แผลผ่าคลอดของคุณแม่แต่ละท่านจะมีรูปร่างและลักษณะแตกต่างกันไป คือ อาจเป็นแผลเป็นแนวนอนตามแนวขอบกางเกงชั้นใน ยาวประมาณ 4-6 นิ้ว หรือแผลเป็นแนวตั้งใต้สะดือ ยาวประมาณ 4-6 นิ้ว ขึ้นอยู่กับวิธีและวัสดุที่แพทย์ใช้เย็บแผล
ในช่วงสับดาห์แรกหลังผ่า ผิวชั้นนอกของแผลจะเริ่มติดกัน เมื่อแผลปิดสนิทแผลจะเปลี่ยนสีเป็นสีแดงอมม่วงประมาณ 6 เดือน จากนั้นแผลจะค่อย ๆ จางเป็นสีขาวและเรียบขึ้น
1. ห้ามยกของหนักในช่วง 6 สัปดาห์แรกหลังคลอด
2. ล้างมือก่อนสัมผัสหรือทำความสะอาดแผลทุกครั้ง
3. หมั่นล้างแผลอย่างสม่ำเสมอ
4. ขมิบช่องคลอดบ่อย ๆ เพราะช่วยให้เลือดไหลไปเลี้ยงบริเวณนั้นมากขึ้น ช่วยกระตุ้นการสมานแผลได้
5. อาบน้ำด้วยสบู่ที่มีฤทธิ์อ่อน ไม่ถูสบู่หรือโลชั่นที่แผลโดยตรง
6. หมั่นเช็ดบริเวณแผลผ่าตัดให้แห้งอยู่เสมอ
7. สวมเสื้อผ้าสบายตัว ไม่รัดเกินไป เพื่อป้องกันการเสียดสี
8. ใช้ผ้ารัดหน้าท้องหลังคลอดเพื่อช่วยพยุงกล้ามเนื้อหลังเวลาเดิน จะช่วยลดความเจ็บปวดบริเวณแผลผ่าตัดได้
9. รับประทานโปรตีนในปริมาณที่พอดี เพื่อช่วยให้แผลสมานไวขึ้น
10. ลุกขึ้นเดินบ่อย ๆ การลุกเดินจะช่วยให้คุณแม่ฟื้นตัวได้ไว ไม่เกิดภาวะเลือดอุดตันภายหลัง
11. เมื่อแผลสมานตัว ควรปล่อยให้แผลลอกไปเอง ไม่ควรแกะหรือเกา เพราะอาจทำให้แผลอักเสบได้
12. หลังแผลแห้งสนิท ให้ทาวิตามินอีที่แผลเพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และลดโอกาสเกิดรอยแผลเป็นนูนหรือคีลอยด์ได้
13. หากพบสัญญาณแผลติดเชื้อ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
1. เจ็บบริเวณแผลหรือมดลูกมากผิดปกติ
2. เกิดรอยแดง บวม และแสบร้อนบริเวณแผล
3. มีหนองสีเขียวหรือเหลืองไหลออกมาจากแผล
4. ตกขาวมีกลิ่นไม่พึงประสงค์
5. ขาบวมหรือเจ็บ
6. มีไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส
7. มีเลือดออกทางช่องคลอดปริมาณมาก หรือมีลิ่มเลือดขนาดใหญ่ออกมาด้วย