นมแพะ มีคุณค่าทางสารอาหารค่อนข้างสูง โดยมีปริมาณโปรตีนสูงสุดเมื่อเทียบกับนมชนิดอื่น ๆ โดยในนมแพะ 1 แก้ว ให้โปรจีนสูงถึง 9 กรัม มีไขมันอิ่มตัว 7 กรัม มีแคลเซียมคิดเป็นร้อยละ 35 ของปริมาณที่ต้องการในแต่ละวัน อีกทั้งยังมีวิตามินและแร่ธาตุบางชนิดมากกว่านมชนิดอื่น ๆ แต่มีกรดโฟลิกและวิตามิน b12 น้อยกว่านมวัว จึงเหมาะเป็นนมทางเลือกสำหรับเด็กที่แพ้นมวัวมากกว่า สำหรับเด็กที่ไม่แพ้นมวัว และมีอายุต่ำกว่า 1 ปี แพทย์ยังไม่แนะนำให้ดื่มนมแพะ เพราะอาจทำให้ระคายเคืองต่อระบบย่อยอาหาร และเกิดภาวะโลหิตจางจากการขาดวิตามิน b12 ได้
ในนมแพะมีโปรตีนเคซีน เวย์โปรตีน รวมไปถึงกรดอะมิโน 10 ชนิด และไขมันที่เป็นกรดไขมันดีที่ย่อยง่ายกว่านมวัว ทำให้ร่างกายดูดซึมไปใช้งานได้ง่ายกว่า นอกจากนี้โปรตีนในนมแพะยังมีลักษณะโครงสร้างคล้ายนมแม่ ทำให้ไม่เกิดอาการแน่นท้อง และช่วยให้ขับถ่ายได้คล่อง
การให้ลูกดื่มนมแพะช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของลูกได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพัฒนาการทางสมอง เพราะนมแพะมีสารอาหารส่วนใหญ่ใกล้เคียงกับนมวัว
เพราะในนมแพะอุดมไปด้วยวิตามิน เกลือแร่ และแร่ธาตุสำคัญบางชนิดที่จำเป็นต่อร่างกายในปริมาณที่สูงกว่านมวัว เช่น วิตามิน b2 วิตามิน b3 กรดโฟลิก และแร่ธาตุซีลีเนียม ซึ่งวิตามินและธาตุเหล็กเหล่านี้มีคุณสมบัติต่อต้านอนุมูลอิสระ และต้านการอักเสบ ช่วยลดการเกิดโรคต่าง ๆ และชะลอความเสื่อมของเซลล์ได้
นมแพะมีปริมาณแลกโทสน้อยกว่านมวัว คือ นมแพะมีแลกโทส 4.1% ขณะที่นมวัวมีแลกโทส 4.7% ซึ่งเหมาะสำหรับเด็กที่มีภาวะเสี่ยงต่อการแพ้นมวัว หรือมีภาวะย่อยน้ำตาลแลกโทสในนมผิดปกติ