ประกันสังคม คือ หลักประกันการดำรงชีวิตของผู้ที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งผู้ประกันตนแต่ละมาตรามีรายละเอียดแตกต่างกัน และให้ความคุ้มครองแตกต่างกัน ดังนี้

ลิงก์ดาวน์โหลดคู่มือผู้ประกันตน >> คลิก <<

ผู้ประกันตน (มาตรา 33)

คือ พนักงานเอกชนทั่วไป หรือลูกจ้างผู้ซึ่งทำงานให้กับนายจ้างที่อยู่ในสถานประกอบการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป โดยได้รับความคุ้มครอง 7 กรณี ดังนี้

1. กรณีเจ็บป่วย โดยจะได้รับสิทธิรักษาตัวในโรงพยาบาลตามสิทธิหรือเครือข่ายของโรงพยาบาลนั้น ๆ ฟรี รวมไปถึงได้รับสิทธิอื่น ๆ เพิ่มเติม คือ

- บำบัดทดแทนไต

- การปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต

- เปลี่ยนอวัยวะกระจกตา

- ปลูกถ่ายอวัยวะ

- ฮีโมฟีเลีย (กลุ่มโรคเลือดออกง่าย)

- โรคหัวใจและหลอดเลือดของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์

- ประสบอันตราย หรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน

- ประสบอันตราย หรือเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต (UCEP)

- ทันตกรรม

2. กรณีคลอดบุตร มีสิทธิได้รับค่าคลอดบุตรโดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง ทั้งในผู้ประกันตนหญิง และผู้ประกันตนชาย

3. กรณีทุพพลภาพ จะได้รับเงินชดเชยและสิทธิตามกำหนด ทั้งในกรณีที่สูญเสียไม่รุนแรง และสูญเสียรุนแรง

4. กรณีตาย ผู้ประกันตนจะได้รับค่าทำศพ และเงินสงเคราะห์ตามที่กำหนด

5. กรณีสงเคราะห์บุตร จะได้รับเงินสงเคราะห์บุตรเหมาจ่ายเดือนละ 800 บาท/บุตร 1 คน/เดือน

6. กรณีชราภาพ ได้รับเงินบำเหน็จชราภาพ เท่ากับจำนวนเงินสมทบที่ผู้ประกันตนและนายจ้างจ่ายสมทบ พร้อมผลประโยชน์ตอบแทนตามที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด

7. กรณีว่างงาน ทั้งในกรณีถูกเลิกจ้าง ลาออก หรือสิ้นสุดสัญญาจ้าง จะได้รับเงินทดแทนตามที่กำหนด ซึ่งผู้ประกันตนต้องขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานและรายงานตัวทางระบบอินเตอร์เน็ตที่ https://empui.doe.go.th/ ภายใน 30 วันนับจากวันที่ถูกเลิกจ้างหรือลาออก

*ผู้ประกันตน มาตรา 33 สามารถนำเงินที่จ่ายให้แก่ประกันสังคมในปีนั้น ยื่นหักลดหย่อนภาษีได้

ผู้ประกันตนโดยสมัครใจ (มาตรา 39)

คือ ผู้ที่เคยเป็นพนักงานประจำแต่ลาออก หรือเป็นบุคคลที่เคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 จ่ายเงินสมทบก่อนออกจากงานมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน แล้วลาออก แต่ต้องการรักษาสิทธิประกันสังคม โดยมีค่าใช้จ่ายที่ต้องนำส่งสำนักงานประกันสังคมเดือนละ 432 บาท/เดือน ได้รับความคุ้มครอง 6 กรณี ต่อเนื่องจากการเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ดังนี้

1. กรณีเจ็บป่วย

2. กรณีทุพพลภาพ

3. กรณีคลอดบุตร

4. กรณีเสียชีวิต

5. กรณีสงเคราะห์บุตร

6. กรณีชราภาพ

*ผู้ประกันตน มาตรา 39 สามารถนำเงินที่จ่ายให้แก่ประกันสังคมในปีนั้น ยื่นหักลดหย่อนภาษีได้เหมือนกับผู้ประกันตน มาตรา 33 โดยติดต่อที่สำนักงานประกันสังคม เพื่อแจ้งให้เจ้าหน้าที่ออกหนังสือรับรองให้

ผู้ประกันตนโดยสมัครใจ (มาตรา 40)

คือ บุคคลทั่วไปที่ประกอบอาชีพอิสระหรือแรงงานนอกระบบ ไม่เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 หรือผู้ประกันตนมาตรา 39 ได้รับความคุ้มครองตามจำนวนเงินสมทบที่จ่ายต่อเดือน ดังนี้

1. ผู้ประกันตนที่จ่าย 70 บาท / เดือน ได้รับความคุ้มครอง 3 กรณี คือ

- เงินทดแทนการขาดรายได้ กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย

- เงินทดแทนการขาดรายได้ กรณีทุพพลภาพ

- ได้รับค่าทำศพกรณีเสียชีวิต

2. ผู้ประกันตนที่จ่าย 100 บาท / เดือน ได้รับความคุ้มครอง 4 กรณี คือ

- เงินทดแทนการขาดรายได้ กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย

- เงินทดแทนการขาดรายได้ กรณีทุพพลภาพ

- ได้รับค่าทำศพกรณีเสียชีวิต

- ได้รับเงินบำเหน็จกรณีชราภาพ

3. ผู้ประกันตนที่จ่าย 300 บาท / เดือน ได้รับความคุ้มครอง 5 กรณี คือ

- เงินทดแทนการขาดรายได้ กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย

- เงินทดแทนการขาดรายได้ กรณีทุพพลภาพ

- ได้รับค่าทำศพกรณีเสียชีวิต

- ได้รับเงินบำเหน็จกรณีชราภาพ

- เงินสงเคราะห์บุตร

สำหรับรายละเอียดความคุ้มครองต่าง ๆ ของแต่ละมาตรา ผู้ประกันตนสามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และสอบถามรายละเอียดได้ตามพิกัดด้านล่างนี้ ทั้งนี้ สิทธิประกันสังคมบางรายการอาจมีการเปลี่ยนแปลง ผู้ประกันตนควรหมั่นอัพเดทข้อมูล เพื่อให้ได้รับสิทธิต่าง ๆ ครบถ้วน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

สำนักงานประกันสังคมในพื้นที่ใกล้บ้าน

สายด่วน : 1506 (ตลอด 24 ชั่วโมง)

Website : https://www.sso.go.th/wpr/