โอโซนเปรียบเสมือนครีมกันแดดที่คอยปกป้องไม่ให้แสง UV มาทำลายผิว เป็นเกราะคุ้มกัน ปกป้องพืชและสัตว์จากรังสีที่แผ่ออกมาจากดวงอาทิตย์ โดยเฉพาะรังสีอัลตร้าไวโอเลตบี (UV-B) ซึ่งเป็นรังสีที่เป็นอันตรายต่อชีวิตและธรรมชาติหากได้รับในปริมาณที่มากเกินไป
จากอุปกรณ์จับปริมาณก๊าซ โดยนายมารุมได้กลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์รอบ ๆ ขั้วผลิตกระแสไฟฟ้าจากอุปกรณ์ชุดทดลองของเขา อย่างไรก็ตาม การค้นพบโอโซนได้ถูกบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรในปี 2383 คือ ‘คริสเตียน ฟรีดริช เชินไบน์’ (Christian Friedrich Schönbein) นักเคมีชาวเยอรมัน โดยเขาตั้งชื่อก๊าซตามภาษากรีกคำว่า ‘Ozein’ ซึ่งแปลว่ากลิ่น หลังจากนั้นเครื่องผลิตโอโซนเครื่องแรกได้ถูกผลิตโดย ‘วอน ซีเมนต์’ (Von Siemens) ในกรุงเบอร์ลิน (Berlin)
ซึ่ง ‘มนุษย์’ อาจจะต้องทบทวนพฤติกรรมการใช้ชีวิตในปัจจุบัน การที่หลุมยิ่งกว้างมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีผลกระทบกับมนุษย์มากเท่านั้น และนอกจากมนุษย์แล้วสิ่งมีชีวิตบนโลกต่างได้รับผลกระทบนี้เช่นเดียวกัน
.
ลดการปล่อยมลพิษทางอากาศ เช่น การจำกัดจำนวนยานพาหนะ ลดการขับขี่ยานพาหนะส่วนตัว โดยเปลี่ยนมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะ เดิน หรือขี่จักรยาน
ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่มีสารเคมีที่ไม่ทำลายชั้นโอโซน
เลือกใช้สินค้าในครัวเรือน ที่ไม่มีสารทำลายโอโซน เช่น CFCs, ฮาลอน และ hydrofluorocarbons
ทิ้งตู้เย็นเก่า และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ รวมทั้งขยะอิเล็กทรอนิกส์รีไซเคิลของคุณอย่างถูกต้อง
.
เพื่อที่จะส่งต่อดวงดาวสีฟ้าดวงนี้ให้คนรุ่นหลังสามารถที่จะออกมาข้างนอกบ้านได้อย่างสบายใจ เด็ก ๆ สามารถที่จะออกมารับแสงแดดได้อย่างเต็มที่ ไม่เช่นนั้นโรคมะเร็งผิวหนังที่เป็นอันตราย อาจเกิดขึ้นกับมนุษย์ทุกคนก็เป็นได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก: European Environment Agency, หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี, วิกิพีเดีย