สำหรับเด็กที่มีพื้นฐานของความมั่นใจในตนเอง หรือ Self Esteem จะเป็นเติบโตเป็นวัยรุ่นที่มีบุคคลิกโดดเด่น แสดงออกชัดเจน รู้ว่าตนเองมีดีอย่างไร และสามารถทำให้คนในสังคมยอมรับในตัวของเขาได้ ที่สำคัญ ความมั่นใจ เปรียบเสมือนภูมิคุ้มกันที่ทำให้ลูกสามารถดำเนินชีวิตและเติบโตไปได้อย่างมีความสุข
ความมั่นใจ หรือการรับรู้ถึงคุณค่าความสามารถของตนเอง ซึ่งสามารถสร้างได้ด้วยการส่งพลังบวกจากพ่อและแม่ การสร้างพลังใจอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยส่งเสริมให้ลูกมีความมุ่งมั่น มีความเชื่อมั่น และมองเห็นคุณค่าในตัวเอง ซึ่งพ่อแม่สามารถบ่มเพาะความมั่นใจให้กับลูกได้ดังนี้
หลายครอบครัวที่มักมีความคิดผิด ๆ ว่าการแสดงความรักกับลูกมากเกินไป จะทำให้ลูกเป็นเด็กที่เอาแต่ใจ เพราะหากพ่อแม่ละเลยที่จะแสดงความรักต่อลูก จะยิ่งทำให้ลูกรู้สึกโหยหา และกลายเป็นคนที่ขาดความมั่นใจในตัวเอง พ่อแม่สามารถแสดงออกทั้งคำพูดและการกระทำ พยายามหาโอกาสที่จะใช้เวลาร่วมกันกับลูก มองหาและชื่นชมความสามารถของลูก เมื่อลูกเริ่มเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ลูกจะเริ่มมีความสนใจในสิ่งใหม่ๆ อยากทำกิจกรรมใหม่ ๆ หากมีโอกาสก็ควรส่งเสริมให้ลูกได้ทำกิจกรรมที่สนใจ เพื่อให้ลูกได้มีประสบการณ์ชีวิตที่หลากหลาย ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถให้กับลูก โดยพ่อแม่อาจมีส่วนร่วมหรือคอยสังเกตอยู่ห่าง ๆ เพื่อเป็นการค้นหาพรสวรรค์ และสร้างความมั่นใจให้กับลูก
คำชมเชยจากพ่อแม่ ถือเป็นพลังใจสำคัญที่จะช่วยบ่มเพาะความมั่นใจให้กับลูก เพราะคำชมจากพ่อแม่ถือเป็นกระจกสะท้อนสำคัญ ที่ทำให้ลูกมองเห็นคุณค่าของตนเอง มองเห็นความสำเร็จที่ตนเองสามารถทำได้ ยิ่งเมื่อลูกเข้าสู่วัยรุ่น เป็นวัยที่โหยหาคำชื่นชม เป็นวัยที่อารมณ์ ความรู้สึกสั่นคลอนต่อคำพูดได้ง่าย ดังนั้นหากพ่อแม่ให้ความเข้าใจ ใส่ใจ และให้กำลังใจในสิ่งที่ลูกทำ จะยิ่งเป็นแรงผลักดันสำคัญที่จะทำให้ลูกประสบความสำเร็จ
ในการเริ่มต้นใหม่ หรือเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องใช้ความพยายามมากกว่าปกติ และเป็นเรื่องธรรมดาที่ในครั้งแรกอาจเกิดความผิดพลาด หรือไม่ประสบความสำเร็จ พ่อแม่จะต้องคอยให้กำลังใจ และทำความเข้าใจ เมื่อลูกเกิดความผิดพลาดควรสอนให้ลูกรู้จักแก้ปัญหาจากความผิดพลาดนั้น หลีกเลี่ยงการใช้คำพูดรุนแรง หรือแสดงความผิดหวังกับลูก เพราะจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี เมื่อพ่อแม่สร้างกำลังใจช่วยให้ลูกสามารถข้ามผ่านปัญหานั้นไปได้ ลูกก็จะเกิดความภาคภูมิใจ และเกิดความพยายามในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาตัวเองมากขึ้น
สุภาพรรณ ศรีสุข (ครูแหม่ม)
ที่ปรึกษาวิชาการ โรงเรียนศิลปพัฒนาการสมองเด็ก K.D.S.