เพราะดนตรีเป็นศาสตร์ที่ส่งผลต่อสภาพจิตใจของเรา การที่แม่ท้องฟังดนตรีที่ชอบขณะตั้งครรภ์จึงมีส่วนช่วยให้อารมณ์เบิกบานแจ่มใส และส่งผลดีต่อลูกในครรภ์ด้วย โดยดนตรีที่แม่ท้องเลือกฟังจะไม่มีกฎตายตัวว่าต้องเป็นแบบไหน เพลงอะไร ของใคร ขอแค่แม่ท้องชอบฟังก็เพียงพอ
ข้อควรระวังในการเปิดเพลง หากใช้หูฟังชนิดที่ครอบอันใหญ่ ควรเปิดเสียงดังพอประมาณ คือ เสียงดังประมาณที่แม่ท้องคุยกับลูกในครรภ์ ส่วนการใช้ลำโพง ควรให้อยู่ห่างจากหน้าท้องอย่างน้อย 1 ฟุต เพื่อไม่ให้เสียงดังเกินไปจนทำให้ลูกในครรภ์ตกใจและดิ้นแรงกว่าปกติ
การฟังเพลงสบาย ๆ หรือเพลงที่แม่ท้องชอบ ช่วยให้อารมณ์ของแม่ท้องผ่อนคลาย ไม่หงุดหงิด ไม่เบื่อ และช่วยให้แม่ท้องรู้สึกเพลิดเพลิน เมื่อแม่ท้องอารมณ์ดี ลูกน้อยในครรภ์ก็จะอารมณ์ดีตาม ส่งผลให้พัฒนาการของลูกเป็นไปในทิศทางที่ดียิ่งขึ้น
เมื่ออายุครรภ์ได้ 5 เดือน เด็กจะเริ่มมีพัฒนาการด้านระบบประสาทการรับฟัง หากแม่ท้องฟังเพลงและให้ลูกได้ฟังด้วย ลูกจะมีพัฒนาการทางการได้ยินที่เร็วขึ้น ลูกจะรู้สึกตื่นตัวและมีการดิ้นไปตามจังหวะของเพลงเป็นบ้างครั้ง
การที่แม่ท้องกับลูกในครรภ์ฟังเพลงร่วมกัน ช่วยกระชับความสัมพันธ์และสร้างความผูกพันระหว่างแม่กับลูกได้ เพราะถือเป็นการใช้เวลาว่างร่วมกัน หรือถ้าบางวันแม่ท้องไม่อยากฟังเพลง จะเปลี่ยนเป็นการร้องหรือฮัมเพลงกล่อมลูกก็ได้ เพราะจะยิ่งช่วยให้ลูกคุ้นเคยกับเสียงคุณแม่ได้ไวขึ้น
การเปิดเพลงจังหวะช้า ๆ สบาย ๆ หรือเพลงกล่อมนอนให้ลูกในครรภ์ฟัง ช่วยให้เขานอนหลับง่ายและสบายมากขึ้นได้ เพราะลูกจะรู้สึกสบายใจ มีความสุข อบอุ่น และรู้สึกสงบนั่นเอง