเฉิน การรักษาสุขภาพจิตเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจและดำเนินการอย่างถูกต้อง
- พยายามควบคุมอารมณ์: การคุมสติและอารมณ์จะช่วยให้คุณสามารถรับมือกับสถานการณ์ได้ดีขึ้น
- การหายใจลึก ๆ: หากรู้สึกตื่นตระหนก ให้ฝึกการหายใจลึก ๆ เพื่อปรับสภาพจิตใจให้สงบและมีสมาธิ
การมีชุดปฐมพยาบาลพร้อมใช้ทั้งที่บ้านและในรถเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเหตุฉุกเฉินสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
- ของที่ควรมีในชุดปฐมพยาบาล: เช่น ผ้าก๊อซ ยาใส่แผล พลาสเตอร์ ยาแก้ปวด และกรรไกรตัดผ้า
- ตรวจสอบและเติมของในชุดปฐมพยาบาลเป็นประจำ: ควรตรวจสอบว่าอุปกรณ์ในชุดปฐมพยาบาลยังใช้งานได้และไม่หมดอายุ เพื่อให้พร้อมสำหรับการใช้งานเสมอ